วันซ์ พัทยา
ONCE PATTAYA
เมื่อ “Honour Group” ผู้ประกอบหารอสังหาฯ รายใหญ่ของเมืองพัทยาหันมาจับงานคอนโดด้วยโปรเจกต์ Mixed-use ขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองพัทยา ด้วยชื่อเสียงของ Honour Group ที่ผ่านมากับการบริหารงานโรงแรมชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Siamese Hotel, T Pattaya Hotel, Sweet Sence Jomtien และ XQ Pattaya Hotel ทำให้โปรเจกต์ “ONCE PATTAYA” กลายเป็นที่จับตามองด้วยการตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ด้วยรูปแบบโครงการแบบ Mixed-use ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าโครงการนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งผมขอเริ่มจากทำเลที่เป็นอีกจุดเด่นน่าสนใจของโครงการก่อนเลยครับ
“พัทยา” ทำเลทองของนักลงทุน
ถ้ามีวันหยุดแค่ 2 วัน ไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง?
ผมเชื่อว่าตัวเลือกแรกของคนเมืองกรุงอย่างเราก็คงหนีไม่พ้นพัทยา ด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือเดินทางสะดวก ไม่กี่ชั่วโมงถึง นอกจากนี้พัทยายังเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคเอเชียในปัจจุบันไปเสียแล้ว นอกจากนี้พัทยายังเป็นเขตปกครองพิเศษที่ก่อให้เกิดความเจริญทั้งด้านแหล่งธุรกิจการค้า การขนส่ง ท่องเที่ยว และมีการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่องด้วยครับ
พัทยาแบ่งเป็น 4 เขตครับ จะมีพัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน สำหรับผมแล้วทำเลที่น่าจับตามองคงเป็นเขตพัทยาเหนือและหาดจอมเทียนครับ เพราะบริเวณนี้ค่อนข้างสงบ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชอบเข้ามาพักผ่อนโซนนี้ ดังนั้น 2 เขตนี้จึงมีโรงแรมหรูและคอนโดระดับ High End เกิดขึ้นมากมาย แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือเหล่านักลงทุนนั่นเองครับ ดังนั้นทั้งพัทยาเหนือและหาดจอมเทียนจึงกลายเป็นอีกทำเลทองที่น่าจับตามองของกลุ่มนักลงทุน ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่เป็นเขตพัทยากลางไปจนถึงพัทยาใต้ที่ควรจะเป็นทำเลทอง? จริงๆ 2 โซนนี้เป็นทำเลที่ฮอตตลอดก็จริง เพราะเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ยามราตรี นักท่องเที่ยวคึกคัก แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับการพักผ่อนจริงๆ ดังนั้นเหล่า Developer ต่างก็เพ่งเล็งไปที่เขตพัทยาเหนือและหาดจอมเทียนมากกว่า และผมว่าทาง Honour Group เองก็เล็งเห็นศักยภาพของทำเลโซนนี้เช่นกัน จึงได้ผุดโปรเจกต์ใหญ่อย่าง “ONCE PATTAYA” ขึ้นมาบนทำเลใจกลางเมือง เขตพัทยาเหนือ ที่จัดได้ว่าเป็นแหล่งความเจริญ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เราลองไปดูกันครับว่าทำเลนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง
จุดเด่นทำเล
◼️ 2 นาที สู่ Terminal 21 พัทยา
◼️ 6 นาที สู่ โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา
◼️ 1.20 ชม. สู่ สนามบินสุวรรณภูมิ
◼️ 1.45 ชม. สู่ กรุงเทพฯ
“Lifestyle Mixed-use” ครบวงจรแห่งแรกในพัทยา ตอบโจทย์คนไทยและต่างชาติ
