เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมสุขุมวิทถึงเป็นทำเลอันดับต้น ๆ ที่ใคร ๆ ต่างก็จับตามองเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ? สาเหตุก็เพราะเป็นทำเลศักยภาพ และเป็นศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพฯ หรือ CBD ที่สำคัญและยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ซึ่งเป็นตัวดึงดูดความเจริญให้หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ย่านนี้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และโครงการที่อยู่อาศัย หรือเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เลย
สุขุมวิทเป็นถนนเส้นหลักที่พาดผ่านย่านต่าง ๆ โดยซอยสุขุมวิท 71 จะอยู่ใกล้เคียงกับย่านพระโขนง ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่มีความเจริญและมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติเลือกเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทข้ามชาติอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากนั่นเองครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นของโซนสุขุมวิทที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ ความสะดวกสบายของการเดินทางที่ครบวงจร เนื่องจากทำเลนี้ ให้ความสะดวกทั้งการเดินทางโดยรถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมที่หลากหลาย ทำให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้หลายเส้นทาง โดยเฉพาะการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ย่านอโศก, สาทร, สีลม สามารถใช้ถนนเส้นหลักอย่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี หรือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางด่วนฉลองรัช รามอินทรา-อาจณรงค์ และทางพิเศษศรีรัช เพื่อเข้าถึงพื้นที่โซนต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว
สุขุมวิท 71 ยังอยู่ใกล้กับ BTS พระโขนง ซึ่งแต่เดิมคนที่อาศัยในย่านพระโขนงมีวิถีชีวิตที่ใช้การเดินทางด้วยเรือเป็นหลัก แต่หลังจากที่มีการตัดถนน ก็เริ่มมีรถสาธารณะคอยรับ-ส่งผ่านในย่านนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือการเติบโตของพื้นที่จนกลายเป็นย่านค้าขายชื่อดัง และปัจจุบันเป็นย่านที่มีนักลงทุนเข้าไปจับจองพื้นที่ พร้อมพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าได้ลองเดินเลียบถนนบริเวณ BTS พระโขนง จะพบกับสถานที่สำคัญกลิ่นอายดั้งเดิม ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ อาทิ Summer Hill ศูนย์รวมชุมชนแห่งใหม่ที่ห่างจาก BTS พระโขนง ประมาณ 50 เมตร, W District แหล่งรวมศิลปะและไลฟ์สไตล์ของคนเมือง และเกตเวย์ เอกมัย ห้างดังที่รวบรวมร้านอาหารญี่ปุ่นมาไว้ในพื้นที่
ความแตกต่างของทำเลสุขุมวิท 71 ที่ไม่เหมือนทำเลอื่นก็คือ ยังมีความเงียบสงบและให้ความเป็นส่วนตัว แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านได้หลากหลาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า, แหล่งรวมตัวของคนรุ่นใหม่อย่าง Co-Working Space หรือ Community Mall, ร้านอาหารหลากสไตล์ทั้งไทยและนานาชาติ, แหล่งช้อปปิ้ง, แหล่งงาน, โรงเรียนและโรงพยาบาลที่รวบรวมไว้ครบจบในพื้นที่เดียว
▪ ถนนสุขุมวิท
▪ Summer Hill 
▪ โรงพยาบาลสุขุมวิท
▪ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
สำรวจสภาพแวดล้อมบริเวณในซอยปรีดีพนมยงค์ 2 สักเล็กน้อย หากเข้ามาทางถนนสุขุมวิท 71 จะเห็นว่าตลอดทั้งสองข้างทางของซอย เต็มไปด้วยแหล่งของกินริมทาง ร้านอาหาร มินิมาร์ท เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากครับ
