หากพูดถึง “เซ็นทรัลพัฒนา” แล้ว ทุกคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะบริษัทประกอบธุรกิจหลักในการพัฒนา บริหาร และให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รวมถึงประกอบธุรกิจอื่นเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจศูนย์การค้า และต่อยอดการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ อาทิ การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วย อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทางบริษัทได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารมาอย่างต่อเนื่อง หากนับรวมแล้ว เป็นจำนวนที่มากกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นศูนย์การค้ารวมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาคารสำนักงาน โรงแรม โครงการที่พักอาศัยเพื่อเช่าและโครงการที่พักอาศัยเพื่อขาย
สำหรับบทความนี้ ผมจะมาเจาะลึกในส่วนของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยบริษัทในเครือ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา นั่นก็คือ “เอสเซ็นท์ ระยอง 2” คอนโดมิเนียมที่สร้างอยู่ในบริเวณเดียวกันกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง โดยเล็งเห็นถึงความต้องการที่ส่งเสริมกันกับธุรกิจศูนย์การค้าและเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการจากการใช้ประโยชน์ในที่ดินผืนเดียวกันได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งผมมองว่า การที่โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้างเซ็นทรัลนั้น เป็นจุดเด่นของโครงการในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก อีกทั้งยังอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท รายล้อมไปด้วยแหล่งชุมชนและสถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์ราชการระยอง สถานีขนส่งระยอง และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพราะฉะนั้น จึงเหมาะสำหรับการเป็นพื้นที่ของการอยู่อาศัยครับ
สำหรับทางหลวงหมายเลข 36 นี้ เป็นถนนเส้นใหญ่ที่พาดผ่านเซ็นทรัลระยอง และเป็นถนนสายหลักของจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง โดยมีจุดเริ่มต้นจากจุดตัดถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 บริเวณตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ไปสิ้นสุดที่บริเวณจุดตัดถนนเส้นเดียวกัน ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และเมื่อไม่นานนี้ ยังมีโครงการขยายเป็น 6 ช่องจราจร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยแก่ผู้ที่ใช้เส้นทางนี้สัญจรไป – มา อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรและการขนส่ง ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชากร เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก
การพักอาศัยอยู่บนทำเลนี้ ยังสามารถเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครได้ด้วยถนนสุขุมวิทต่อด้วยทางด่วนมอเตอร์เวย์ ซึ่งจากจุดเริ่มต้นของโครงการ หากใช้ประตูทางออกด้านหน้าเซ็นทรัล จะเชื่อมต่อกับถนนหมายเลข 36 มุ่งตรงสู่กรุงเทพฯและชลบุรี และถ้าหากใช้ประตูทางด้านหลัง จะเชื่อมต่อกับถนนหนองมะหาด และสามารถใช้ถนนเส้นนี้เชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิทและทางด่วนมอเตอร์เวย์ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ใช้เดินทางเข้ากรุงเทพฯได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการค่อนข้างครบเลยครับ อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ว่าโครงการตั้งติดอยู่กับถนนเส้นใหญ่สายหลัก ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้าน สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล แหล่งงาน ศูนย์ราชการต่างก็เข้ามารองรับการอยู่อาศัยของประชากรบนทำเลนี้ หรือถ้าหากต้องเดินทาง ก็จะใช้เวลาไม่นานมากนัก เนื่องจากสถานที่สำคัญเหล่านี้ ต่างก็อยู่ใกล้ ๆ บนพื้นที่ย่านเดียวกัน สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ มีดังนี้ครับ
▪ ศูนย์การค้าและแหล่งรวมไลฟ์สไตล์
- เซ็นทรัล พลาซ่า ระยอง
- บิ๊กซี ระยอง
- แม็คโคร ระยอง
- โลตัส มาบตาพุด
▪ สถาบันการศึกษา
- โรงเรียนอัสสัมชัญ ระยอง
▪ โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง
- โรงพยาบาลระยอง
▪ แหล่งงานและศูนย์ราชการ
- นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
- ศูนย์ราชการระยอง
- เทศบาลนครระยอง
▪ แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญอื่น ๆ
- บขส. ใหม่ระยอง
