อสังหาฯ ไทย ปรับตัวเก่ง “ในยุค COVID – 19”
การปรับตัวที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงตลอดไป
ภาพรวมอสังหาฯ ไทยปีที่แล้วหลังจากเจอมาตรการ LTV เข้าไป ต้องบอกว่าทำเอาชะงักไปกันเหมือนกันครับ แต่มาตรการ LTV ยังไม่ถึงครึ่งของปีนี้ที่เรียกได้ว่าส่งผลกระทบครั้งใหญ่ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะวงการอสังหาฯ ไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจอีกหลายภาคส่วนที่ต่างก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 ด้วย
ซึ่งแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 ตอนนี้ตัวเลขจะคงที่แล้ว และมีหลายสถานที่ หลายธุรกิจได้รับมาตรการผ่อนปรนคลายล็อกดาวน์ แต่หากลองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกลากยาวมาจนสิ้นสุดไตรมาสที่สองของปีนี้ ต้องยอมรับกันตรงๆ เลยครับว่าอสังหาฯ ไทยคืออีกธุรกิจที่เรียกได้ว่าน่าเป็นห่วง แต่การเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ผมเองกลับมองว่ามีหลายอย่างที่น่าสนใจภายใต้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย เราลองไปดูกันครับ ว่าภายใต้วิกฤต COVID – 19 อะไรคือความน่าสนใจของอสังหาฯ ไทย
New Normal to New Reality
ถ้าถามว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคไหน? ผมว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคแห่ง “Digital Disruption” ก็คือการเกิดขึ้นของนวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนรูปแบบ วิธีการ รวมถึงพฤติกรรมของคนในสังคมใดสังคมหนึ่งไปอย่างฉับพลัน หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ “การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว” นั่นเองครับ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าสิ่งที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ในตอนนี้ก็คือ วิกฤตครั้งใหญ่ระดับโลกอย่างการแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 จนทำให้เกิด Social Distancing ดังนั้นทั้งผู้บริโภคและผู้พัฒนาเอง ต่างคนต่างก็กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องปรับตัวนั่นเองครับ
ซึ่งคำว่า Digital Disruption นี่แหละครับ เป็นสิ่งที่เข้ามาพลิกโฉมธุรกิจต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ อุตสาหกรรมอสังหาฯ เพราะตอนนี้ Digital กำลังกลายเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป สิ่งที่เหล่า Developer ต้องทำก็คือการ “ปรับ” โดยเฉพาะมุมมองในการทำธุรกิจและพัฒนา Product ของตัวเองให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด และเมื่อเรากำลังอยู่ในยุค “Digital Disruption” อีกสิ่งที่ตามคำนี้มาติดๆ ก็คือคำว่า “New Normal” หรือความปกติภายใต้บรรทัดฐานใหม่นั่นเอง
แน่นอนว่าคำนี้กลายเป็นคำที่หลายคนเริ่มจะคุ้นชินกันแล้วสำหรับคำว่า “New Normal” หรือความปกติใหม่ ต้องบอกว่า New Normal เป็นตัวแปรสำคัญที่เข้ามาสร้าง Speed ให้กับยอดขายและยอด Walk ในโครงการแนวราบ ให้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสิ่งนี้จะสอดคล้องกับ Digital Disruption ที่ผมเกริ่นไปก่อนหน้านี้ครับ และตอนนี้ Digital Disruption ได้เข้ามาสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอสังหาฯ ไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่านั่นหมายความว่า ต่อไปนี้บรรทัดฐานใหม่กำลังจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับการทำธุรกิจที่อยู่อาศัยที่เหล่า Developer ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น
และหากเราลองมาทำความรู้จักกับคำนี้ดีๆ จะพบว่าจริงๆ แล้วคำว่า New Normal ไม่ใช่คำที่ถูกครีเอทขึ้นมาใหม่ แต่คำนี้เคยเกิดขึ้นและถูกนำมาใช้เพื่อสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจระดับมหภาคหลังปี 2008 ที่สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ หรือ Hamburger Crisis นั่นเอง ซึ่งมีบทความเรื่อง “ความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal)” ที่ถูกเขียนขึ้นโดยคุณเขมรัฐ ทรงอยู่ และมีการเผยแพร่ในนิตยสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนพฤษภาคม 2015 บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของคำว่า