การเลือกซื้อบ้านที่อยู่อาศัย “ทำเลที่ตั้ง” เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ใช้พิจารณา แน่นอนว่าเหตุผลในการเลือกทำเลย่อมแตกต่างกันออกไป อาทิ ใกล้ที่ทำงาน ติดทางด่วน ติดรถไฟฟ้า เป็นต้น หลัก ๆ ทำเลที่ดีควรจะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ปัจจุบันมีทำเลที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ เกิดขึ้นในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ค่อนข้างเยอะ เพราะปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ได้กระจุกตัวแค่พื้นที่ใจกลางเมือง แต่ขยับขยายเกือบทั่วกรุงเทพฯแล้ว
บางนา- ศรีวารี ถือเป็นหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยที่ระยะหลังมา ได้ยินค่อนข้างบ่อย เพราะเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เห็นได้ชัดจากโครงการต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนเกิดขึ้นต่อเนื่องที่เกิดขึ้นใหม่บนทำเลหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบคมนาคม ขนส่งมวลชน และรถไฟฟ้า ซึ่งไม่ใช่แค่โครงการใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่ยังมีพวกร้านค้า ร้านอาหาร และค่าเฟ่ ที่เปิดตัวเพิ่มขึ้นหลายร้าน บางนา-ศรีวารี จึงเป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าอยู่ และ Developer หลายแบรนด์ ก็เริ่มจับตามองทำเลโซนนี้มากขึ้นเช่นกันครับ
โดยโครงการที่ผมจะขอพูดถึงในวันนี้คือ ‘สราญสิริ ศรีวารี 2’ บ้านเดี่ยวสไตล์ Urban Farmhouse บนทำเล บางนา-ศรีวารี ในราคาเริ่ม 5.79 – 12 ล้านบาท* จะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ…
“บางนา-ศรีวารี”
ทำเลแห่งการเชื่อมต่อ
“บางนา-ศรีวารี” หนึ่งในทำเลที่ขยับขยายความเจริญมาจากฝั่งสุขุมวิท ปัจจุบันบางนา-ศรีวารี เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมหลายด้าน ทั้งใกล้ทางด่วนฯ ใกล้รถไฟฟ้า Airport Rail Link และที่สำคัญยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ การเดินทางบนทำเลบางนา-ศรีวารี มีความสะดวกสบาย สามารถเชื่อมกับ ถ.กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7) ได้โดยตรง เชื่อมโยงเข้าสู่ใจกลางย่านธุรกิจได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น บางนา ศรีนครินทร์ พระราม 9 สุขุมวิท และพระโขนง หรือจะไปโซนตะวันออกก็สามารถเชื่อมไปยังทางด่วนบูรพาวิถี ได้เช่นกัน
อีกทั้งบางนา-ศรีวารียังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง Developer หลายเจ้า จึงเริ่มเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และแหล่งไลฟ์สไตล์ในโซนนี้เพิ่มมากขึ้น แสนสิริ ก็เคยเข้ามาปักหมุดโครงการใหม่ ในทำเลมาแล้ว อย่าง สราญสิริ ศรีวารี และล่าสุดเตรียมเปิดอีกโครงการคือ ‘สราญสิริ ศรีวารี 2’ ตั้งอยู่บนถ.ศรีวารีน้อย ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถ.ลาดกระบังช่วงซอย 54 และถ.บางนา-ตราด กม.18 ถือว่าเดินทางได้สะดวก เข้าออกได้หลายเส้นทาง
โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน
เป็นโครงการส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ตลิงค์ (Airport Rail Link) ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างทั้งหมด 2 ช่วงคือ จากสถานีพญาไท ไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบัง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา พร้อมเชื่อมเข้าสนามบิน 3 แห่งได้แก่ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา ปัจจุบันก่อสร้างมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และมีการเปิดให้ใช้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- เส้นทางรถไฟในเมือง จากดอนเมือง – สุวรรณภูมิ จำนวน 10 สถานี ระยะทาง 60 กม. ความเร็ว 160 กม./ชม