- สนามบินอู่ตะเภา
- หาดแสงจันทร์
“เอสเซ็นท์ ระยอง 2” เป็นอีกหนึ่งโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ CPN โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินรอบศูนย์การค้าของบริษัทฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจหลัก โดยมีแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะมิกซ์ยูส รวมโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และศูนย์รวมความบันเทิงไว้ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีโครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาขึ้นบนพื้นที่เดียวกันกับห้างเซ็นทรัล อาทิ เอสเซ็นท์ คอนโด เชียงใหม่, เอสเซ็นท์ คอนโด ขอนแก่น, เอสเซ็นท์ คอนโด นครราชศรีมา และยังมีที่กำลังดำเนินการก่อสร้างในขณะนี้ ได้แก่ เอสเซ็นท์ คอนโด โคราช และเอสเซ็นท์ คอนโด ระยอง 2 แห่งนี้ครับ
หลังจากที่ CPN กลุ่มพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทำการสำรวจตลาดและความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายบนพื้นที่นั้น ๆ อย่างรอบคอบ จึงเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม High – Rise สูง 23 ชั้น ที่มีความโดดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก Facilities ครบ มาพร้อมกับ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ ผสานชีวิตการอยู่อาศัยกับไลฟ์สไตล์ติดเทรนด์ได้อย่างลงตัว
สำหรับคอนโดทำเลดีแห่งนี้ มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Journey Back Home เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกถึงการกลับบ้านที่แท้จริง ด้วยสภาพแวดล้อมของโครงการที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ลูกบ้านได้รับความเป็นส่วนตัว ความสงบ และให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนได้ทุกช่วงเวลา อีกทั้งยังมีส่วนกลางลอยฟ้า Sky Rooftop ฟังก์ชันครบให้เลือกทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน สำหรับผมมองว่า เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านการอยู่อาศัยของลูกบ้านได้อย่างรอบด้านเลยครับ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว ลูกบ้านล้วนมุ่งหาความสะดวกสบายจากการอยู่อาศัยมากที่สุด และโครงการนี้ก็มีองค์ประกอบครบทุกอย่างตามสิ่งที่ลูกบ้านต้องการครับ
ในส่วนของนวัตกรรมการอยู่อาศัย จะเป็นระบบ Smart Function ตามเทรนด์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ประกอบด้วยฟังก์ชันมากมายที่ทำให้ลูกบ้านสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 ฟังก์ชันหลัก ๆ ได้แก่ Smart Innovation และ Smart Design ครับ
ในส่วนของ Smart Design จะประกอบไปด้วย
▪ การยกระดับพื้นสูงกว่า 2 ซม. เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากด้านนอกห้อง
▪ ไร้กังวลเรื่องกลิ่น ด้วยแผ่นยางกันกลิ่น ป้องกันน้ำซึมเอ่อในกรณีที่ไม่อยู่ห้องนาน ๆ
▪ Emergency Drain ท่อระบายใต้ชุดครัว กรณีเหตุน้ำรั่วฉุกเฉิน
▪ Service Maintenance ระบบท่อระบายน้ำออกด้านข้างผนัง ซ่อมแซม แก้ไขจบได้ภายในห้อง
และ Smart Innovation ประกอบไปด้วย
▪ เพิ่มฉนวนกันเสียง Box ปลั๊กไฟกันเสียงระหว่างห้อง
นอกจากนี้ ยังมีระบบอัจฉริยะอื่น ๆ อีกหลายรายการรองรับการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ได้แก่ Smart Protection ระบบป้องกันปลวกแบบราดน้ำยา และเดินท่อน้ำยารอบโครงการ, Smart Security Door ระบบล็อคประตูหน้าห้องแบบ Digital สามารถเข้าห้องด้วยการใช้ Key Pad, Card และกุญแจป้องกันการก็อปปี้, Smart Internet ให้บริการ Free – WiFi ในพื้นที่ส่วนกลาง, Smart Management ระบบบริหารจัดการผู้เข้ามาติดต่อและควบคุมการเข้า – ออกโครงการ และ Smart Security ระบบกล้องวงจรปิด พร้อมตู้ล็อคเกอร์สำหรับผู้ใช้บริการสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องซาวน่า
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทางโครงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาผสมผสานเข้ากับฟังก์ชันการอยู่อาศัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในแบบ Hybrid Living ทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัยครับ
สำหรับรูปแบบห้องของโครงการนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
▪ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 28 – 29 ตร.ม.
▪ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 32 – 33 ตร.ม.
▪ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 51 – 68 ตร.ม.
