“Frasers Property Home” ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ถนัดในด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทุกประเภท ทั้งโครงการทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ที่จะเห็นได้ว่าทางแบรนด์สามารถสร้างยอดขายได้ดีต่อเนื่อง และในแผนปี 2567 เฟรเซอร์สพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยการเดินหน้าขยายสัดส่วนกลุ่มบ้านเดี่ยว และบุกตลาดคอนโดมิเนียมให้มากขึ้น เพื่อให้บริษัทติดตลาด Top 5 แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 2568 ด้วยเป้าหมาย การส่งมอบที่อยู่อาศัย ในแบบฉบับสังคมยั่งยืนผ่านการออกแบบ และก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครับ
ซึ่งโครงการที่ผมจะขอพูดถึงในวันนี้คือ “Grandio แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง” บ้านเดี่ยวพร้อมสระว่ายน้ำหนึ่งเดียว บนทำเล ติดถนนใหญ่ ติวานนท์ ตรงข้ามเมืองทอง เริ่ม 12 – 20 ล้านบาท* จะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ…
เริ่มแรกผมจะขอพูดถึงทำเลก่อน ทุกวันนี้ “แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง” เป็นอีกหนึ่งโซนที่แทบจะไม่ได้ต่างไปจาก ตัวเมืองสำคัญของกรุงเทพฯ โซนอื่น ๆ เลย แต่ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดคือ ภายในย่านมีความหนาแน่นของประชากรในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หนาแน่นเท่าโซนใจกลางเมือง การใช้ชีวิตในย่านนี้จึงค่อนข้างเรียบง่ายกว่า แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสะดวกเพียบพร้อมไม่ต่างกัน ย่านนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นที่ยอมรับของเหล่า Developer หลายเจ้า ฉะนั้นถ้าจะถามผมว่าทำไม แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง ถึงเป็นทำเลที่น่าลงทุน ผมเลยจะขอถามกลับว่า…
ต้องการลงทุนรูปแบบไหน เน้นกำไรหรือเปล่า หรือลงทุนเพื่อการอยู่อาศัยแบบระยะยาวจริง ๆ
เพราะ “แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง” ไม่เพียงแต่เป็นทำเลสำคัญ สำหรับการพัฒนา Project ต่าง ๆ หรือพัฒนาเป็นที่อาศัยใหม่ แต่ยังเป็นทำเลที่มีความสมบูรณ์แบบต่อการใช้ชีวิตในตัวอีกด้วย ซึ่งวันนี้ผมเลยจะพาทุกคนมาหาคำตอบกันว่า ทำไม… แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง ถึงเป็นทำเลที่น่าสนใจ
Reason 1 “ทางพิเศษอุดรรัถยา และ ทางพิเศษศรีรัช”
ระบบโครงข่ายคมนาคมเชื่อมต่อทุกความเจริญ
ต้องยอมรับเลยว่า การเดินทางเป็น ปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ของการใช้ชีวิต ซึ่งโซนแจ้งวัฒนะ – เมืองทอง ก็เป็นอีกหนึ่งย่านตอบโจทย์ในเรื่องของการเดินทาง เนื่องจากถนนหลายสายบนเส้นนี้เป็นเส้นที่สามารถเข้าเมืองก็ง่าย ออกต่างจังหวัดก็สะดวก เป็นเหมือนถนนตัวกลางที่เชื่อมต่อใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สู่ย่านอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นทางพิเศษที่มีถึง 2 เส้นทางคือ ทางพิเศษอุดรรัถยา เส้นทางที่เชื่อมต่อมาจากทางพิเศษศรีรัช มุ่งไปทางทิศเหนือ ทำให้เส้นนี้สามารถไปยังจังหวัดปทุมธานี ได้โดยตรง หรือถ้าจะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองก็สามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางพิเศษศรีรัช เพื่อเชื่อมต่อไปยังโซน ลาดพร้าว – จตุจักร และอีกเส้นทางคือ ถ.ติวานนท์ เชื่อมเข้าถ.แจ้งวัฒนะ ที่เป็นถนนสายหลัก เชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น ถ.วิภาวดี-รังสิต ทางยกระดับอุตราภิมุข และถ.รามอินทรา