- เส้นทางรถไฟระหว่างเมือง จากสุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา จำนวน 5 สถานี ระยะทาง 160 กม. ความเร็ว 250 กม./ชม
สำหรับโครงสร้างทางวิ่งของโครงการ ต้องก่อสร้างทางวิ่งใหม่ประมาณ 191 กิโลเมตร รวมกับระยะทางวิ่งเกิน 29 กิโลเมตร ทำให้ทั้งโครงการมีระยะทางรวม 220 กิโลเมตร โดยโครงสร้างทางวิ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
◾ ทางวิ่งยกระดับระยะทางประมาณ 181 กิโลเมตร
◾ ทางวิ่งระดับดินระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
◾ ทางวิ่งใต้ดินระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร
ซึ่งแนวเส้นทางทั้งโครงการผ่านพื้นที่ทั้งหมด 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยองครับ
โครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง
ส่วนโครงการที่สองนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการจากภาครัฐ เป็นการก่อสร้างทางยกระดับ ค.ส.ล. บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ระยะทางรวมทั้งโครงการประมาณ 3,500 ม. ขนาด 4 ช่องจราจร อีกทั้งยังมีการก่อสร้างปรับปรุงงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้แก่
● การก่อสร้างปรับปรุงสะพาน ค.ส.ล. ข้ามคลองหนองปรือ
●การก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้า ระบบจราจรสงเคราะห์
โดยวัตถุประสงค์หลักคือ เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตลาดกระบัง ให้การจราจรบนถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังมีความรวดเร็ว ลดปัญหาการจราจรติดขัด รองรับการเจริญเติบโตของพื้นที่ โดยเจ้าของโครงการคือ สำนักโยธา กรุงเทพมหานคร และสำนักงานวิศวกรรมทาง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้างราว 1,664.55 ล้านบาท (งบประมาณของกรุงเทพมหานครลงทุนเอง 100%) คาดว่าจะแล้วเสร็จ ล่าช้ากว่าที่กำหนด (เดือนธันวาคม 2567)
ต่อมาเรามาดูความอุดมสมบูรณ์ของทำเลกันบ้าง ในซอยศรีวารีน้อย ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถ.ลาดกระบังช่วงซอย 54 และถ.บางนา-ตราด กม.18 จะมีร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่าง ตลาดสด, Hypermarket, ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ เช่น Top Daily ซึ่งอยู่ข้างโครงการ ก็ถือว่าสะดวกสำหรับวันที่ต้องการหาของกินชิล ๆ หรือสำหรับสาย Check in ร้านกาแฟคาเฟ่ ในซอยก็จะมี ร้าน Touch Coffee, Granny Cafe ซึ่งตอนที่ผมไปลงพื้นที่ได้มีโอกาสไปลิ้มลอง ใครมาแถวนี้ไม่แวะมาลอง ผมถือว่ามาไม่ถึง เพราะกาแฟและขนมอร่อยมากครับ ยิ่งถ้าเป็นช่วงกลางคืน ใครกลัวหิวดึก ร้านชาบู หมูกระทะ ก็มีให้เลือกหลายร้านเช่นเดียวกันครับ
แต่ถ้าขยับออกไปยังถ.ลาดกระบัง แถวนั้นจะเป็นย่านมหาลัย + เป็นโซนที่กำลังขยายตัวจากทั้งธุรกิจโรงแรม และสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ในโซนนี้มีร้านค้า ร้านอาหารเปิดใหม่เยอะขึ้นมาก เพราะนักท่องเที่ยว และต่างชาติเข้ามาโซนนี้เยอะขึ้น ซึ่งถ้าใครเป็นสายเดินห้างใหญ่ โซนนี้ก็จะมี โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, เดอะพาซิโอมอลล์ ลาดกระบัง, แม็คโคร ฟู้ดเซอร์วิส ลาดกระบัง และโลตัส ลาดกระบัง หรือถ้าฝั่งลาดกระบังยังไม่จุใจ ไปทางฝั่งถ.บางนา-ตราด ก็ได้เช่นกัน เพราะฝั่งนี้จะมี คิงเพาเวอร์ ศรีวารี, เซ็นทรัล วิลเลจ สุวรรณภูมิ, มาร์เก็ตวิลเลจ, ดีไซน์ วิลเลจ และเมกา บางนา เรียกได้ว่าครบทั้งเรื่องอาหารการกิน และเรื่องช้อปปิ้งต่างๆ มีครบทุกรูปแบบการอยู่อาศัยครับ
- โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง
- เดอะพาซิโอมอลล์ ลาดกระบัง
- คิงเพาเวอร์ ศรีวารี
- เซ็นทรัล วิลเลจ สุวรรณภูมิ
- มาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ
- เมกา บางนา
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
- ม.อัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ
- รร.สาธิตนานาชาติพระจอมเกล้าลาดกระบัง
- รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
- Beaconhouse Yamsaard International School
- VERSO International School
- รพ.ลาดกระบัง
- รพ.บางนา 2
‘สราญสิริ ศรีวารี 2’ บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่
Urban Farmhouse บนทำเลบางนา – ศรีวารี
โครงการ สราญสิริ ศรีวารี 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ Urban Farmhouse จากแสนสิริ มีพื้นที่ทั้งโครงการ 83-2–39 ไร่ จำนวนบ้าน 363 ยูนิต ท่ามกลางความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในยุโรปแบบ Road Trip Journey ทำให้ความรู้สึกแรกที่เข้ามาภายในโครงการ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของบ้าน Farmhouse มีกลิ่นอายคันทรี่แบบยุโรปชานเมืองเล็กๆ ที่ดูอบอุ่น น่ารัก ยอมรับเลยว่าที่นี่เก็บดีเทลออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็น สไตล์การตกแต่งสวน หรือ ตัวสถาปัตยกรรม Facade มีการย่อมุม มีขอบบัว และลูกฟักประตูหน้าต่าง รวมถึงเส้นสายจากทิวภูเขามาเบลนเข้ากับงานดีไซน์ของคลับเฮาส์และประตูทางเข้าหลักของโครงการ ทำให้เกิดแอฟเฟคขนาดใหญ่เหมือนอยู่ท่ามกลางภูเขาจริง ๆ ฟีลเขาใหญ่
จุดเด่นสำคัญคือ สไตล์การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบ้าน สราญสิริ ทุกฟังก์ชันมีดีเทลที่สื่อถึงความเป็นบ้านฟาร์มเฮ้าส์ และฟังก์ชั่นยังครบ ใช้งานได้จริง และยังคงความทันสมัยด้วย Modern Style ทำให้บ้านมีเสน่ห์ ทันสมัย และราคาจับต้องได้ เริ่มตั้งแต่ 5 ล้านปลายๆ ไปจนถึง 12 ล้านครับ
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Urban Farmhouse
สำหรับรูปแบบบ้านโครงการ สราญสิริ ศรีวารี 2 จะมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ เป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด มีดังนี้…
∎ 𝗕𝘂𝘁𝘁𝗲𝗿𝗰𝘂𝗽 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน (ชั้น 2 ทั้งหมด) 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
𝗛𝗶𝗴𝗵𝗹𝗶𝗴𝗵𝘁 : ห้องครัวไทย และ Bay Window สามารถเทควิวสวนได้รอบบ้านด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่
∎ 𝗗𝗮𝗶𝘀𝘆 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน (ห้องนอนชั้นบน 2 +ชั้นล่าง 1) 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
𝗛𝗶𝗴𝗵𝗹𝗶𝗴𝗵𝘁 : Bay Window และพื้นที่ Living ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Foyer Hall สำหรับหลังนี้เริ่มมีห้องนอนล่าง ใครอยากดูไว้ทำเป็นห้องทำงานเพิ่มเติม แนะนำหลังนี้ครับ และได้ห้อง Double Master ด้านบนใหญ่ๆเลย มีห้องน้ำในตัวด้วย
∎ 𝗖𝗮𝗺𝗲𝗹𝗶𝗮 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน (ห้องนอนชั้นบน 3 +ชั้นล่าง 1) 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
𝗛𝗶𝗴𝗵𝗹𝗶𝗴𝗵𝘁 : Bay Window เชื่อมต่อกับธรรมชาติรอบบ้าน, Living Room เชื่อมต่อกับสวนใหญ่ข้างบ้าน, ห้องนอนล่างอยู่บริเวณโซนหน้าบ้าน ได้วิวสวนเหมาะกับครอบครัวที่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย น่าจะชอบแบบบ้านนี้