และถ้าหากวิ่งตรงมาจนสุดปลายทาง จะพบกับทางแยก ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 300 เมตร จะเชื่อมต่อกับทางด่วนฉลองรัช (ด่านรามอินทรา-อาจณรงค์) มุ่งตรงสู่ย่านพัฒนาการ-พระราม 9 ได้ แต่ถ้าเลี้ยวไปทางขวา ก็จะมีเส้นทางให้ลัดเลาะไปถึงคอมมูนิตี้มอลล์ T77 หรือใช้เป็นเส้นทางหลบรถติดเพื่อไปยังซอยอ่อนนุชได้ครับ อีกทั้งในซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ยังมีซอยแสงทิพย์ ซึ่งถ้าเดินเข้าไปจะเป็นตลาดพระโขนง สามารถใช้ลัดเลาะออกไปถนนสุขุมวิทได้ด้วยครับ
“THE NEST SUKHUMVIT 71”
คอนโดโลว์ไรส์สไตล์รีสอร์ต ใกล้ BTS พระโขนง บนทำเลสุขุมวิท 71
“เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71” เป็นคอนโดไลว์ไรส์ 8 ชั้น 5 อาคาร ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 515 ยูนิต พื้นที่จอดรถประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน โดดเด่นด้วยส่วนกลางสไตล์รีสอร์ตที่อยู่จุดศูนย์กลางพอดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ล้อมรอบด้วยอาคารพักอาศัย จึงให้บรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว
อย่างที่ผมได้บอกไปข้างต้นครับว่า Main Facility ของโครงการนี้ ถูกจัดตำแหน่งไว้ตรงกลางของอาคารพักอาศัยทั้ง 5 ตึก ทำให้ไม่ว่าลูกบ้านจะพักอยู่ตึกไหนก็สามารถเข้าถึงส่วนกลางได้ในระยะทางที่เท่า ๆ กัน อีกทั้งยังได้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัว เนื่องจากตัวอาคารพักอาศัยทำหน้าที่เหมือนเป็นกำแพงบังสายตาจากกลุ่มคนภายนอก
ส่วนกลางจะเริ่มต้นที่ล็อบบี้หลักของอาคาร A เชื่อมต่อไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางด้านนอก ซึ่งจะประกอบไปด้วยสวนหย่อม พื้นที่สีเขียว มุมนั่งพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ และยังมีอาคารคลับเฮ้าส์รูปทรงตัว L ซึ่งประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแยกโซนเด็ก-ผู้ใหญ่, ฟิตเนส, Co-Working Space และพื้นที่พักผ่อนบน Rooftop
Facilities :
▪ CLEAR CRYSTAL COOL
▪ FITNESS & YOGA
▪ WOODEN NEST LOUNGE
▪ WATERSIDE SOCIAL LOUNGE
▪ STARLIGHT OUTDOOR THE ARTE
▪ LAUNDRY ROOM
▪ WI-FI SERVICE
▪ SECURITY
▪ KEY CARD ACCESS
▪ SHUTTLE BUS
เมื่ออยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง จะมองเห็นดีไซน์ตัวอาคารพักอาศัยที่มีการบิดส่วนของผนังให้มีองศาเอียงเล็กน้อยดูมีมิติ ซึ่งนอกจากจะทำให้รูปทรงอาคารดูสวยงามแล้ว ในส่วนของลูกบ้านเองยังได้รับความเป็นส่วนตัวเมื่อมองวิวด้านนอกจาก Bay Window ที่บิดองศาอีกด้วย
สวนหย่อมให้บรรยากาศร่มรื่นสไตล์รีสอร์ต
พื้นที่ส่วนกลางจะเน้นทางลาดชัน เพื่อความสะดวกต่อการใช้งานของลูกบ้าน เช่น รถเข็นเด็ก หรือผู้ที่ใช้ Wheel Chair
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดประมาณ 4-6 x 26 ม. แบ่งแยกโซนเด็ก-ผู้ใหญ่
ฟิตเนสอุปกรณ์ครบครันวิวสระว่ายน้ำ
Playground สนามเด็กเล่น
ที่นั่งรับรองติดกับฟิตเนส
ลูกบ้านสามารถใช้ Co-Working Space โดยทำการจองผ่านทางแอปพลิเคชัน รองรับการใช้ชีวิตในแบบ New Normal ไม่ว่าจะเป็น ทำงานแบบ Work from Home, นัดประชุม หรือเรียนออนไลน์
Co-Working Space รองรับลูกบ้านที่ชั้นล่างสุดของอาคารพักอาศัย
ชั้น Rooftop พื้นที่กว้างและมีที่นั่งรองรับ บรรยากาศค่อนข้างดีในตอนเช้าและตอนเย็น อีกทั้งยังลูกบ้านยังสามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้จัดคลาสเรียนโยคะแบบเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย
มาต่อกันที่โซนห้องพักอาศัยกันบ้างครับ
สำหรับคอนโดแห่งนี้ สามารถแบ่งประเภทห้องพักอาศัยใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท ได้แก่
▪ 1 Bedroom 24.69-33.35 ตร.ม.