ส่วนโครงการ “Grandio แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง” ตั้งอยู่บนถ.ติวานนท์ สามารถเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทาง จากฝั่งถนนหลักคือ ถนนติวานนท์ และทางด้านหลัง ซ.สุขาประชาสรรค์ 2 ซึ่งก็ถือว่าสะดวกเช่นกันครับ
Reason 2 “รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ศูนย์ราชการนนทบุรี – มีนบุรี)”
ตัวกลางการเชื่อมต่อย่านสำคัญใจกลางเมือง
นอกจากการเดินทางที่เอื้ออำนวยความสะดวก สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้ว ก็ยังเอื้อความสะดวกในส่วนของคนที่ต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถไฟฟ้าอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่สร้างเสร็จและเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปี 2564 ซึ่งมีส่วนช่วยให้การเชื่อมเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ใกล้จะเปิดให้บริการเต็มทีแล้ว โดยคาดว่าจะเป็ดให้บริการในปี 2567 และที่น่าสนใจเลยคือ ส่วนต่อขยายเมืองทองธานี จะเข้ามามีส่วนทำให้การเดินทางเข้ามายังศูนย์จัดแสดง อินแพค อารีนา เมืองทองธานี เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เนื่องจากตำแหน่งของสถานีอิมแพคเมืองทองธานี จะตั้งอยู่ใกล้กับ Challenger Hall ของ IMPACT Arena โดยจะมีทางเชื่อมจากสถานีเข้าสู่ Challenger Hall ได้เลยโดยตรงครับ ส่วนสถานีทะเลสาบเมืองทอง จะสามารถเชื่อมต่อเข้า Impact Forum และ ทะเลสาบเมืองทองได้ครับ
Reason 3 แหล่งงานขนาดใหญ่
ที่อยู่อาศัยหนาแน่น… ใกล้เมือง
อย่างที่เราทราบกันว่า แจ้งวัฒนะ – เมืองทองคือย่านที่อยู่อาศัย ที่นี่มีที่อยู่อาศัยแนวราบค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮ้าส์ โดยเฉพาะย่านสำคัญอย่าง เมืองทองธานี หรือ แยกปากเกร็ด สังเกตได้จากสีผังเมือง จะเห็นได้ว่ามีการกระจุกตัวหนาแน่นเพียงบางจุด ซึ่งสาเหตุที่หลายคนเลือกที่จะย้ายครอบครัวมาอยู่ทำเลนี้ หลัก ๆ คือการอยู่ใกล้แหล่งงาน แหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อย่างเมืองทองธานีที่เป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ มีทั้งอาคารสำนักงาน และแหล่งไลฟ์สไตล์ เช่น Cosmo Bazaar, KBTG กสิกร บิซิเนส เทคโนโลยี กรุป, Software Park อาคารสำนักงานของกลุ่มธุรกิจ Digital และศูนย์ราชการอื่น ๆ ส่งผลให้จำนวนประชากรขยับขยายเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่มากขึ้น
Demand บนทำเลแห่งนี้จึงค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นกลุ่มคนที่ทำงานในย่าน พื้นที่พาณิชยกรรมส่วนใหญ่ จึงมีการเติบโตต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่และรองรับการขยับขยายในอนาคต ไม่ว่าจะโรงเรียน โรงพยาบาล อาทิ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ เมืองทองธานี (ฝั่งไทย), โรงเรียนอัมพรไพศาล, โรงพยาบาลกรุงไทย และโรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด เป็นต้น ซึ่งล้วนส่งผลดีโดยตรงต่อการเลือกที่อยู่อาศัย ทั้งในด้านการเดินทาง สาธารณูปโภค และการลงทุนที่มีแนวโน้มที่ดีในอนาคตครับ
Reason 4 Surrounding
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
และอีกเหตุผลสำคัญที่ผมจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ แจ้งวัฒนะ – เมืองทองเป็นย่านที่ใกล้ทั้งสถานที่จัดงานสำคัญ และแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี เป็นเหมือนศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ Cosmo Barzaar, Software Park Office Building, Hotel และคอนโดฯ หรือจะเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ขยับมาทางโซนแยกปากเกร็ด – แจ้งวัฒนะ ก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, โฮมโปร แจ้งวัฒนะ, โลตัส ติวานนท์ (ปากเกร็ด), ไทวัสดุ • แจ้งวัฒนะ, แม็คโคร แจ้งวัฒนะ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ทำเลแจ้งวัฒนะ – เมืองทองเองก็อยู่ใกล้ ท่าอากาศยานดอนเมือง ดังนั้นที่นี่ไม่ได้รองรับแค่ชาวไทยเพียงอย่างเดียว แต่ยังรองรับชาวต่างชาติจากหลาย ๆ ประเทศที่เข้ามาเยี่ยมชมงานแสดงต่าง ๆ อีกด้วยครับ
- ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี
- คอสโม บาซาร์
- IMPACT Lakeside
- IMPACT Speed Park
- บีไฮฟ์ เมืองทองธานี
- โลตัส ติวานนท์ (ปากเกร็ด)
- เมกาโฮม • ติวานนท์
- เมเจอร์ ปากเกร็ด
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
- โฮมโปร แจ้งวัฒนะ
- ไทวัสดุ • แจ้งวัฒนะ
- แม็คโคร แจ้งวัฒนะ
- โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ยุโรปคลาสสิก หลังใหญ่
…และผมจะขอพาไปเจาะลึก โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ยุโรปคลาสสิก หลังใหญ่ ‘Grandio แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง’ ในราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท จำนวน 140 ครอบครัว บนพื้นที่ 43-0-85.3 ไร่ มาพร้อมนวัตกรรม FRASERS CLEAN AND COOL AIR เทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มออกซิเจนในบ้าน สามารถดูดซับอากาศดี (O₂) จากภายนอกเข้ามาแทนที่ CO² พร้อมกรองอากาศได้ไปในตัว ทั้งสิ่งแปลก ฝุ่น เชื้อโรค และ PM 2.5 หายห่วงเรื่องสิ่งสกปรกภายในบ้านได้ และที่สำคัญยังช่วยแลกอุณหภูมิ ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านไม่ร้อน ประหยัดค่าไฟได้อีกหนึ่งช่องทาง โดยโครงการติดตั้งพร้อมใช้งานมาให้ทุกหลังครับ
สำหรับรูปแบบบ้านโครงการ Grandio แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นเหมือนกันทั้งหมด มีดังนี้…
∎ Siena บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
∎ Milano บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 251 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
∎ Luzern บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
เริ่มต้นด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Luzern พื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ซึ่งจะเป็นบ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการ
เมื่อดูจากภายนอก จะเห็นได้ว่าบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern European และบริเวณหน้ากากถูกดีไซน์ด้วยซุ้มเสาคู่ ความสูงถึงหลังคา ทำให้เป็น Main Entrance ส่วนบานประตูถูกใช้เป็นประตูบานเปิดคู่รับกันกับซุ้มทรงสูง ช่วยให้บ้านดูมีโอ่อ่า ตามแบบฉบับยุโรปคลาสสิก ซึ่งถือว่าเป็นจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดของบ้านหลังนี้ครับ
จุดเด่น : แบบบ้านหลังนี้จะเน้นพื้นที่ใช้สอยที่กว้างเต็มพื้นที่ มาพร้อมฟังก์ชันที่สามารถใช้งานส่วนต่าง ๆ ของบ้านให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งฟังก์ชันเด่น ๆ ประกอบไปด้วย
◾ Double Volume Foyer โถงต้อนรับขนาดใหญ่
◾ Swimming Pool สระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน
◾ Glasshouse Laundry ห้องซัก – ตาก – รีด
◾ Maid Room ห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำแยกส่วน
◾ Prayer Area มุมวางหิ้งพระ
เมื่อเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน พื้นที่ตรงนี้สามารถจอดรถได้ 3 คัน โดยจะเป็นที่จอดในร่ม อยู่ใต้ชายคาบ้านทั้ง 3 คัน ซึ่งทางโครงการได้ทำการต่อ Junction Box ไว้สำหรับ EV Charger ให้ด้วย เพื่ออนาคตใครสนใจใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าครับ
