‘บริทาเนีย’ ถือเป็นหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ที่ถนัดด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า บริทาเนีย คำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักมาโดยตลอด มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และผสมผสานจุดแข็งหลาย ๆ ส่วนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา Pain Point ต่าง ๆ ของกลุ่มเป้าหมาย หรือการวิเคราะห์ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพื่อพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยมากที่สุด
ซึ่งวันนี้ผมเลยจะพาทุกคนมาหาคำตอบกันว่า ทำไมแบรนด์ ‘BRITANIA’ ถึงประสบความสำเร็จ
Prime Location ‘เทพารักษ์’
เดินทางสะดวก เข้าเมืองง่าย
อย่างแรกเลย บริทาเนีย ให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่จะเน้นเลือกทำเลที่มีอัตราการเติบโตของประชากรสูง ใกล้เส้นทางคมนาคมที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วน รถไฟฟ้า ถนนสายหลัก เป็นต้น ตลอดจนการเลือกทำเลใกล้แหล่งงาน เพราะ Real Demand สูงและความต้องการลงทุนสูง โอกาสที่ความต้องการเรื่องที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นจึงมีแนวโน้มเป็นไปได้มากกว่าโซนอื่น ๆ จากการเข้ามาบุกทำเลโซนตะวันออก ช่วงปี 2560 ทั้งบางนา ศรีนครินทร์ ก่อนทำเลอื่นๆ ทำให้ บริทาเนีย รู้จักและเข้าใจดีมานด์ในพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้ในปีนี้บริษัทเริ่มรุกหนักบุกทำเลใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ ไปตามหัวเมืองใหญ่ด้วย เดินตามกลยุทธ์ B The Growth เปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดรับกับกลยุทธ์ทางการตลาด ‘B To The Top’ นั่นจึงตอบได้ว่า ‘ทำเล’ มีผลต่อความสำเร็จของแบรนด์ เป็นอันต้น ๆ ครับ
โดยทำเลที่ผมจะขอพูดถึงในวันนี้คือ ‘เทพารักษ์’ หนึ่งในทำเลที่ขยับขยายความเจริญมาจากฝั่งสุขุมวิทและศรีนครินทร์ ปัจจุบันเทพารักษ์เป็นทำเลมีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมในทุกด้าน ทั้งใกล้ทางด่วนฯ และมีถนนหลายสายพาดผ่าน ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์ และถนนกาญจนาภิเษก ล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทางสำคัญของกรุงเทพฯ โซนตะวันออกทั้งสิ้น การเดินทางบนทำเลเทพารักษ์ จึงมีความสะดวกสบาย สามารถเชื่อมกับทางด่วนกาญจนาภิเษกฯ ด่านเทพารักษ์ ได้โดยตรง เชื่อมโยงเข้าสู่ใจกลางย่านธุรกิจได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น สมุทรปราการ บางนา ศรีนครินทร์ สุขุมวิท และพระโขนง อีกทั้งเทพารักษ์ยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปูและนิคมอุตสาหกรรมแพรกษา ดึงดูด Developer หลายเจ้า เข้ามาร่วมพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และแหล่งไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในโซนนี้ บริทาเนีย ถือเป็นดิเวลลอปเปอร์ที่มีจุดเริ่มต้นในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และเป็นเจ้าแรกๆ ที่มาบุกเบิกทำเลใหม่ๆ ในโซนศรีนครินทร์ บางนา บางพลี เทพารักษ์ และหมุดหมายที่สำคัญ บนทำเลนี้กับโครงการ ‘บริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์’ ตั้งอยู่ในซอยมังกร-ขันดี ซึ่งถ้าออกจากซอยมาประมาณ 200 เมตร ถึงจุดขึ้นลงทางด่วนเทพารักษ์ และประมาณ 12 นาที* ถึง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเทพา
เทพารักษ์ ได้ชื่อว่าเป็นทำเล ‘บลูโอเชียน’ มีอัตราความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับน้อย ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีอยู่มานานแล้ว จึงถือเป็นทำเลที่น่าสนใจการแข่งขันยังไม่สูงมาก คู่แข่งน้อย การเข้ามาของบริทาเนีย เจาะกลุ่มเป้าหมายคนในพื้นที่ หรือคนที่เคยอยู่คอนโดแถวสุขุมวิท บางนา แต่อยากขยับขยายพื้นที่ใช้สอย และคนทำงานในโซนนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้เคียง
บริเวณนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ บริทาเนีย เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะการที่แบรนด์ไม่ต้องไปแข่งขันในตลาด หรือพยายามเอาชนะคู่แข่งด้วยยอดขาย เลยเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์คิดค้นและนำนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้แบรนด์มีความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในย่านนี้ก็ค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร Hypermarket อาทิ โลตัส โกเฟรช ซอยมังกร, ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต MR. DIY และโลตัส โกเฟรช แพรกษา รวมไปถึงตลาด โซนนี้มีค่อนข้างเยอะ ตลาดพุงมังกร, ตลาดสังกะสี อบต.เทพารักษ์ และตลาดหัวถนนเทพารักษ์ ถ้าขยับออกไปหน่อยก็เจอห้างใหญ่อย่าง เมกา บางนา ซึ่งโซนนั้นก็จะมี อิเกียและเมกา ซีนีเพล็กซ์, บุญถาวร และไทวัสดุ ถือว่าสะดวกสบายมาก
อีกทั้งโซนนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมสาธารณูปการเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าโรงเรียน โรงพยาบาล สวนสาธารณะ และหน่วยงานราชการ ระแวกโครงการมีค่อนข้างเยอะครับ เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสมุทรปราการ, โรงเรียนปทุมคงคา สมุทรปราการ, โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ, สวนสาธารณะ อบต.แพรกษา, สวนพฤษาชาติในวรรณคดีไทย, ศูนย์ราชการ ตำบลแพรกษาใหม่ และสำนักงานเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ เป็นต้น
ไม่เพียงการมองขาดในเรื่องของการทำเล แต่บริทาเนียยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการและโปรดักส์มาตลอด ทำให้ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งหมด 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ ไบรตัน, บริทาเนีย, แกรนด์ บริทาเนีย และเบลกราเวีย ซึ่งครอบคลุมลูกค้าหลากหลายเซกเมนต์ โดยโครงการทั้งหมดให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน ‘B The Craft’ เน้นการนำเสนอนวัตกรรมการอยู่อาศัยใหม่ ๆ ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง โซนที่อยู่อาศัย การบริการหลังการขาย ตลอดจนถึงการดูแลรักษาความปลอดภัย
รวมถึงการออกแบบโครงการ ให้คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique Design) ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสไตล์อังกฤษ ผสมผสานความเป็นโมเดิร์น เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์และสไตล์ของผู้พักอาศัย
…และวันนี้ผมจะพาไปเจาะลึก บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ดีไซน์ใหม่ English Gable Style ‘บริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์’ ในราคาเริ่มต้น 5 ล้านปลาย ๆ จำนวน 190 ยูนิต มาพร้อมนวัตกรรม Home Automation เทคโนโลยีที่จะมาช่วยจัดการ การใช้ชีวิต ให้สะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น รองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนยุคใหม่ ด้วยระบบการสื่อสารไร้สาย ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชัน Magnetic Censor, Digital Door Lock 4 ระบบ, IP Camera, Motion Censor และจุด EV Charger รองรับรถยนต์ไฟฟ้า
เจาะ 6 ไฮไลท์ ฟังก์ชันบ้าน