ราคาของคอนโดในพัทยาในปัจจุบันนั้นมีทั้งระดับราคาที่ถูกและแพงคละกันไป แต่เมื่อถามหาโครงการที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุด ผมมองว่า “ONCE PATTAYA” เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ ตั้งแต่การคิด การดีไซน์ รวมไปถึงงานสถาปนิกที่ให้มืออาชีพจากบริษัทชั้นนำของสิงคโปร์มาดูแลเพื่อเพิ่มมาตรฐานการก่อสร้างให้ดีที่สุดด้วยการออกแบบโครงการให้มีความ Modern และเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการทำ Vertical Garden ผสมผสานไปกับตัวอาคารที่มีหน้ากว้างถึง 115 เมตร นอกจากนี้ ยังมี Service สำหรับลูกบ้านอีกมากมายระดับโรงแรม 5 ดาว อีกทั้งโครงการนี้ยังเป็นโครงการหนึ่งเดียวที่รับประกันคืนเงินให้แบบไร้กังวลกับ Worry Free Packages* ซึ่งโครงการ “ONCE PATTAYA” เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 427 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ 1 งาน โดยพื้นที่ในโครงการนั้นจะแบ่งเป็นคอนโด (บนพื้นที่ 2 ไร่ 1 งาน) และ Branded Hotel ซึ่งเป็นโปรเจกต์สูง 25 ชั้น (บนพื้นที่ 2 ไร่) เห็นว่าตอนนี้ยังไม่มีการเคาะออกมาว่าจะเป็นแบรนด์ไหนนะครับ แต่ทางโครงการมีแพลนที่จะสร้างโปรเจกต์คอนโดก่อน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ Q2 ปี 2565 หลังจากนั้นจึงจะเริ่มก่อสร้างตัวโรงแรมครับ ถือว่าเป็นบริการที่ครบอยู่ในโครงการเดียว และยังตอบโจทย์ทั้งคนไทยไปจนถึงคนต่างชาติ เพราะแม้ว่าปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนส่วนใหญ่จะชอบที่อยู่อาศัยแบบคอนโดก็จริง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในพัทยาแค่ชั่วคราว การเลือกที่พักแบบโรงแรมจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ดีนั่นเองครับ
Sales Office หรู 5 ชั้น พร้อม Digital Butler แห่งเดียวในพัทยา
ตอนนี้สิ่งที่โครงการสร้างเสร็จแล้วก็คือ Sales Office ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการครับ ตัว Sales Office จะมีทั้งหมด 5 ชั้น เห็นว่ามีการลงทุนงบในการสร้าง Sales Office สูงถึง 70 ล้าน ภายในจะมีห้องตัวอย่างอยู่ 3 Type ให้คนที่สนใจโครงการเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน นอกจากนี้ตัว Sales Office ของที่นี่จะเป็นตึกที่สร้างถาวร ไม่มีการทุบทิ้งเหมือนหลายๆ โครงการครับ เมื่อโครงการเปิดขายจนเสร็จสิ้นแล้ว ตัว Sales Office แห่งนี้ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ของโครงการอยู่ครับ
นอกจากนี้แล้วสิ่งที่น่าสนใจของ ONCE PATTAYA ก็คือเรื่องของ Service ครับ เพราะที่นี่ไม่ใช่เพียงสร้างคอนโดมาเพื่อขายแล้วจบ เรื่องของ After – Sales Service ของที่นี่ยังคิดมาสำหรับการอยู่อาศัยจริงของลูกบ้านและมีค่อนข้างเยอะอีกด้วยครับ เห็นว่าโครงการเค้าเคลมว่าที่นี่มี Digital Butler แห่งเดียวในพัทยา หลายคนอาจจะสงสัยว่า Digital Butler มันคืออะไร? ซึ่งถ้าอธิบายง่ายๆ เลย คำว่า Butler ก็เป็นงานบริการตามโรงแรมที่เจาะจงบริการเฉพาะห้องแบบ Exclusive นั่นก็คือ ลูกบ้านของโครงการนี้เป็นคนพิเศษที่จะมี Butler บริการโดยเฉพาะครับ และเมื่อบริการนี้ถูกนำมาใช้ในธุรกิจ Property Management ก็เหมือนกับผู้อยู่อาศัยหรือลูกบ้านจะได้รับการ Service จากเจ้า Digital Butler นั่นเองครับ นอกจากนี้ทางโครงการยัง Shuttle Bus บริการ รับ – ส่งจากสนามบิน รวมไปถึงบริการสำหรับ Agent ที่ต้องการจะซื้อ ขาย ฝาก เช่า ด้วยครับ
คราวนี้เราลองไปดูส่วนกลางของโครงการนี้กันบ้างครับว่าโครงการให้อะไรมาบ้าง?