New Normal ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2008 โดย Bill Gross นักลงทุนในตราสารหนี้ชื่อดัง และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Pacific Investment Management (PIMCO) ที่ได้ให้คำนิยามถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะมีอัตราการเติบโตชะลอตัวลงจากในอดีต และเข้าสู่อัตราการเติบโตเฉลี่ยระดับใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม ควบคู่ไปกับอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเกิดวิกฤตทางการเงินในสหรัฐฯ ครั้งนี้อีกด้วย
และต่อมา คำว่า New Normal เองไม่ได้ถูกใช้เฉพาะธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเท่านั้น แต่ถูกนำไปปรับใช้กับธุรกิจอีกหลายภาคส่วนอีกด้วย แน่นอนครับว่าวงการอสังหาฯ เราเองเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เกิด New Normal ขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีทางเลือกต่างๆ เข้ามาใช้ในการขาย, เว็บไซต์มุมมอง 360 องศาสำหรับลูกค้าเพื่อเป็นทางเลือกในการชมบ้านหรือห้องตัวอย่าง, เทคโนโลยีภายในที่อยู่อาศัยแบบ Touchless เพื่อลดการสัมผัสในยุค Social Distancing เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าหลักๆ แล้วการปรับตัวเกินครึ่งของเหล่า Developer ก็คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ดังนั้นไม่ผิดครับถ้าผมจะบอกว่าเรากำลังเข้าสู่ยุค Digital Marketing แบบเต็มรูปแบบ
COVID – 19 ดันอสังหาฯ ไทยเข้าสู่ยุค Digital Marketing เต็มรูปแบบ
จะเป็นอย่างไรนะถ้าหากว่าการตลาดของอสังหาฯ กำลังจะเปลี่ยนไปในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 เช่นนี้ ผมเองมองว่านี่คืออีกจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจเลยทีเดียว ช่วงแรกที่เราได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดนี้ ถือเป็นช่วงที่นักการตลาดต่างก็ทำงานหนักเพื่อคิดกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาช่วยให้ธุรกิจมีทางรอด แน่นอนว่า Digital Marketing คือทางเลือกที่ดีที่สุดในช่วงที่เราทุกคนต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน รวมไปถึงมาตรการล็อคดาวน์ หรือ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่ทำให้ทุกคนไม่สามารถออกมาพบเจอกันเหมือนเดิมได้ ซึ่งการใช้สื่อกลางผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นอีกจุดเปลี่ยนของอสังหาฯ ไทยไปแล้ว
ตอนนี้กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ไปแล้วครับที่เราจะเห็นเหล่าการขายบ้าน พาชมโครงการผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, LINE Official, VDO Call, VDO Walkthrough, Virtual Reality 360, Electronic Direct Mail (EDM) หรือ Youtube ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นเหมือนแรงผลักที่ทำให้เราต้องเร่งปรับตัวเข้าสู่โลกอนาคตเร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุด
แต่ Digital Marketing ในปัจจุบันนี้ผมเองมองว่าเปลี่ยนไปจากอดีตเยอะเหมือนกันครับ เพราะเมื่อก่อนนั้นเรายังเดินทางไปไหนต่อไหนได้ ทำงานที่ออฟฟิศกัน แต่ปัจจุบันนี้หลายคนต้อง Work From Home เป็นหลักเพราะเลี่ยงการออกจากบ้าน ดังนั้นเรื่องของการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ไม่สามารถ Walk-in เข้ามาที่โครงการได้เป็นอีกเรื่องสำคัญที่เหล่า Developer ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้การทำให้ลูกค้าได้เห็นภาพโครงการจริงเสมือนการได้ Walk-in เข้ามาในโครงการด้วยตัวเองก็เป็นอีกความท้าทาย
และสุดท้ายคือ การเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า สิ่งนี้ถือว่าสำคัญ เพราะก่อนหน้าลูกค้าสามารถ Walk-in มาที่สำนักงานขายได้ด้วยตัวเอง แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไป เพราะการมองผ่านจอยังไงก็ไม่เหมือนการเข้ามาเห็นบรรยากาศจริง นี่จึงเป็นอีกความท้าทายที่เหล่า Developer ต้องนำกลับไปคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ และตัดสินใจซื้อโครงการของเรานั่นเองครับ
การปรับตัวของ Developer ชี้ให้เห็นว่า
“ยิ่งปรับตัวเร็วมากเท่าไร ก็ยิ่งได้เปรียบมากเท่านั้น!!”