การออกแบบฟังก์ชันบ้านเป็นแนวทางที่แบรนด์ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะการจะสร้างบ้านให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค จำเป็นจะต้องเข้าใจถึงความต้องการ และปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของผู้อาศัยก่อน เพื่อที่จะได้นำมาปรับใช้และออกแบบให้บ้านตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย และก่อนที่ผมจะพาไปทุกคนไปชมบ้านตัวอย่างของโครงการ ผมจะขอพูดถึง 6 ไฮไลท์ที่น่าสนใจของ ‘บริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์’ ก่อนครับ
◾ วัสดุการก่อสร้าง เน้นการใช้งานยั่งยืน ด้วยผนัง Precast แข็งแรงทนทาน เก็บเสียงได้ดี และยังทำให้บ้านไม่มีเหลี่ยมมุมเสา เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบแต่งบ้าน
◾ สถาปัตยกรรมสไล์อังกฤษ ช่วยคงความทันสมัยได้ตลอด ผ่านการออกแบบเพดานสูงและประตูหน้าต่างกว้าง ทำให้ดูเรียบง่ายแต่ยังมีความหรูหรา ตามสไตล์บ้านอังกฤษ
◾ Digital Door Lock 4 ระบบ ประกอบด้วย ปลดล็อคด้วยรหัสผ่าน, ปลดล็อคด้วยสแกนนิ้วมือสูงสุด 100 นิ้ว, ปลดล็อคผ่าน Application และปลดล็อคผ่าน Key Card พร้อมระบบแจ้งเตือนผานมือถือเมื่อใส่รหัสผิดพลาด
◾ จุด EV Charger ทางโครงการเตรียมระบบเพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับผู้พักอาศัยที่มีรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
◾ หลังคารองรับน้ำหนัก สำหรับการติดตั้ง Solar Cells หลังคาต้องรับน้ำหนักได้ 50 กิโลกรัม/ตารางเมตร และกระเบื้องต้องแข็งแรง ไม่แตกง่าย ไม่มีรอยรั่ว
◾ พื้นที่ Multi Purpose ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานสำหรับ WFH ได้ เพราะอย่างในบ้านเดี่ยว ห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งไม่มีทางต่างระดับเหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ใช้รถเข็น
ผมขอเริ่มต้นด้วยบ้านแฝด NORWICH กับพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. ด้วยพื้นที่ดินเริ่มต้น 35.9 ตร.ว.
ถ้าดูจากภายนอก จะเห็นได้ว่าบริเวณที่เชื่อมติดกันกับบ้านอีกหลังไม่ได้มีช่องว่าง ให้สามารถเดินได้รอบบ้าน หลายคนอาจจะกังวลถึงปัญหาที่จะตามมาได้ ซึ่งไม่ต้องกังวล เพราะผนังบ้านเป็น Precast ซึ่งจะเด่นเรื่องการเก็บเสียง และแข็งแรงทนทาน อีกทั้ง Layout ของบ้าน ห้องนอนทุกห้องจะไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกันกับบ้านอีกหลัง แต่จะถูกใช้เป็นโถงบันไดแทน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดเสียงรบกวนในเวลาพักผ่อน
1st Floor
เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้าน ชั้นล่างจะเป็น Open Plan ทำให้สามารถจัดวางฟังก์ชันได้อย่างอิสระ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย ความสูงเพดานจะอยู่ที่ 2.8 เมตร โดยโครงการจะทำห้องครัวแบบปิดมาไว้ให้ และจะมีการติดตั้งระบบไฟ น้ำ และทำเคาน์เตอร์ครัวไว้ให้ในตัว หากอยากได้พื้นที่ครัวเพิ่ม สามารถต่อเติมได้บริเวณพื้นที่หลังบ้าน ทางโครงการเทพื้นคอนกรีตลงเสาเข็มไว้ให้แล้ว อีกทั้งบริเวณชั้นล่างจะมีห้องอเนกประสงค์มาให้ โดยจะอยู่ติดกันกับห้องน้ำเลย สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องผู้สูงอายุได้ครับ
2nd Floor
ส่วนบริเวณชั้นบน จะเป็นชั้นพักอาศัย มีห้องนอนแบบ Double Master Bedroom มีพื้นที่จัดโซน Walk-in Closet เป็นของตัวเอง และมีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องเลยครับ พื้นที่ของแต่ละห้องต่างกันไม่มากเท่าไหร่ โดยชั้นนี้ความสูงจากพื้นถึงเพดานจะอยู่ที่ 3 เมตร ซึ่งตรงนี้ช่วยให้บ้านดูโปร่ง ไม่อึดอัด ส่วนพื้นจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีครับ
และสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่สำหรับกิจกรรม Outdoor ทางโครงการได้เว้นระยะ สำหรับปูสนามหญ้าจริงและลงต้นไม้ใหญ่ไว้ให้บ้านทุกหลังด้วยครับ ฉะนั้นแม้ว่าจะเป็นบ้านแฝดแต่ยังคงให้ความรู้สึกส่วนตัวไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลย
ถัดมาจะเป็นบ้านเดี่ยว ISLINGTON พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
จุดเด่นของบ้านหลังนี้ ผมขอยกให้พื้นที่รอบบ้าน เพราะให้มาเยอะมาก สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ลูก สามารถใช้พื้นที่ด้านนอกเป็น พื้นที่เสริมพัฒนาการให้กับลูกได้เลย หรือจะใช้เป็นลานทำกิจกรรม Outdoor อันนี้ก็ได้เช่นกัน
1st Floor
Plan ชั้น 1 จะคล้ายกับตัวบ้านแฝด ตรงที่เป็น Open Plan ทำให้ฟังก์ชันของบ้านสามารถจัดวางได้ตามไลฟ์สไตล์เช่นเดียวกันกับบ้านแฝด เพียงแต่ได้พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น โดยเมื่อเข้ามาพบกับ Common Area เชื่อมต่อกันกับ Dining Area ซึ่งถัดเข้าไปอีกจะเป็นในส่วน Kitchen โดยโครงการจะทำห้องครัวแบบปิดมาไว้ให้ และจะมีการติดตั้งระบบไฟ น้ำ และทำเคาน์เตอร์ครัวไว้ให้ในตัว หากอยากได้พื้นที่ครัวเพิ่ม สามารถต่อเติมได้บริเวณพื้นที่หลังบ้าน ความพิเศษคือ บ้านหลังนี้โครงการตกแต่งให้มี Pantry ไว้สำหรับดูเป็นตัวอย่าง ส่วนเรื่องความสูงจากพื้นถึงเพดาน บ้านเดี่ยวชั้นบนความสูงจะอยู่ที่ 3 เมตร ส่วนชั้น 1 สูง 2.8 เมตร ครับ
ห้องอเนกประสงค์ของบ้านเดี่ยวก็มีมาให้เช่นกัน โดยจะมีความพิเศษแตกต่างจากบ้านแฝดตรงที่ ห้องน้ำชั้น 1 จะไม่ได้เป็นทางต่างระดับ รองรับผู้ที่ต้องใช้รถเข็นได้เป็นอย่างดี
2nd Floor
ส่วนบริเวณชั้นบน ก็จะเป็นชั้นพักอาศัยเช่นกัน โดย Master Bedroom จะได้พื้นที่หน้าบ้านทั้งหมด ให้อารมณ์เหมือนเป็นเพนต์เฮาส์ขนาดย่อมในบ้าน ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง มีพื้นที่จัดโซน Walk-in Closet เป็นของตัวเอง และมีห้องน้ำในตัวทั้ง 3 ห้อง ส่วนความสูงจากพื้นถึงเพดานจะอยู่ที่ 3 เมตร พื้นจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. ครับ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการให้มา สามารถรองรับกิจกรรมทั้ง การพักผ่อน ออกกำลังกาย รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น
◼ Fitness Swimming Pool
◼ Relaxing Room
◼ Rooftop Seating
◼ Playground
◼ Outdoor Fitness
◼ Basketball Court
◼ Walking Track / Jogging Track
◼ Bike Lane
◼ Pavilion
◼ CCTV ภายในโครงการ 24 ชั่วโมง
เป็นยังไงกันบ้างครับโครงการ ‘บริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์’ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ บนทำเล “เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์” โดยผมขอสรุปจุดเด่น และโครงการนี้เหมาะกับใคร ? ดังนี้ครับ
◾ ทำเลมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ 2 แห่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่โดยรอบ ครบทั้งห้างเล็กห้างใหญ่ ซึ่งในโซนนี้ยังมีกลุ่ม Real Demand สูงด้วยครับ แถมเป็นทำเลที่เชื่อมโยงกับโซน EEC การเดินทางและสิ่งแวดล้อมนั้นเอื้ออำนวยกับการเป็นที่อยู่อาศัย
◾ ฟังก์ชันบ้านเดี่ยว ตอบโจทย์ทุกขนาดครอบครัว ตั้งแต่ครอบครัวเริ่มต้น ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่
◾ ส่วนบ้านแฝดให้อารมณ์บ้านเดี่ยว มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมรองรับการขยับขยายในอนาคต เหมาะกับคนที่เริ่มวางแผนครอบครัวใหม่ๆ หรืออยู่แบบคู่รัก
◾ โครงการมียูนิตไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เพียง 190 ยูนิต จึงให้ความเป็นส่วนตัวสูง
◾ ราคาดีโดยเริ่มต้น 5.99 – 11 ล้านบาท* ซึ่งเรียกว่าหาได้ยากบนทำเลนี้ กับสเปกบ้าน และการออกแบบบ้าน เช่นนี้ครับ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ ‘บริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์’
📍 ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://bit.ly/3PNqeFX