▪ 1 Bedroom Plus 41.52 ตร.ม.
▪ 2 Bedrooms 44.51-47.22 ตร.ม.
โดยโครงการนี้พร้อมขายในแบบ Fully Furnished ที่มีการ Built-in เฟอร์นิเจอร์มาให้แล้วเรียบร้อย และยังให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหลายรายการ เช่น เครื่องดูดควัน, ทีวี, เครื่องซักผ้า, แอร์ 2 ตัว, ตู้เสื้อผ้า, เตียงนอน และชุดสุขภัณฑ์ เหมือนกับห้องตัวอย่างที่ผมกำลังจะพาไปชมในลำดับถัดไป
เริ่มต้นด้วย 1 Bedroom ขนาดห้องโดยประมาณ 30 ตร.ม. เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นเลยว่า แปลนห้องถูกจัดสรรพื้นที่แยกโซนต่าง ๆ ไว้เป็นสัดส่วนทั้งหมด เริ่มต้นด้วยครัวปิดที่อยู่บริเวณทางเข้า กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมต่อโซนห้องนั่งเล่นและระเบียงห้อง ส่วนทางด้านขวาจะเป็นห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว
ครัวปิดตรงทางเข้าห้อง เป็นไฮไลท์หนึ่งที่ลูกบ้านชอบมากครับ ด้วยไลฟ์สไตล์ชีวิตแบบ New Normal กลับถึงบ้านก็ต้องล้างมือ และวางสิ่งของต่าง ๆ ไว้ก่อนที่จะเข้าไปยังโซนพักผ่อน ซึ่งห้องครัวที่มีประตูปิดกั้นแบบนี้ ตอบโจทย์มาก ๆ
ทางด้านขวา จะเป็น Pantry พื้นที่จัดเตรียมอาหารที่โครงการ Built-in มาให้แล้วเรียบร้อย ด้านบนจะเป็นชุดตู้แขวนผนังและด้านล่างจะเป็นตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ครัว มีซิงก์ล้างจาน และช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าครับ
ส่วนทางด้านซ้าย จะเป็นพื้นที่ทำอาหาร โครงการจัดสรรพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้พอดี ให้เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน อีกทั้งยังให้ Blacksplash กันเปื้อนด้านหลัง ทำให้ทำความสะอาดง่ายมาก ๆ
ผ่านโซนครัวมาแล้ว จะเป็นโซนพักผ่อนที่รวมฟังก์ชันห้องนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน ในส่วนนี้ Floor to Ceiling จะอยู่ที่ 2.50 ม. ครับ
ติดกับประตูกระจกกั้นโซนครัว จะเป็นมุมรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง โครงการให้ครบชุด ทั้งโต๊ะและเก้าอี้เลยครับ
ถัดเข้ามา จะเจอโซฟาใหญ่ ๆ แบบนี้ นั่ง 2 คนก็ได้ หรือนั่งคนเดียวก็สบายเลย
ด้านตรงข้ามจะเป็นจอทีวีติดผนัง ระยะห่างประมาณ 1.60 ม. ซึ่งทางด้านล่างเป็นตู้เก็บของครับ โครงการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วอย่างคุ้มค่าด้วยการแต่งเติมเฟอร์นิเจอร์เข้าไป ซึ่งลูกบ้านจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ไปเต็ม ๆ
ติดกับห้องนั่งเล่นไปทางด้านซ้ายจะเป็นระเบียงที่ค่อนข้างกว้างเลยครับ ตากผ้าได้ ปลูกต้นไม้ได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์กวาดถูก็ได้เช่นกัน
เข้ามาที่ห้องนอนบ้างครับ เมื่อมองเข้ามา จะเห็นโซนแต่งตัวก่อนเลย ซึ่งโครงการจะให้ชุดตู้เสื้อผ้า Built-in แบบนี้ สามารถจัดเก็บเสื้อผ้าได้ทั้งแขวน ทั้งพับ ตามความสะดวกเลยครับ