เคยได้ยินคำว่า “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” กันใช่มั้ยครับ? ในสถานการณ์เช่นนี้ต้องบอกว่าใครปรับตัวได้เร็วมากเท่าไร ก็ยิ่งได้เปรียบมากเท่านั้น แน่นอนว่าทุกคนเจอวิกฤตนี้เหมือนกันหมด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะจมอยู่กับวิกฤตนี้จนทำให้ธุรกิจเกิดความเสียหายหนักขึ้นไปทุกวัน ซึ่งผลกระทบหลัง COVID – 19 หลายคนให้ความเห็นว่ากว่าอสังหาฯ ไทยเราจะฟื้นตัวคงใช้เวลา 1 – 2 ปีเป็นแน่ แต่ไม่ใช่เลยครับ ตอนนี้เห็นได้ชัดเจนมากกว่าเพียงแค่ไตรมาสเดียวเหล่า Developer ปรับตัวกันได้เร็วเกินคาด ซึ่งถ้าจะให้ผมยกตัวอย่าง Developer ที่ปรับตัวได้เร็วมากเจ้าหนึ่งคงต้องมองไปที่ SC Asset ที่ชิงความได้เปรียบด้วยการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เพราะสำหรับธุรกิจอสังหาฯ แล้ว ต้องบอกว่าท่ามกลางวิกฤตต่างๆ ย่อมมีโอกาสแฝงมาด้วยเช่นกันครับ
เราลองไปดูกันครับว่า SC Asset พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างไรในสถานการณ์ COVID – 19 นี้
SC Asset ปรับตัวเร็ว
พลิกกลยุทธ์การตลาดแนวราบผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
เมื่อช่วงต้นปีนี้ผมเองมีโอกาสได้ฟังแถลงการณ์ของ SC Asset เกี่ยวกับแผนการพัฒนาโครงการในปีนี้ที่จะเปิดด้วยกัน 13 โครงการภายใต้คอนเส็ปต์ “Resilient” เน้นความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ และเน้นการเปิดตัวให้ครอบคลุมทุก Segment และด้วยความพร้อมต่อการปรับตัวที่รวดเร็ว (Resilience) ต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ซึ่ง SC Asset ได้พลิกกลยุทธ์การตลาดแนบราบสู่ออนไลน์ทันที ถือเป็นการปรับตัวที่เร็ว เรียกได้ว่าช่วงชิงโอกาสทางการตลาดไปได้เยอะเลยทีเดียว ซึ่งการปรับตัวครั้งนี้มีทั้งการทำ Online Booking ควบคู่กับการใช้ Sales Agent ทำให้ได้รับความสำเร็จจากแคมเปญต่างๆ จะเห็นได้เลยครับว่าเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น SC Asset มียอด Walk สูงที่สุด (ในรอบ 17 สัปดาห์) ตั้งแต่ต้นปี 2563 พร้อมกับมียอดขายแนวราบเพิ่มขึ้น 116% (YoY) แน่นอนว่านี่คือตัวเลขที่เกิดการจากชิงปรับตัวได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
สถานการณ์เช่นนี้ ผมเองมองว่าเป็นเรื่องยากมากครับที่จะเห็นโครงการไหน Sold Out แต่ล่าสุดทาง SC Asset ได้ปิดการขายโครงการ “บางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต” ทั้ง 121 ยูนิต มูลค่า 1,050 ล้านไปเป็นที่เรียบร้อย ถือว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีนะครับ เพราะลูกค้ารายใหม่จะเริ่มหันมาสนใจและให้ความมั่นใจในแบรนด์ของ SC Asset มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้ว SC Asset เองก็ Sold Out โครงการแนวสูง 1 โครงการเป็นที่เรียบร้อย และยังจ่อปิดการขายอีก 6 โครงการแนวราบในไตรมาส 2/2563 รวมถึงเปิดโครงการบ้านเดี่ยวต่อเนื่องอีก 4 โครงการใหญ่ พร้อมกัน มูลค่า 5 พันล้านบาท
เราลองไปดูกันครับว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ของ SC Asset ที่เข้ามาเป็นอีกกลยุทธ์ในการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสนั้นมีจุดเด่นอะไรบ้าง