∎ 𝗖𝗮𝗹𝗲𝗻𝗱𝘂l𝗮 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
𝗛𝗶𝗴𝗵𝗹𝗶𝗴𝗵𝘁 : Double Volume Living สูงโปร่งกว่า 6 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนของครบครัว ชั้นบน หลังนี้ใหญ่และดูหรูหราขึ้นมา ตัวบ้านดูโปร่งโล่งดีครับ
∎ 𝗩𝗲𝗿𝗯𝗲𝗻𝗮 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
𝗛𝗶𝗴𝗵𝗹𝗶𝗴𝗵𝘁 : ห้องครัวไทย ห้องเมด และ Double Volume Living ห้องนอนมาสเตอร์พร้อมอ่างอาบน้ำ หลังนี้เหมาะกับครอบครัวใหญ่เลย เพราะหลังใหญ่มาก มีครบทุกฟังก์ชั่น
…วันนี้ผมจะพาทุกคนไปส่องดูครับว่าบ้านตัวอย่าง 2 ไทป์ จะเป็นอย่างไรบ้าง? โดยผมขอเริ่มจาก บ้านไทป์ Verbena ก่อนเลยครับ
𝗩𝗲𝗿𝗯𝗲𝗻𝗮
พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวไทย 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
ถ้าดูจากภายนอก จะเห็นได้ว่าบริเวณหน้ากากบ้านถูกดีไซน์ ออกมาให้เป็นหลังคาจั่วทรงสูง ผสมผสานกับดีเทลต่าง ๆ เช่น ซุ้ม Arch โค้ง, ขอบบัว และลูกฟักหน้าต่าง ที่ช่วยให้บ้านดูมีเป็นบ้านฟาร์มเฮ้าส์แบบตะวันตกได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะนอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว ข้อดีหลังคาจั่วทรงสูง ช่วยทำให้ฝ้าเพดานของตัวบ้านด้านในได้ความสูงเพิ่มขึ้น ทางโครงการจึงออกแบบฟังก์ชันภายในบ้านให้มีพื้นที่ Double Volume Living ที่รับกันได้ดีกับหน้าต่างบานใหญ่พิเศษ ซึ่งถือว่าเป็นจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดของบ้านหลังนี้เลยครับ
เมื่อเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน พื้นที่ตรงนี้สามารถจอดรถได้ 3 คัน โดยที่ทางโครงการได้ทำการต่อ Junction Box ไว้สำหรับ EV Charger ให้ด้วย เพื่ออนาคตใครสนใจใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าครับ
1st Floor
ก่อนเข้าขอแวะมาที่ประตูทางเข้าก่อน ประตูจะเป็นบานเปิดเดี่ยว + บาน fix กระจกที่ด้านข้าง ทำให้โถงทางเข้าได้แสงจากธรรมชาติ มีโคมฟ้าหน้าบ้าน ซึ่งรับกันดีกับ ซุ้ม Arch โค้ง ด้านหน้า และเมื่อเข้ามาภายในตัวบ้าน จะเจอกับโถง Foyer ด้านหน้าก่อนเลย เป็นมุมที่สามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าหรือม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าก็ได้เช่นกัน โดยภายในตัวบ้านชั้น 1 ปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC
ถัดเข้ามาด้านซ้ายมือ จะเจอกับ Double Volume Living ความสูง 6 เมตร เชื่อมต่อกันเป็น Common Area ที่รับกับหน้าต่างบ้านใหญ่ ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เชื่อมกันจะเป็น Dining Area ซึ่งบริเวณนี้จะได้รับแสงธรรมชาติด้วยกัน 2 จุด สามารถมองเห็นสวนหลังบ้านได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ข้างบ้าน และหลังบ้าน จะค่อนข้างกว้างกว่าบ้านทั่วไป ทำให้สามารถทำเป็นสวนส่วนตัวได้ครับ
ติดกันเลยจะเป็นส่วนของ ห้องครัวไทยโครงการให้พื้นที่มาค่อนข้างเยอะ เป็นครัวที่สามารถใช้งานได้จริง ให้เคาเตอร์ครัวพร้อมตู้และบานปิดมาเรียบร้อยแบบนี้เลย โดยด้านหลังห้องครัวออกไปจะเจอกับโซน ซักล้าง และห้องแม่บ้าน ซึ่งห้องแม่บ้านจะไม่ได้มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำจะแยกออกมาด้านนอก
กลับเข้ามาในบ้าน ด้านข้างบันไดจะเห็นว่ามีห้องนอนชั้นล่าง 1 ห้อง รองรับผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้ โดยห้องนี้จะมีไม่ได้มีห้องน้ำแยกเป็นส่วนตัว แต่จะใช้ร่วมกันกับห้องน้ำแขก ซึ่งห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง จากด้านนอกและห้องนอนชั้นล่างครับ
บริเวณโถงบันได ตรงนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ช่วงกลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ เพราะแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาทำให้บริเวณตรงค่อนข้างสว่าง
2nd Floor
ส่วนบริเวณชั้นบน จะเป็นชั้นพักอาศัย เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอกับ Living Area ชั้น 2 สามารถมองเห็นห้องรับแขกด้านล่างได้ โดยพื้นที่ตรงนี้ทำเป็นโซนพักผ่อนสำหรับครอบครัว ได้ความเป็นส่วนตัว
ต่อไปจะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งจะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ในห้องมีพื้นที่กว้าง สามารถจัดวางเตียงตรงกลางให้เดินรอบได้ และจัดแบ่งเป็นโซนสำหรับ Walk-in Closet เป็นของตัวเองได้เลย + มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ในห้องนอนด้วย ทางโครงการจัดเป็นบาร์เล็ก ๆ ไว้ หรือจะเอาไว้เก็บกระเป๋าเดินทาง ถุงกอลฟ์ต่างๆ ก็สามารถใช้งานพื้นที่ตรงนี้ได้แบบส่วนตัว ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการครับ โดยห้องนี้จะมีระเบียงให้ได้เทควิวเล็กน้อย และมีห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำมาให้ พร้อมรองรับระบบน้ำร้อนไว้ให้ครับ อ่างล้างหน้าก็จะเป็นแบบ His&Her ครับ ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องแย่งกัน สุขภัณฑ์ได้เป็นแบบฝาอัตโนมัติ ใช้งานได้สะดวก
ถัดไปจะเป็นห้องนอนที่ 2 ห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้อง Master เล็กน้อย สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบาย ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้าง สามารถทำเป็นมุมอ่านหนังสือ หรือโต๊ะทำงานยังได้ และมีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
ห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ จะเป็นห้องนอนที่ 3 ห้องนี้ขนาดไม่ได้ต่างจากห้องนอนที่ 2 สักเท่าไหร่ สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ และมีห้องน้ำในตัวเหมือนกันครับ
โดยบ้านทุกหลังของโครงการจะได้ระบบรักษาความปลอดภัยภายในตัวบ้านแบบ Magnetic Senser ที่ติดตั้งให้ทุกบานประตูหน้าต่างของชั้นล่าง ที่จะมาพร้อม Motion Senser ที่ติดตั้งให้บริเวณโถงบันได สำหรับตรวจจับความเคลื่อนไหวในเวลากลางคืน โดยมี Control Pad จาก INIM ติดตั้งแผงควบคุมไว้บริเวณใกล้กับประตูทางเข้าบ้าน ซึ่งจะได้รับแจ้งเตือนเข้ามือถือ และแจ้งไปที่ป้อมรปภ. ของโครงการได้ทัน เรียกได้ว่า อุ่นใจเรื่องความปลอดภัยไปกับมาตรฐานแสนสิริครับ
Calendura
พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวไทย 3 ที่จอดรถ
บ้านหลังนี้หากพิจารณาจาก Plan บ้านฟังก์ชันการจัดวาง Lay Out จะเหมือนกันกับบ้านหลังแรกเลยครับ ต่างกันตรงนี้พื้นที่ใช้สอยของบ้านหลังนี้จะมีขนาดเล็กกว่า โดยบริเวณหน้ากากบ้านจะมีลักษณะคล้ายกันกับบ้านหลังแรก คือเป็นหลังคาจั่วทรงสูง แต่ต่างกันตรงที่ซุ้ม Arch โค้ง จะไม่ได้สูงเท่าบ้านหลังแรก ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปอีกแบบครับ
เมื่อเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน พื้นที่ตรงนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 2 คัน และ 1 คันจะอยู่นอกชายคาบ้าน สามารถต่อเติมได้ครับ โดยที่ทางโครงการได้ทำการต่อ Junction Box ไว้สำหรับ EV Charger เช่นเดียวกันบ้านหลังแรก เพื่ออนาคตใครสนใจใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าครับ