ส่วนของใช้จิปาถะ กระเป๋า ครีม หรือสกินแคร์ ก็สามารถจัดเก็บไว้บนชั้น Built-in ตรงนี้ได้ หรือจะหาแจกันดอกไม้ รูปภาพ มาวางตกแต่งเพิ่มก็ได้ครับ
มองอีกมุมหนึ่งจากฝั่งเตียงนอน จะเห็นว่าโครงการให้เฟอร์นิเจอร์ครบมาก ๆ ทั้งตู้ เตียง แถมยังมีห้องน้ำในตัวด้วย
เตียงนอนอยู่ติดกับหน้าต่างบานกว้าง ทำให้ห้องรับแสงแบบเต็ม ๆ ดูโปร่งโล่ง สบายตามากครับ
ข้างเตียงยังพอมีพื้นที่เหลือให้จัดมุมโต๊ะทำงานเล็ก ๆ ได้แบบนี้เลย
ในส่วนของห้องน้ำ แบ่งแยกโซนแห้ง-โซนเปียกไว้ชัดเจน เริ่มต้นด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำที่ยกระดับพื้นเล็กน้อย กั้นด้วยประตูกระจกครับ
มาต่อกันที่อีกหนึ่งห้องในไทป์เดียวกัน เพียงแต่แตกต่างกันที่ Layout ครับ
เข้ามาแล้วจะเป็นโซนครัวปิดเหมือนกัน ทางด้านซ้ายเป็น Pantry ด้านบนเป็นชุดตู้แขวน ด้านล่างมีช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าครับ
ส่วนทางด้านขวา เป็นพื้นที่สำหรับทำอาหาร มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ ด้านล่างเป็นช่องใส่ไมโครเวฟ และสามารถติดตั้งตู้เย็นไว้ด้านข้างได้ครับ
ข้าง ๆ ตู้เย็น เป็นตู้ใส่ของที่สามารถเก็บร่ม เก็บรองเท้าได้ด้วย
สังเกตว่าพื้นครัวกับพื้นห้องนั่งเล่นจะไม่เหมือนกัน ซึ่งห้องครัวจะปูด้วยพื้นกระเบื้องเพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นลามิเนตครับ
ในส่วนของ Common Area รวมฟังก์ชันเช่นกันครับ เป็นทั้งพื้นที่พักผ่อนและมุมรับประทานอาหาร
โครงการให้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง จัดเก้าอี้แบบนั่งข้างกันมาให้ ซึ่งในส่วนนี้ลูกบ้านสามารถจัดมุมใหม่เป็นแบบนั่งคู่ตรงข้ามก็ได้ แล้วแต่ความชอบ ความถนัดเลยครับ
ดีไซน์ของห้องบ่งบอกถึงคาแร็กเตอร์หรือตัวตนของผู้อยู่อาศัย ทางโครงการจึงตกแต่งห้องตัวอย่างออกมาเป็น 2 สไตล์ สะท้อนให้เห็นว่าโครงการนี้รองรับผู้อยู่อาศัยได้ทุกไลฟ์สไตล์เลยครับ
โซฟาที่โครงการให้มา เป็นขนาดกำลังพอเหมาะสำหรับ 2 คน มีโต๊ะกลางขั้นระหว่างจอทีวี Built-in ติดผนังฝั่งตรงข้ามครับ
เชื่อมต่อไปยังระเบียงห้อง พื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยครับ
เข้ามาที่ห้องนอน เมื่อมองตรงเข้ามาจะเจอกับตู้เสื้อผ้า Built-in เช่นเดียวกับห้องแรก
เตียงนอนอยู่ทางด้านขวา ติดกับช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ห้องสว่าง ดูโปร่งโล่งมาก ๆ
ตรงฐานเตียง มีช่องให้เก็บของด้วย
โครงการให้แอร์มาให้ 2 ตัว ในห้องนอนและห้องนั่งเล่นครับ
อีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องน้ำ แยกโซนแห้ง-โซนเปียก ให้ชุดสุขภัณฑ์ครบเช่นเดียวกันครับ
….เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับโครงการ “เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71” คอนโดโลว์ไรส์สไตล์รีสอร์ต รายล้อมด้วยธรรมชาติพร้อมสวนสีเขียวรอบโครงการกว่า 1 ไร่* บนทำเลศักยภาพย่านสุขุมวิท ใกล้ทางด่วนฉลองรัชเพียง 1 นาที 800 ม. ถึง BTS พระโขนง ดังนั้น ผมขอสรุปในมุมมองของนักสืบอสังหา ดังนี้….
ทำเลพระโขนง ถือเป็นทำเลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างในเมืองและนอกเมือง ฝั่งหนึ่งเป็นย่านเอกมัย-ทองหล่อ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นย่านอ่อนนุช ซึ่งเป็นทำเลสุดฮอตที่ใครต่างก็ต้องการเข้าไปอยู่อาศัย แต่โซนพระโขนง จัดเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีความเจริญมาโดยตลอด มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ที่สำคัญยังเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น หากใครยังต้องการความเป็นชุมชนกับราคาที่พักอาศัยที่จับต้องได้ โครงการนี้ตอบโจทย์มาครับ
ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวก เนื่องจากว่าตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 2 มีทั้งตลาด ร้านค้าแนวสตรีทฟู้ด และซูเปอร์มาร์เก็ตมากมายตลอดทั้งซอย และถ้าหากว่าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินคอมมูนิตี้มอลล์ ใกล้ ๆ กับโครงการยังมี T77, Summer Hill, W Market และอีกมากมายให้เลือกใช้บริการ
ด้านการเดินทาง สำหรับย่านนี้ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ หากใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถเข้า-ออกโครงการได้ด้วยถนนสุขุมวิทและทางด่วนใกล้โครงการ สามารถข้ามไปยังโซนพัฒนาการ พระราม 9 และประชาอุทิศได้อย่างสะดวกสบายเลย แต่ถ้าหากใครไม่มีรถส่วนตัว ก็สามารถเรียกใช้บริการรถสาธารณะได้ ทั้ง Grab, Taxi รวมทั้ง Shuttle Bud ที่โครงการมีบริการรับ-ส่งถึง BTS พระโขนงเลย
เรื่องสุดท้ายที่ต้องพูดถึงก็คือ บรรยากาศของโครงการ ด้วยตัวโครงการออกแบบส่วนกลางมาในสไตล์รีสอร์ต เน้นความเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้ปกคลุมให้ร่มเงา อีกทั้งยังเหมาะกับการใช้งานต่อผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย รวมถึงผู้สูงอายุ สังเกตจากการมีทางลาด รองรับ Wheel Chair การจัดสรรพื้นที่ค่อนข้างให้ความเป็นส่วนตัว ในส่วนนี้ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับลูกบ้านที่ลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลางเลยครับ
พิเศษสุด ! ตอนนี้โครงการแต่งห้องใหม่ด้วยเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังจาก Marimekko และ HAY หากลูกค้าท่านใดเป็นแฟนคลับของทั้ง 2 แบรนด์นี้ สามารถซื้อห้องพร้อมแต่ง แถมพร็อพยกเซ็ตกันไปเลย
หากใครสนใจโครงการ “The Nest สุขุมวิท 71”
▪ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ https://bit.ly/3t7X8oo
▪ พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/H76MeEkqTJEoKMhM6