จุดเด่นของแพลตฟอร์มออนไลน์
“SC BOOKING FROM HOME”
สำหรับกลยุทธ์เด่นของ SC Asset ที่เข้ามามีบทบาทในตอนนี้ก็คือ “SC BOOKING FROM HOME” ด้วยแนวคิด ห่างกันแค่ไหน…. ก็ซื้อบ้านได้ ที่เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบครั้งแรกที่ให้ลูกค้าสามารถช้อปแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชม. ได้เลย โดยบนเว็บไซต์จะโชว์ภาพไฮไลท์ของบ้านที่นำเสนอขายทุกแปลง และลูกค้ายังสามารถทักแชทจอง หรือนัดให้ Sale โชว์บ้านที่สนใจแบบ Virtual ได้
สำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ “SC BOOKING FROM HOME” นั้น ลูกค้าสามารถจองบ้าน ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดใกล้รถไฟฟ้ากว่า 40 โครงการ ที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษสูงสุด 5 ล้าน ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชม. และยังสามารถชมบ้านแปลงจริง บรรยากาศจริง ที่พร้อมเข้าอยู่ได้ทุกโครงการ
สำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ “SC BOOKING FROM HOME” นั้นสามารถเลือกวิธีการช้อปง่ายๆ ผ่าน 3 ช่องทางดังนี้…
1. ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ และดูรายละเอียดโครงการบ้าน ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดใกล้บ้านได้ที่…
◼️ เว็บไซต์ >> https://bit.ly/2Jz7siI
◼️ หรือโทร >> 1749 พร้อมให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อนำเสนอโปรโมชันพิเศษ
2. ทัก Chat สอบถามข้อมูลโครงการได้ตลอด 24 ชม. ได้ที่…
◼️ Facebook Chat >> http://m.me/scasset
◼️ Line @scasset >> http://line.me/R/ti/p/%40scasset
3. Chat & Book ได้ที่ >> https://bit.ly/39s48k1
จากความได้เปรียบของ SC Asset ในตลาดอสังหาฯ ตอนนี้ ผมเองมองว่าการที่ SC Asset ประสบความสำเร็จและมียอดขายเพิ่มขึ้นนี้ เพราะความเร็วในการปรับตัว พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการชิงความได้เปรียบในการเริ่มแฟลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทาง Support ลูกค้าในการดูรายละเอียดบ้านที่สามารถเข้าถึงได้ทุกช่องทางแม้ว่าตัวลูกค้าเองจะไม่ได้เข้ามาในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่สนใจดูบ้านจากทาง SC Asset สามารถเข้ามาที่เว็บไซต์ที่ทาง SC Asset จะเผยแปลนบ้านให้เห็นทุกหลัง มีรายละเอียดชัดเจน หรือลูกค้าสามารถทักแชทพูดคุยรายละเอียดกับพนักงานขายได้ตลอดเวลาที่นึกขึ้นได้ ซึ่งบริการตรงนี้ผมว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมี Sale พาทัวร์บ้าน แบบ Virtual Tours แบบ Realty Tour ได้โดยไม่ต้องออกบ้านเลย และยังสามารถติดตาม Live สด ที่เพจ SC Asset ในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 13.00 น. ซึ่งพร้อมนำเสนอโครงการต่างๆ ที่คัดสรรมาให้ท่านได้รับชม เสมือนเดินทางมาดูด้วยตัวเองนั่นเองครับ
และนี่แหละครับคือความน่าสนใจของอสังหาฯ ไทย “ในยุค COVID – 19” ครั้งหน้าผมจะนำประเด็นไหนมาเล่าให้ทุกคนฟังอีก อย่าลืมติดตามกันนะครับ
…นักสืบอสังหา