เบาะแสคอนโดใหม่ 0 เมตร ติดสถานีหัวหมาก

ตอนนี้กระแสทำเลที่นิยมมากมากที่นึง ถ้าไม่พูดถึง ย่าน “รามคำแหง-หัวหมาก” หรือโซนบางกะปิ เลยก็คงจะไม่ได้ เพราะเห็นหลายๆ Developer ก็ลงไปเปิดศึกและทยอยกันเปิดขายโครงการกันมากมาย เพราะรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเหลือง (รถไฟฟ้าอินเตอร์เชนจ์เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีลำสาลี) ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเปิดให้บริการปี 2564 และปี 2566 อีกทั้งยังมีการทุบเดอะมอลล์รามคำแหง 2 และ 3 ซึ่งเป็นเดอะมอลล์แรกๆ ของคนย่านรามคำแหง เพื่อสร้างและปรับโฉม Lifestyle Mall เป็น Mixed-Use Complex บนพื้นที่ 30 ไร่ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างปลายปีนี้ และจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 2-3 ปี พร้อมต้อนรับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเปิดให้บริการ สถานีรามคำแหง 12 ในปี 2566 ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่หน้าห้างสรรพสินค้า Mixed-Use Complex แห่งนี้พอดี  


และอีกสาเหตุนึงที่มองว่าทำเลนี้ มีศักยภาพและน่าลงทุน นั่นก็คือ ราคาขายคอนโดที่มีการปรับขึ้นมากกว่า 80% จากเดิมในอดีตราคาขายอยู่ที่ 50,000 บ./ตร.ม. ปัจจุบันราคาขายคอนโดขึ้นไปอยู่ที่ 90,000 บ./ตร.ม. และยังเป็นโซนที่มีการปล่อยเช่าได้ Yield ประมาณ 5% ซึ่งถือว่าดีในแง่การปล่อยเช่า เพราะโซนนี้มี Demand ค่อนข้างเยอะ มีแหล่งสถานศึกษา ออฟฟิศ กิจการด้านกีฬามากมาย  

และล่าสุดการปรับเปลี่ยนผังเมืองใหม่ที่จะมีกม.ผังเมืองใหม่กำหนดให้ใช้ประมาณปลายปี 2562 โดยจะมีการส่งเสริมพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โซนบางกะปิ ซึ่งโซนบางกะปิ (รามคำแหง-หัวหมาก) เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสถานีสำคัญให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของทำเลย่านรามคำแหงจะมีความเจริญและขยายวงกว้างมากขึ้น  


จึงไม่แปลกที่ Developer จะลงไปเปิดศึกและแย่งชิงกลุ่มลูกค้ากันมากมาย เพราะปัจจุบันคอนโดย่านรามคำแหงได้ถูกดูดซับขายไปประมาณ 70-80% เหลือขายประมาณ 1,000 ยูนิต (ยังไม่รวม 3 โครงการเปิดใหม่ อย่างศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง (2,073 ยูนิต), โครงการ เดอะทรี หัวหมาก (590 ยูนิต) และ นิช โมโน รามคำแหง (ประมาณ 1,698 ยูนิต) รวมที่จะเปิดใหม่ใน Q4 อีก 4,363 ยูนิต) น่าจับตาว่าแต่ละโครงการจะกวาดยอดขายไปได้เท่าไหร่

สรุปความน่าสนใจ ทำเล “รามคำแหง-หัวหมาก”

📌รถไฟฟ้าสายสีส้ม (เปิดให้บริการปี 2566) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (รถไฟฟ้าอินเตอร์เชนจ์เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีลำสาลี เปิดให้บริการปี 2564)

📌เดินทางสะดวกทะลุเส้นทางไปยังแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีหัวหมากได้ง่าย เดินทางเข้าออกได้ 2 เส้นทางทั้ง ถนนรามคำแหง และถนนหัวหมาก

📌ถนนรามคำแหง เป็นเส้นถนนสายหลักในกทม. สามาถเชื่อมต่อเส้นทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ไม่ว่าะเป็น ถนนลาดพร้าว, ถนนหัวหมาก, ถนนพระราม 9, ถนนเสรีไทย เป็นต้น

📌แหล่งรวมสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นมหาลัยรามคำแหง, มหาลัยอัสสัมชัญ และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เป็นต้น

📌ห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาลที่รายล้อม เช่น เดอะมอลล์ บางกะปิ, Mixed-Use Complex, เทสโก้ โลตัสบางกะปิ,โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลเวชธานี และโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เป็นต้น

📌สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในย่ายรามคำแหง “ราชมังคลากีฬาสถาน” และอินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก เป็นต้น

📌ราคาขายที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 50,000 บ./ตร.ม. มาเป็น 90,000 บ./ตร.ม.

📌Yield ปล่อยเช่าประมาณ 5% (ปล่อยเช่าได้ประมาณ 10,000 บ./ด.)