ส่วนกลางจัดเต็ม เน้นพื้นที่สีเขียว
อย่างที่ผมได้เกริ่นข้างต้นไปแล้วว่าโครงการนี้ได้รับการดูแลในเรื่องของงานดีไซน์และออกแบบโดยสถาปนิกของสิงคโปร์ ทำให้ตัวตึกโครงการค่อนข้างดูทันสมัย และยังเป็นการเพิ่มมาตรฐานการก่อสร้างให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางนั้นมีการออกแบบโดยเน้นพื้นที่สีเขียว ทำเป็น Vertical Garden บนอาคารต่างๆ ให้ดูร่มรื่นอีกด้วยครับ โดยชั้น 1 – 5 จะเป็นลานจอดรถ ที่อยู่อาศัยจะเริ่มจากชั้น 6 ไปจนถึงชั้น 30 ส่วนชั้น 31 และ 32 จะเป็นพื้นที่ของส่วนกลางครับ แต่ชั้น 6 นั้นทางโครงการก็มี Serene Garden ให้ด้วยนะครับ เรามาดูกันครับว่าโครงการให้ส่วนกลางอะไรบ้าง?
Lobby : เริ่มที่มุมแรกอย่าง Lobby กันครับ ผมชอบการตกแต่งที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงดีเทลความสวยหรูเอาไว้
Once More Bar : เป็นมุมนั่งทำงานให้ลูกบ้านได้นะครับ เพราะมีเก้าอี้รองรับเยอะอยู่ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและเบเกอรี่ไว้บริการอีกด้วย ใครที่ชอบจิบกาแฟตอนเช้าก่อนไปทำงานน่าจะถูกใจโซนนี้เลยครับ
Once Working Space : มุมนี้ตกแต่งมาสวยครับ เป็นพื้นที่สำหรับให้ลูกบ้านได้สามารถเข้ามานั่งทำงาน หรือ Meeting เล็กๆ ได้
Rooftop Infinity Swimming Pool : ตัวสระว่ายน้ำของที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 31 ครับ สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 8 x 25 เมตร ความลึกอยู่ที่ 1.20 เมตร และยังมีในส่วนของ Jacuzzi พร้อมแยกสระเด็กและผู้ใหญ่ด้วยครับ
Kids Play Room : ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นพื้นที่ของ Kids Play Room พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง แต่ละมุมตกแต่งได้อย่างมีสัดส่วน มีมุมสำหรับเด็กๆ และผู้ปกครองให้นั่งรอเด็กๆ ด้วยครับ
Sky Garden : อีกฝั่งของชั้น 31 นั้นจะเป็นมุมสวนสวยๆ สำหรับลูกบ้านไว้พักผ่อนครับ อย่างที่ผมบอกไปว่าสวนของโครงการไม่ได้มีแค่ชั้น 31 เท่านั้น แต่ยังมีในส่วนของชั้น 6 ให้ด้วย เป็นอีกมุมพักผ่อนสำหรับลูกบ้านที่ชอบพื้นที่สีเขียวและชอบความร่มรื่นครับ