ซึ่งด้านข้างบ้านก็สามารถจัดแต่ง เป็นสวนหย่อมหรือจะทำเป็นมุมพักผ่อนข้างบ้านเหมือนกับบ้านตัวอย่างก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะบริเวณนี้จะสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้รอบบ้านครับ
และก่อนที่จะเข้าไปภายในบ้านผมขอแวะมาที่ประตูทางเข้าก่อน ประตูจะเป็นประตูบานเปิดคู่ ซึ่งรับกันดีกับ ซุ้มเสาคู่ด้านหน้า ทำให้ได้ช่องแสงตรงประตูและกระจกบานใหญ่ด้านบน ทำให้บรรยากาศยิ่งดูโปร่งโล่ง ซึ่งถ้าเข้ามาภายในตัวบ้าน บริเวณชั้น 1 จะเห็นเลยว่าโถง Foyer เป็น Double Volume เพดานสูง 6.4 เมตร เป็นมุมที่สามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าหรือม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าก็ได้เช่นกัน โดยพื้นของชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
เชื่อมต่อกันเลยจะเป็น Living Area ได้พื้นที่มาค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจะอยู่ฝั่งหน้าบ้านข้าง ๆ กันกับ Foyer รองรับแขกได้ประมาณ 6 – 8 คนเลย และสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ถึง 3 ตัว พร้อมโต๊ะกลาง โดยที่ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้าง วางทีวีได้เช่นเดียวกัน
ถัดเข้ามากลางบ้านจะเป็น Dining Area ซึ่งจะอยู่ข้างกันกับห้องครัวด้านขวา โดยจะมีหน้าต่างตรงผนังห้องครัว ทำให้สามารถรับ – ส่ง อาหารผ่านช่องทางนี้ได้ บริเวณนี้ สามารถวางโต๊ะ Long Table ขนาด 6 – 8 คนได้โดยที่ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้าง และได้รับช่องแสง ทั้งจากด้านหลังและด้านข้างที่ติดกับสระ ทำให้บริเวณไม่รู้สึกไม่อึดอัด
ส่วนด้านซ้ายมือจะเชื่อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ถ้าเปิดประตูมุมนี้ออกไป จะเจอกับพื้นที่สระว่ายน้ำเลย ซึ่งถูกกั้นด้วยประตูกระจก สามารถเปิดออกได้ 2 ทาง และมองเห็นวิวสระได้จากด้านในบ้านครับ สำหรับตัวสระว่ายน้ำจะเป็น สระว่ายน้ำแบบธาราบำบัดส่วนตัว ขนาด 3.7 x 2 เมตร ที่มาพร้อมระบบคลื่นว่ายทวนกระแสน้ำ ถ้าจะออกกำลังกายจริงจังก็สามารถทำได้ หรือจะปรับให้เป็นโหมดนวดสปา ก็ช่วยให้ผ่อนคลาย และลดความเหนื่อยล้าได้ ซึ่งถ้าดูจากรูปจะเห็นว่าตัวสระไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่มาก แต่ใช้งานได้จริง เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากกว่า ซึ่งถ้าต้องการว่ายน้ำจริงจัง ทางโครงการก็มี Swimming Pool ขนาดใหญ่ให้บริการที่คลับเฮ้าส์ครับ
ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ห้องนี้จะอยู่ด้านข้างของสระว่ายน้ำ สำหรับบ้านตัวอย่างถูกจัดให้เป็นห้องสำหรับออกกำลังกาย ซึ่งถ้าจะทำตาม สามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 2 ตัว โดยที่ยังเหลือพื้นที่สำหรับทำเป็นม้านั่งราบให้ยกเวทได้อีกประมาณ 1 ตัว ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นสายออกกำลังกายก็สามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องนอนเพิ่มอีกหนึ่งห้อง หรือจะเป็นห้องทำงานด้านล่างก็ได้เช่นกันครับ
ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ มาพร้อมห้องน้ำในตัว โดยห้องน้ำของห้องนี้จะเป็นแบบ Double Acess สามารถเข้า – ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากด้านนอกและในห้องนอน ทำให้เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกครับ
ส่วนอีกฝากของบ้าน จะเป็นในส่วนของ Service Zone ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว, ห้องซัก – ตาก – รีด และPowder Room ห้องน้ำแขก 1 ห้อง เท่ากับว่าบ้านนี้จะได้ห้องน้ำชั้นล่างถึง 2 ห้อง