มาเริ่มต้นกันที่แบบแรก Type A ขนาด 28.19 ตร.ม. ครับ ลักษณะจะเป็นห้องหน้ากว้าง พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished สำหรับห้องแบบแรกนี้ เข้าไปจะเป็นโซนครัวที่อยู่ด้านหน้าสุด ต่อมาจะเป็นห้องน้ำแบ่งโซนแห้งและโซนเปียก และห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน มาพร้อมกับจุด Hilight ตรงชั้นบิวท์อินโทรทัศน์หมุนได้ 180 องศา ไม่ว่าจะนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ก็สามารถดูโทรทัศน์ได้จากเครื่องเดียวกัน สำหรับห้องนอน ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างครบ ทั้งเตียงขนาด 5 ฟุต, โต๊ะบิวท์อิน L – Shape, เก้าอี้สตูล, ตู้เสื้อผ้า อีกทั้งยังติดตั้งกระจกบานกว้าง ให้สามารถเปิดรับลม ถ่ายเทอากาศในช่วงเวลากลางวัน ถึงแม้ว่าห้องนี้ จะเป็นห้องไซส์เริ่มต้นและมีขนาดเล็กที่สุด แต่ผมมองว่า พื้นที่ในห้องได้รับการจัดสรรค่อนข้างลงตัวเลยครับ แบ่งโซนห้อง เชื่อมต่อพื้นที่โซนต่าง ๆ ให้เข้าถึงกันได้เป็นอย่างดี และมีการออกแบบฟังก์ชันห้องให้สอดรับกับการใช้งานได้จริง
มาต่อกันที่ห้องแบบที่ 2 Type C ขนาด 32.47 ตร.ม. สำหรับห้องนี้มาพร้อมกับ Fully Furnished เช่นเดียวกันกับห้อง Type A ครับ แต่จะแตกต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยและการแบ่งโซนห้อง ซึ่งเมื่อเข้าห้องนี้มาแล้วจะเป็นโซนห้องนั่งเล่นที่มุมรับประทานอาหาร มีระเบียงห้องกว้างกว่าห้อง Type A ทำให้สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ที่ริมระเบียงได้ครับ อีกหนึ่งความแตกต่างก็คือ ห้องนอนจะมาพร้อมกับห้องน้ำในตัว สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้มานั้น จะเหมือนกับห้อง Type A ทุกรายการเลยครับ ส่วนตัวผมมองว่า ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น มีพื้นที่ริมระเบียงให้ออกไปสูดอากาศ ติดตั้งโซนซักล้างไว้ด้านนอก รวมไปถึงช่องทางระบายอากาศจากห้องครัว ซึ่งหากใครมีความต้องการเช่นนี้ ห้อง Type C จึงตอบโจทย์มากกว่าครับ
เปิดประสบการณ์ไปกับการพักผ่อนบน Sky Rooftop ส่วนกลางลอยฟ้า รองรับทั้งกิจกรรมแบบ Active และ Passive สามารถเข้าถึงได้ทุกเจเนอเรชัน ไม่ว่าจะเป็น Rooftop Pool สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ แยกโซนเด็กและผู้ใหญ่, Fitness บนชั้นลอยฟ้าและห้องซาวน่า, Co – Living Space, สวนลอยฟ้าแยกสัดส่วนการใช้งานพร้อมกิจกรรมดี ๆ โซน Out Door อาทิ Outdoor Theater นอกจากนั้น ที่บริเวณชั้น 1 ยังมีห้อง Multi Purpose Room, Laundry Cafe’ และ Jogging Track ออกกำลังกายท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
“ให้การใช้ชีวิต ง่ายกว่าที่เคย…” ความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความอุ่นใจจากระบบรักษาความปลอดภัยล้ำสมัย ครอบคลุมตั้งแต่บริเวณทางเข้าโครงการ Access Control เข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางด้วยระบบ Face Scan และ Pass Card นอกจากนั้น ยังมีกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้บริการดูแลทรัพย์สินของลูกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการนัดหมาย Visitor ด้วยระบบ VMS สร้างความมั่นใจในทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทำเลดีในต่างจังหวัด “เอสเซ็นท์ ระยอง 2” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เพรียบพร้อมไปด้วยทำเลที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก ฟังก์ชันการอยู่อาศัย และระบบรักษาความปลอดภัย ตอบความต้องการของลูกบ้านที่มุ่งหาความสะดวกสบาย ครอบคลุมทุกความคุ้มค่าในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท และสำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาทำงานในโซนภาคตะวันออก อาทิ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ผมมองว่า การหาที่อยู่อาศัยใกล้สถานที่ทำงาน จะช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง และเพิ่มช่วงเวลาพักผ่อนให้กับคุณได้มากขึ้นด้วยครับ
———————————-
สนใจโครงการ ‘เอสเซ็นท์ ระยอง 2’
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร : 096 214 5146
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/Z9RGnoiwKQhcdZBu8