Vanilla Sky Bar : มาต่อที่ชั้น 32 กันครับ สำหรับมุมนี้เป็นอีกมุมพักผ่อนที่น่าจะถูกใจคนที่ชอบนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมเทควิวเมืองไปด้วย ภายในมีที่นั่งรองรับ จะให้คล้ายๆ กับ Rooftop ใหญ่ๆ ในเมืองที่หลายคนชอบไปนั่งดินเนอร์เลยครับ ซึ่งโครงการนี้มีมาให้ ถือว่าตอบโจทย์วิถีคนเมืองดีครับ
Sky Gym : มุมสุขภาพอยู่ที่ชั้น 32 เช่นกันครับ ส่วนตัวผมชอบห้องฟิตเนสที่สามารถเทควิวได้แบบนี้ ภายในมีเครื่องเล่นรองรับได้เพียงพอ
ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรานำมาให้ดูครับ เพราะส่วนกลางของทางโครงการจัดเต็มยิ่งกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Grand Lobby, Semi Outdoor Lobby, Willness Garden & Trail, Playscape หรือจะเป็น Cloud Sunken คราวนี้เราลองไปดูห้องตัวอย่างของโครงการนี้กันบ้างครับ
รูปแบบห้อง Luxury เทควิวทั้ง 4 ทิศ
สำหรับที่พักอาศัยของโครงการจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 – 30 ซึ่งโครงการมีรูปแบบห้องตั้งแต่ Studio – 2 Bedroom และยังมีห้องพิเศษคือชั้น 30 ที่เป็นห้อง Penthouse ที่สามารถตี Combine ได้ ซึ่งโครงการจะมี Consultants ฝ่าย Interior ให้ก่อนที่ตึกจะสร้างเสร็จ นอกจากนี้แต่ละชั้นมีห้องด้วยกัน 19 ยูนิต และจะมีห้องรูปแบบ Single Corridor อย่างต่ำ 2 ห้องอยู่ในแต่ละชั้นด้วย แต่หน้าห้องจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับลิฟต์นะครับ
นอกจากนี้แล้วตัวห้องของโครงการยังเน้นการออกแบบฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้จริงทุกตารางเมตร การตกแต่งต้องยอมรับว่าหรูทุกห้อง ซึ่งห้องภายในโครงการมีทั้งหมด 4 Type ด้วยกัน ดังนี้
◼️ ห้องแบบ Studio ขนาด 28.00 – 28.60 ตร.ม.
◼️ ห้องแบบ 1 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 34.00 – 34.80 ตร.ม.
◼️ ห้องแบบ 2 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 51.80 ตร.ม.
◼️ ห้องแบบ 2 Bedroom + 2 Bathroom ขนาด 58.50 – 59.80 ตร.ม.
ซึ่ง Floor To Ceiling ของห้องจะอยู่ที่ 2.7 เมตร และอีกจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ รูปแบบห้องของ ONCE PATTAYA สามารถเทควิวได้ทั้ง 4 ทิศ เลยครับ
◼️ วิวทิศตะวันตก >> อ่าวพัทยา
◼️ วิวทิศเหนือ >> แหลมฉบัง
◼️ วิวทิศใต้ >> พัทยาใต้ บาลีฮาย
◼️ วิวทิศตะวันออก >> ภูเขา
สำหรับห้องตัวอย่างโครงการมีทั้งหมด 3 ห้องครับ เราลองไปดูกันว่าแต่ละห้องจะเป็นอย่างไรบ้าง…
Studio ขนาด 28.60 ตร.ม.
ครัวปิด พร้อมฟังก์ชันห้องลงตัวกับการใช้งานจริง
เริ่มกันที่ห้อง Studio กันก่อนครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมชอบห้องนี้ที่สุดครับ เนื่องจากเป็นห้องที่ให้ฟังก์ชันมาไม่น้อยเลย พร้อมใช้งานได้จริง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับครัวปิด ชุดครัวทางโครงการ Built-in ให้ตามภาพตัวอย่างเลยครับ ยกเว้นแค่เครื่องซักผ้า ซึ่งตรงข้ามกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำที่พื้นที่ภายในกว้าง ดีไซน์หรู มีแยกโซนแห้งและเปียกชัดเจน ถัดเข้ามาภายในพื้นที่ห้องนอนจะ Combine กับ Living ซึ่งหากว่าใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวอาจจะไม่สะดวกเวลาที่มีเพื่อนหรือญาติแวะมาที่ห้อง แต่ห้องนี้ดีนะครับเพราะมี Daybed มาให้ด้วย สามารถใช้เป็นมุมพักผ่อนเทควิวได้
1 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 34.40 ตร.ม.
Living + Dining ใหญ่ มี Daybed พร้อมเทควิว
มาต่อกันที่ห้องต่อมากันครับ ห้องนี้ฟังก์ชัน Living ค่อนข้างกว้างเลยครับ และยังเชื่อมกับพื้นที่ห้องครัวซึ่งเป็นฟังก์ชันครัวเปิดอีกด้วยครับ ตัวระเบียงห้องถือว่ากว้างนะครับ สามารถจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนชิลๆ สำหรับเทควิวก็ได้ ส่วนพื้นที่ของห้องนอนนั้นภายในมีมุมสำหรับวาง Daybed ให้สามารถใช้เป็นอีกมุมพักผ่อนภายในห้องนอนได้ สำหรับห้องนี้ตัวของห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนเลยครับ แต่หากใครที่มีเพื่อนหรือญาติแวะมาห้องก็อาจจะไม่สะดวกมากนักหากเราชอบความเป็นส่วนตัว สำหรับห้องนี้ทางโครงการมีแอร์ให้ 2 ตัวครับ ยังคงให้ชุดครัว Built-in ตามตัวอย่าง แต่ห้องนี้จะไม่ได้ให้ตัวผนังสีน้ำตาลมาครับ ส่วนตัวผมมองว่าห้องนี้เหมาะกับการใช้ชีวิตเป็นคู่มากครับ
2 Bedroom + 2 Bathroom ขนาด 58.50 ตร.ม.
ระเบียงกว้าง เชื่อมต่อ Living และห้องนอน
มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายกันครับ สำหรับห้องนี้เป็น Type ใหญ่ เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับฟังก์ชันครัวเปิดก่อนเลยครับ มีมุมสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งในอยู่พื้นที่นี้ด้วย ในส่วนของชุดครัวได้ Built-in ตามภาพตัวอย่างเลยครับ ห้องนี้ตัวระเบียงค่อนข้างใหญ่มากครับ เชื่อมต่อทั้งส่วนของ Living และห้องนอน ซึ่งเราสามารถตกแต่งมุมนี้เป็นอีกมุมพักผ่อนได้สบายๆ เลยครับ นอกจากนี้แล้วพื้นที่ของอีกห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกันนั้นทางโครงการก็ให้พื้นที่มาแบบเหลือๆ สามารถเพิ่ม Walk-in Closet เข้ามาได้สบายครับ
2 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 51.50 ตร.ม.
Triple Combine Kitchen + Dining + Living
ผมขอปิดท้ายด้วยห้อง 2 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 51.50 ตร.ม. ที่แม้โครงการไม่มีห้องตัวอย่างให้ดู แต่ว่ารูปแบบแปลนห้องน่าสนใจทีเดียวครับ พื้นที่ภายในเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับครัวเปิดขนาดใหญ่ที่เชื่อมกับมุม Dining พื้นที่ภายในนั้นสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ตั้งแต่ 4 – 6 ที่นั่งเลยครับ และต่อจากมุม Dining นั้นยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ Living อีกด้วยครับ ส่วนพื้นที่ของห้องนอนนั้นจะแยกเป็นสัดส่วนครับ ห้องนี้เหมาะกับการอยู่เป็นครอบครัวครับ เพราะพื้นที่ห้องค่อนข้างกว้าง และยังแบ่งเป็นสัดส่วนอีกด้วย
เรามาดูกันต่อครับว่าคอนโดนี้เหมาะกับใครบ้าง?