ห้องครัว จะเป็นรูปแบบครัวปิด ขนาดใหญ่ ให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง ซึ่งห้องครัวก็จะได้เป็นครัวปิด See Thru Kitchen สามารถทำเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว U
และที่ติดกันเลยจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านคือ Glasshouse Laundry ห้องซัก – ตาก – รีด ขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาให้มี Skylight ช่วยให้ ตากผ้าในห้องได้โดยที่แสงเข้าถึง ทำให้ผ้าไม่มีกลิ่นอับ สามารถจัดพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน จะ Built ชั้นวางของหรือติดราวแขวนเสื้อผ้าเพิ่มเติมก็ทำได้ โดยที่ยังมีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าได้อย่างลงตัว ซึ่งจากห้องซักรีด หลังบ้านจะเป็นโซนซักล้างที่เชื่อมต่อกันกับห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านครับ
บริเวณโถงบันได ตรงนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ช่วงกลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ เพราะแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาทำให้บริเวณตรงค่อนข้างสว่าง + สามารถติด Chandelier ช่วยเพิ่มความ Luxury ได้
2nd Floor
ส่วนบริเวณชั้นบน จะเป็นพื้นที่พักอาศัย เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอกับ Prayer Area ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนหนึ่งจุด สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นมุมหิ้งพระตามบ้านตัวอย่าง และตรงข้ามกันชั้น จะเป็นพื้นที่ Family Area โดยพื้นที่ตรงนี้ทำเป็นโซนพักผ่อนสำหรับครอบครัวได้ โดยพื้นของชั้นบนวัสดุจะเป็น SPC เพดานสูง 3 เมตร
ต่อไปจะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งบ้านหลังนี้จะได้เป็น Double Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่มาพร้อม Walk In Closet ถึง 2 ห้อง โดยห้องแรกจะอยู่ฝั่งด้านซ้ายมือ ติดกันกับ Family Area ห้องนี้ได้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ โดยที่ยังเหลือพื้นที่ติดตั้งทีวี จะมีระเบียงที่ขนาดไม่กว้างมากพอที่จะทำเป็นมุมจิบกาแฟยามเช้า แต่ออกมารับลมได้ครับ
ส่วนมุมแต่งตัวจะอยู่ติดกันกับห้องน้ำโซนด้านหลังบ้าน สามารถ Built ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว L ตามแบบบ้านตัวอย่างได้ ส่วนห้องน้ำ ห้องนี้ได้สุขภัณฑ์แบบจัดเต็ม มาพร้อมอ่างอาบน้ำ ขนาด 1.5 เมตรครับ
Master Bedroom 2 จะอยู่อีกฟากของตัวบ้าน โดยขนาดของห้องจะพอดีกว่าห้องก่อนหน้า แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก สามารถจัดพื้นที่ได้หลายส่วน วางเตียง 6 ฟุตได้สบายเช่นเดียวกัน มาพร้อม Walk In Closet และห้องน้ำภายในตัว แต่ห้องนี้จะไม่ได้อ่างอาบน้ำครับ
สุดท้ายห้องนอนเล็ก ห้องนี้ได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง อยู่บริเวณกลางบ้านของชั้น 2 สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้ โดยที่ยังมีพื้นที่ด้านข้างพอให้วางโต๊ะหัวเตียง หรือจะทำเป็นมุมโต๊ะอ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน และห้องนอนเล็กจะได้ห้องน้ำภายในตัวเช่นเดียวกันกับห้องอื่น ๆ ครับ
Siena
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
บ้านหลังนี้หากพิจารณาจาก Plan ฟังก์ชันและการจัดวาง Lay Out จะคล้ายกันกับบ้านหลังแรกเลยครับ ต่างกันตรงที่พื้นที่ใช้สอยของบ้านหลังนี้จะมีขนาดที่พอดีกว่า เหมาะกับครอบครัวขนาดเริ่มต้น โดยบริเวณหน้ากากบ้านจะมีลักษณะคล้ายกันกับบ้านหลังแรก แต่ต่างกันตรงที่ซุ้มเสาคู่ด้านหน้า จะไม่ได้สูงเท่าบ้านหลังแรก แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปอีกแบบครับ
จุดเด่น : แบบบ้านหลังนี้จะเน้นฟังก์ชันที่สามารถใช้งานส่วนต่าง ๆ ของบ้านให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งฟังก์ชันเด่น ๆ ประกอบไปด้วย
◾ Foyer โถงต้อนรับขนาดใหญ่
◾ Glasshouse Laundry ห้องซัก -ตาก -รีด
◾ Family Area มุมพักผ่อนส่วนตัว
◾ Prayer Area มุมวางหิ้งพระ
เมื่อเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน พื้นที่ตรงนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 2 คัน โดยที่ทางโครงการได้ทำการต่อ Junction Box ไว้สำหรับ EV Charger เช่นเดียวกันบ้านหลังแรกเลยครับ เผื่ออนาคตสนใจใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าครับ
1st Floor
เช่นเดียวกันกับบ้านหลังแรกครับ เข้ามาจะเจอกับโถง Foyer ด้านหน้า ซึ่งจะไม่มีส่วนของ Double Volume แต่ยังสามารถทำเป็น ตู้โชว์ของ ชั้นวางรองเท้า หรือม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้า ได้เช่นเดียวกันครับ โดยภายในตัวบ้านชั้น 1 ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เพดานสูง 2.8 เมตร
ถัดเข้ามาทางด้านซ้ายมือ ก็จะเจอกับ Living Area เช่นเดียวกับบ้านหลังแรก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวข้างบ้านได้ และยังเชื่อมต่อกับ Dining Area กลางบ้าน ซึ่งข้อแตกต่างของบ้านหลังนี้กับไทป์ก่อนหน้าคือ พื้นที่ใช้สอยจะพอดีกว่าบ้านหลังแรก ซึ่งเหมาะกับครอบครัวขนาดเริ่มต้นที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่ใช้สอยมาก แต่ยังสามารถใช้บริเวณนี้ร่วมกันได้ โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบครับ
ห้องนอนด้านล่าง จะอยู่ฝั่งเดียวกันกับ Living Area เลยครับ ขนาดห้องกำลังดี เพียงพอสำหรับการทำเป็นห้องนอน วางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ โดยที่ยังพอมีพื้นที่ด้านข้าง หรือจะทำเป็นห้องดูหนังแบบเดียวกันกับบ้านตัวอย่างอันนี้ก็ทำได้เช่นเดียวกัน
ส่วนพื้นที่ Service Zone ตรงส่วนนี้ยังมีให้เหมือนบ้านหลังแรกเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว และ Glasshouse Laundry ห้องซัก-ตาก-รีด ซึ่งห้องครัวสามารถทำเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว U ได้ครับ และที่ติดกันเลยจะ Glasshouse Laundry ห้องซัก-ตาก-รีด ถูกออกแบบมาให้มี Skylight ช่วยให้ได้รับแสงจากธรรมชาติ มีประตูเชื่อมออกไปยังโซนซักล้างด้านหลังบ้าน ข้อแตกต่างคือ บ้านหลังนี้จะไม่มีห้องแม่บ้านครับ
2nd Floor
ส่วนบริเวณชั้นบน ก็จะเป็นพื้นที่พักอาศัย ซึ่งจะมีจุดที่เป็นไฮไลท์ที่แตกต่างไปแบบบ้านก่อนหน้าชัดเจนคือ Family Area ที่จะแยกเป็นชั้นลดหลั่นจากชั้น 2 ลงมาเล็กน้อย ทำให้บริเวณนี้ถูกแยกออกมาเป็นสัดส่วน และได้ความเป็นส่วนตัว จะทำเป็นมุมพักผ่อนหรือมุมนั่งทำงานก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยเพดานมีความสูงอยู่ที่ 3.8 เมตร ซึ่งถ้าเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์อีกหนึ่งจุด Prayer Area สำหรับวางหิ้งพระ แต่ขนาดอาจจะเล็กลงมาหน่อย
ส่วนชั้นบนจะได้เพดานสูง 3 เมตร วัสดุของพื้นจะปูด้วย SPC เวลาเดินจะให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายกว่าพื้นแกรนิตโต้ สำหรับ Master Bedroom บ้านหลังนี้จะได้เพียงแค่ห้องเดียว ฝั่งซ้ายมือ พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ มี Walk In Closet และห้องน้ำภายในตัวครับ
ถัดไปจะเป็นห้องนอนที่ 2 ห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้อง Master เล็กน้อย แต่ก็ใหญ่พอให้สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้าง สามารถวางเป็นโต๊ะข้างเตียง หรือโต๊ะทำงานได้ และมีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
ส่วนห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ จะเป็นห้องนอนที่ 3 ซึ่งขนาดของห้องนี้ ไม่ได้ต่างจากห้องนอนที่ 2 สักเท่าไหร่ สามารถวางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้พอดี และมีห้องน้ำในตัวเหมือนกันครับ
สำหรับบ้านทุกหลังของโครงการจะได้ระบบสัญญาณกันขโมย Wiring Burglar Alarm Systems แบบ Magnetic ให้ทั้งหลัง สามารถ bypass เพื่อเปิด-ปิดเฉพาะโซนได้ รวมทั้งยังรองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นอีกด้วยครับ
Facility
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการให้มา สามารถรองรับกิจกรรมได้ทั้ง การพักผ่อน ออกกำลังกาย รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น
- Clubhouse
- Swimming Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 23 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กผู้ใหญ่
- Fitness อุปกรณ์ครบครัน
- Garden
- Playground
ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ให้ส่วนกลาง มาค่อนข้างครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียว ที่แทรกอยู่แทบทุกจุดของโครงการ เอาจริงผมเห็นมาเยอะนะ บางโครงการให้ส่วนกลางมาเยอะ แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง สำหรับที่นี่ทุกฟังก์ชันของโครงการถูกคัดสรรมาแล้วว่าทุกฟังก์ชันสามารถใช้งานได้จริงครับ
โครงการนี้เหมาะกับใคร
เป็นยังไงกันบ้างครับโครงการ ‘Grandio แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง’ บ้านเดี่ยวพร้อมสระว่ายน้ำหนึ่งเดียว บนทำเล แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง ติดถนนใหญ่ ตรงข้ามเมืองทอง โดยผมขอสรุปจุดเด่น และโครงการนี้เหมาะกับใคร ? ดังนี้ครับ
◾ ทำเล : ส่วนตัวผมคิดว่า เป็นทำเลที่ดีเลยครับ เพราะเป็นทำเลศักยภาพเข้าออกได้หลายทาง ทางพิเศษอุดรรัถยา, ทางพิเศษศรีรัช และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู จะเดินทางไปไหนก็สะดวกสบายครับ
◾ ราคา : เริ่มต้น 12 – 20 ล้านบาท* ราคานี้ผมถือว่าไม่แย่เลย สมเหตุสมผลกับทำเล การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุ ที่สามารถใช้งานได้จริงทุกจุด
◾ ส่วนกลาง : ไฮไลต์ของทางโครงการ แน่นอนว่าต้องเป็นพื้นที่ส่วนกลางอยู่แล้วครับ ที่เห็นชัด ๆ เลยสำหรับโครงการนี้ คงจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ สวนสีเขียว ที่จัดมาให้อย่างสวยงาม รวมถึง Clubhouse ที่มีทั้ง Fitness และ Swimming pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
◾ รูปแบบบ้านและสเปก : ฟังก์ชันบ้านเดี่ยว ที่ให้มาครบครัน ตอบโจทย์ทุกขนาดครอบครัว เหมาะมากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัว หรือครอบครัวต้องการที่จะขยับขยายพื้นที่ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
◾ การลงทุน : สำหรับ บ้านแนวราบ ผมมองว่ายังไงก็เหมาะกับการซื้ออยู่เองมากกว่าครับ เพราะถ้าคิดจะซื้อไว้ปล่อยเช่า ผมแนะนำเป็นบ้านที่อยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าหรือตำแหน่งบ้านใกล้สวน ใกล้คลับเฮาส์ แบบนี้โอกาสที่จะทำกำไรเป็นไปได้ง่ายกว่า เนื่องจากอสังหาแนวราบโดยปกติหาผู้เช่ายากอยู่แล้ว ฉะนั้นซื้ออยู่เองคุ้มกว่าแน่นอนครับ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ ‘Grandio แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง’
📍 ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://bit.ly/44z8IKA