1st Floor
เช่นเดียวกันกับบ้านหลังแรกครับ เข้ามาจะเจอกับโถง Foyer ด้านหน้า ซึ่งเป็นมุมที่สามารถทำเป็น ตู้โชว์ของ ชั้นวางรองเท้า หรือม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้า ได้เช่นเดียวกันครับ แต่ตัวประตูเป็นบานเปิดเดี่ยว ไม่มีบาน fix กระจกที่ด้านข้างครับ โดยภายในตัวบ้านชั้น 1 ปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC ซึ่งกระเบื้องตัวนี้ จะมีความทนน้ำมากกว่าลามิเนต และให้ความรู้สึกที่สบายเท้ามากกว่ากระเบื้องทั้วไปครับ
และถัดเข้ามาทางด้านขวามือ ก็จะเจอกับ Double Volume Living ที่มีความสูง 6 เมตร เช่นเดียวกับบ้านหลังแรก โดยพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อกันเป็น Common Area ซึ่งข้อแตกต่างของบ้านหลังนี้กับไทป์ก่อนหน้าคือ พื้นที่ใช้สอยจะพอดีกว่าบ้านหลังแรก
ซึ่งเหมาะกับครอบครัวขนาดเริ่มต้น ที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากนัก และในส่วนของหน้าต่างที่เป็นกระจกใสสูง บ้านหลังนี้โครงการก็ให้มาเช่นเดียวกัน ให้สามารถใช้บริเวณนี้ร่วมกันได้ โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบ ทั้งยังได้รับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน + ช่วยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งเป็นการดีไซน์ฟังก์ชั่นที่มองถึงการอยู่อาศัยที่เอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้อาศัย ตาม Concept Sustainable Living จากแสนสิริ
เชื่อมกันเลยจะเป็น Dining Area ซึ่งบริเวณนี้จะได้รับแสงธรรมชาติด้วยกัน 2 จุด สามารถมองเห็นสวนข้างบ้านได้อย่างเต็มที่ โดยพื้นที่ข้างบ้าน และหลังบ้าน สามารถทำเป็นสวนส่วนตัวได้ จะปลูกผัก หรือดอกไม้จัดสวนอันนี้ก็ทำได้เช่นกัน
ติดกันเลยจะเป็นส่วนของ ห้องครัวไทยโครงการให้พื้นที่ตรงส่วนนี้มาค่อนข้างเยอะ เป็นครัวที่สามารถใช้งานได้จริง โดยห้องครัวที่ได้เป็นแบบครัวปิด มีบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้น ส่วนด้านหลังจะเป็นโซนซักล้าง ซึ่งบ้านหลังนี้จะไม่มีห้องแม่บ้าน เหมือนกับบ้านหลังแรกครับ
ส่วนห้องนอนชั้นล่าง เป็นห้องที่ได้พื้นที่ใช้สอยมาไม่น้อย สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบาย หรือถ้าจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ห้องน้ำชั้นล่างของบ้านหลังนี้จะอยู่ติดกัน ใช้งานได้สะดวก
2nd Floor
ชั้น 2 ขึ้นมาจะเจอกับ Living Area ที่สามารถมองเห็นห้องรับแขกด้านล่างได้ โดยพื้นที่ตรงนี้เป็นโซนพักผ่อนสำหรับครอบครัว ที่ให้ความเป็นส่วนตัวได้มากกว่าชั้นล่าง ทำให้บริเวณชั้นล่างใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขกแทน
Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีพื้นที่จัดโซน Walk-in Closet เป็นของตัวเอง + ทางโครงการมีจัดเป็นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงไว้ให้ คือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการ สำหรับบ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยงก็สามารถนำไปเป็นไอเดียได้ครับ โดยห้องนี้จะมีระเบียงมาให้เช่นกัน สามารถเทควิวได้ และมีห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องน้ำจะไม่ได้มีอ่างอาบน้ำมาให้ แต่ถือว่าห้องค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้สะดวก
ถัดไปจะเป็นห้องนอนที่ 2 ห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้อง Master เล็กน้อย แต่ก็ใหญ่พอให้สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้าง สามารถวางเป็นโต๊ะข้างเตียง หรือโต๊ะทำงานได้ และมีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
ส่วนห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ จะเป็นห้องนอนที่ 3 ซึ่งขนาดของห้องนี้ ไม่ได้ต่างจากห้องนอนที่ 2 สักเท่าไหร่ สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ และมีห้องน้ำในตัวเหมือนกันครับ
Facility
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการให้มา สามารถรองรับกิจกรรม ทั้งการพักผ่อน ออกกำลังกาย รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น
- Clubhouse
- Fitness
- Swimming pool Indoor&Outdoor
- Kids Pool
- Playground
- Peaceful lake
- Shallow Pond
- Playground
- Basketball Court
- Skateboard Strip
- Multipurpose Lawn
- Botanic Garden & Pavilion
- Dog Park
พิจารณาดูแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ให้ส่วนกลาง มาค่อนข้างเยอะเลยนะ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียว ที่แทรกอยู่แทบทุกจุดของโครงการ เอาจริงผมเห็นมาเยอะนะ บางโครงการให้ส่วนกลางมาเยอะ แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง สำหรับที่นี่โครงการคัดมาแล้วว่าทุกฟังก์ชันสามารถใช้งานได้จริง
เป็นยังไงกันบ้างครับโครงการ ‘สราญสิริ ศรีวารี 2’ บ้านเดี่ยวดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ Urban Farmhouse บนทำเล “บางนา – ศรีวารี” โดยผมขอสรุปจุดเด่น และโครงการนี้เหมาะกับใคร ? ดังนี้ครับ
◾ ทำเล : ส่วนตัวผมคิดว่า เป็นทำเลที่ดีเลยครับ เพราะเป็นทำเลศักยภาพเข้าออกได้หลายทาง Motorway, ทางด่วนบูรพาวิถี และ Airport Rail Link จะเดินทางไปไหนก็สะดวกสบาย
◾ ราคา : เริ่มต้น 5.ึ79 – 12 ล้าน* ราคาถือว่าถือว่าสมเหตุสมผลกับการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุ ที่สามารถใช้งานได้จริงทุกจุด ราคานี้ไม่แย่เลยครับ
◾ ส่วนกลาง : ไฮไลต์ของทางโครงการ แน่นอนว่าต้องเป็นพื้นที่ส่วนกลางอยู่แล้วครับ ที่เห็นชัด ๆ เลยสำหรับโครงการนี้ คงจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ สวนสีเขียว ดูจากส่วนกลางต่าง ๆ ที่จัดมาให้ ส่วนใหญ่เป็น Out-door เช่น Peaceful lake, Shallow Pond, Playground, Basketball Court, Skateboard Strip และ Multipurpose Lawn เป็นต้น รวมถึง Clubhouse ที่มีทั้ง Fitness และ Swimming pool มีสระแบบในร่มด้วย พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง สำหรับราคาเริ่มต้นเท่านี้ ได้ส่วนกลางขนาดนี้ หาได้ยากมากแล้วครับ
◾ รูปแบบบ้านและสเปก : ฟังก์ชันบ้านเดี่ยว ที่ให้มาครบถ้วน ตอบโจทย์ทุกขนาดครอบครัว เหมาะมากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัว หรือครอบครัวต้องการที่จะขยับขยายพื้นที่ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพราะมีแบบบ้านให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ครอบครัวเริ่มต้น ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่
◾ การลงทุน : ผมมองว่าบ้านแนวราบเหมาะกับการซื้ออยู่เองมากกว่าครับ เพราะถ้าคิดจะซื้อไว้ปล่อยเช่า ผมแนะนำเป็นบ้านแนวราบที่อยู่ในทำเลดีใกล้รถไฟฟ้า หรือซื้อช่วงที่เปิดโครงการใหม่ๆ ได้ราคาดี หรือได้บ้านตำแหน่งใกล้สวน ใกล้คลับเฮาส์ แบบนี้โอกาสที่จะทำกำไรเป็นไปได้มากกว่า เนื่องจากอสังหาแนวราบโดยปกติหาผู้เช่าค่อนข้างยาก ฉะนั้นซื้ออยู่เองคุ้มกว่าครับ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ ‘สราญสิริ ศรีวารี 2’
📍 ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://siri.ly/mEkesFB