โครงการนี้เหมาะกับใคร
ต้องบอกว่าตลาดคอนโดในพัทยานั้นได้รับความนิยมไม่ต่างจากในกรุงเทพเลยครับ แต่ที่นี่ Yield ดี เพราะมีกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ ดังนั้นตลาดคอนโดของที่นี่จึงได้รับความสนใจทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติเลยครับ ส่วนใหญ่นิยมซื้อเพื่อเป็น Holiday Home และปล่อยเช่า และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาอยู่ในไทยเป็นเวลานานๆ นั้นมักเลือกที่จะพักอาศัยในคอนโดมากกว่าโรงแรม รีสอร์ท หรืออพาร์ทเม้นท์ ด้วยค่าเช่าที่ต่ำกว่าแต่ขยับมาได้ที่พักที่ดีกว่า พรีเมียมกว่า และได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะกับกลุ่มของนักลงทุน คนซื้อของโครงการนี้ก็เป็นกลุ่มนักลงทุนที่ส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพด้วยครับ ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่ากลุ่มเป้าหมายที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่คนในพื้นที่เท่านั้นครับ
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1. ทำเล : พัทยายังคงเป็นทำเลทองของเหล่านักลงทุนอยู่จนถึงทุกวันนี้ และตัวโครงการเองที่ตั้งอยู่พัทยาเหนือ และยังใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกและเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ในอนาคต ทำให้ทำเลตรงนี้กลายเป็นอีกทำเลศักยภาพไปแล้ว ซึ่งหากใครอยากเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือแม้แต่การเลือกซื้อเพื่อลงทุน ผมว่าทำเลตรงนี้เหมาะมากครับ
2. ราคา : เริ่ม 2.85 – 22 ล้านบาท* ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 123,000 บาท/ตร.ม. และโครงการนี้ยังเป็นหนึ่งเดียวที่รับประกันคืนเงินให้ลูกค้าด้วย Worry Free Packages* ทั้งเรื่องดีไซน์ สเปกต่างๆ ที่ได้รับ ผมว่าโครงการนี้คุ้มครับ
3. ส่วนกลาง : ส่วนกลางของที่นี่จัดเต็มและให้มาเยอะ ทั้งเรื่องของบริการหลังการขายเองที่นี่ก็จัดเต็มเช่นกัน ถือว่าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบความสะดวกสบายมากครับ
4. รูปแบบห้องและสเปก : รูปแบบห้องของที่นี่ต้องบอกว่าฟังก์ชันครบและลงตัวครับ มีพื้นที่ใช้สอยแบบ Full Area ที่เราสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มพื้นที่ แถมโครงการตกแต่งมาให้เรียบร้อยครับ
5. การลงทุน : สำหรับผมมองว่าห้อง Studio เป็นห้องที่คุ้มค่าที่สุด เหมาะที่จะปล่อยเช่าได้ อยู่เองได้ แต่ในมุมของการปล่อยเช่านั้นจะได้กำไรมากที่สุด เพราะโครงการให้มาไม่เล็กเลยครับ ทั้งสเปกและฟังก์ชันก็ครับ แถมราคายังต่างจากห้องอื่นด้วยครับ
หากใครที่สนใจโครงการ ตอนนี้โครงการเปิดจองแล้วนะครับ พร้อมส่วนลดเงินสด O Top กว่า 100,000 บาท และ WORRY FREE PACKAGES FOR WARRANTY REFUND*
สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ได้ที่ >> http://bit.ly/2Z7NSPW
สอบถามเพิ่มเติม โทร. >> 061 653 6599
แผนที่ >> http://bit.ly/2Z4oyKC