📌การปรับเปลี่ยนผังเมืองใหม่ในปี 2562 ที่จะปรับโซนนี้ให้น่าอยู่และเจริญมากขึ้นกว่าเดิม

ทำเลนี้จึงเป็นทำเลที่มีศักยภาพและน่าลงทุน รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะมาสร้างความเจริญและทำให้ทำเลนี้มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสถานีหัวหมาก เนื่องจากสถานีหัวหมากเป็นสถานีที่อยู่ระหว่างสถานีราชมังคลาและสถานีลำสาลี เพียง 1 สถานีเท่านั้น สถานีราชมังคลา เป็นสถานีที่อยู่ใกล้มหาลัยรามคำแหงและสนามกีฬาราชมังคลา เป็น Node หลักที่อยู่อาศัยของคนในย่านนี้ อีกทั้งสถานีลำสาลีที่เป็นสถานีจุดเปลี่ยนถ่ายสำคัญของทำเลรามคำแหงนี้ด้วย เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะให้ทุกการเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องง่าย ดังนั้น สถานีหัวหมาก จึงเป็นเหมือนศูนย์กลางและหัวใจที่จะสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญของทำเลนี้ โดยโครงการ นิช โมโน รามคำแหง เป็นโครงการเดียวที่มีที่ตั้งโครงการติดขาบันไดทางขึ้น-ลง สถานีหัวหมาก เพียง 0 เมตร และยังใกล้โรงพยาบาลรามคำแหง เพียง 100 เมตรเท่านั้น มาดูกันครับว่านอกจากนี้แล้ว โครงการ นิช โมโน รามคำแหง ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีกหรือไม่ ความน่าสนใจของโครงการนี้ เป็นเพียงข้อมูลที่ผมพอจะทราบบ้างในช่วงนี้ ในส่วนของวิเคราะห์เชิงลึก ขอดูรายละเอียดตอนช่วงเปิดตัวโครงการอีกทีครับ

โครงการนิช โมโน รามคำแหง

ความน่าสนใจ  


📌 ทำเลดี สิ่งอำนวยความสะดวกเลิศ

     – 0 เมตร สถานีหัวหมาก เสร็จประมาณปี 2566

     – 1 สถานีจากสถานีลำสาลี ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

        (รถไฟฟ้าอินเตอร์เชนจ์ เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม) เสร็จประมาณปี 2564

     – ใกล้ทางด่วน, มอเตอร์เวย์, ท่าเรือ และสถานีแอร์พอร์ตลิงค์

     – ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมโครงการ ทั้งสถานศึกษาชื่อดัง, โรงพยาบาลชั้นนำ,

       ห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าครบวงจร, สนามกีฬา เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาลัยอัสสัมชัญ,

       สถาบันบัณฑิต, พัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA), โรงพยาบาลรามคำแหง (100 เมตร), โรงพยาบาล

       เวชธานี, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, เดอะมอลล์ บางกะปิ (800 เมตร), ลอนดอนสตรีท,

       โลตัส บางกะปิ, แมคโคร, โฮมโปร, บิ๊กซี, เดอะไนน์ เป็นต้น

     – เดินทางเข้าสู่ New CBD อย่างโซนพระราม 9 ได้ง่ายและสะดวก รวดเร็ว

 

📌 จำนวนยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัวในพื้นที่โครงการขนาดใหญ่

     – จำนวนยูนิตที่น้อยในพื้นที่ 15 ไร่ จำนวนยูนิตประมาณ 1,700 ยูนิต

       (เมื่อเทียบกับโครงการใกล้เคียงที่มีพื้นที่โครงการเท่ากัน)

 

📌ส่วนกลางขนาดใหญ่ หัวใจที่มีสุขภาพดีของคนรามคำแหง

  – ส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่กว่า 6.5 ไร่ ต่อเนื่องทั้งโครงการและเปิดให้ใช้บริการ 24 ชม.

    ในแนวคิด Concept ที่ว่า Healthy Lifestyle 24 Hr. ซึ่งต้องเคลมเลยว่าโครงการนี้เป็นโครงการแรก

    ของย่านรามคำแหงที่ออกแบบการใช้ส่วนกลาง 24 ชม.มาเป็นเหมือนจังหวะการเต้นของหัวใจคนเรา

    ที่ไม่มีวันปิดและหยุดให้บริการ เพื่อเติมเต็มทุกกิจกรรมตลอด 24 ชม.

 

📌ห้องหน้ากว้างมากกว่า 5 เมตร Fully Furnised

   – รูปแบบห้องเป็นแปลนหน้ากว้าง ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบรูปแบบห้องหน้ากว้าง ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่ง รวมถึงโครงการนี้ให้ Fully Furnished

 

📌 ราคาจับต้องได้ น่าลงทุน

       – ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน 28 ตร.ม. (71,000 บ./ตร.ม.)

เฉลี่ยเพียง 8x,xxx บ./ตร.ม.

 

       โครงการ นิช โมโน รามคำแหง จะเปิดขายวันที่ 1-7 พ.ย. ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ใครสนใจสามารถ คลิกลงทะเบียนได้ตาม Link http://bit.ly/2zWPnqP รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท*     

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *