ลาดพร้าว-โชคชัย 4’ ย่านที่หลายๆ คุ้นเคยกันอย่างดี เป็นเขตกรุงเทพฯ ชั้นกลาง โดยปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ผมมองว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้แล้วครับ ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพของทำเล และยังเพิ่มตัวเลือกของการเดินทางให้มีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่มีความสมบูรณ์ทั้งในเรื่องการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วด้วย ถนนเส้นหลัก ทางด่วน รวมถึงเส้นทางลัดออกไปย่านอื่น ๆ และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะแหล่งงาน ร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง
รวมทั้งยังมีโรงพยาบาลเปาโลที่ตั้งอยู่บนถนนโชคชัย 4 นับได้ว่า ‘ลาดพร้าว-โชคชัย 4’ เป็นอีกทำเลหนึ่งที่เหมาะกับการอยู่อาศัย Real Demand และสำหรับการลงทุน เนื่องจากผมมองว่าทำเลยังสามารถมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกค่อนข้างมาก ด้วยศักยภาพของทำเลที่พร้อมรองรับการพัฒนา และยังพอมีที่ว่างสำหรับปักหมุดโครงการต่างๆ โดยคอนโดฯ ที่น่าสนใจในทำเลนี้คือ “Chewathai Hallmark ลาดพร้าว – โชคชัย 4 เฟส 2”
โครงการ Chewathai Hallmark ลาดพร้าว – โชคชัย 4 เฟส 2 ตั้งอยู่บนถนนสังคมสงเคราะห์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนโชคชัย 4 และถนนลาดพร้าว 71 อีกทั้งสองฝั่งเป็นถนนที่ค่อนข้างคึกคัก พร้อมแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ครบทุกการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น…
ช้อปปิ้งมอลล์ / Community mall
◾ Central Festival Eastville
◾ CDC
◾ The Crystal
◾ The Walk
◾ Plaza Lagoo
◾ Green Plaza
◾ The JAS
สถานศึกษา
◾ โรงเรียนสตรีวิทยา 2
◾ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
◾ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา
โรงพยาบาล
◾ โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
ทำเล “ลาดพร้าว – โชคชัย 4” Hub แห่งการเดินทาง ด้วยโครงข่ายคมนาคมที่มีความเชื่อมต่อ โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนสังคมสงเคราะห์ สามารถเชื่อมต่อลัดเลาะไปถนนเส้นหลัก อย่าง ถนนพหลโยธิน, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนประเสริฐมนูกิจ, ถนนลาดพร้าว และถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งเรายังสามารถใช้ถนนสายรอง เช่น ถนนโชคชัย 4, ถนนลาดพร้าว-วังหิน, ถนนเสนานิคม 1, ถนนนาคนิวาส และถนนลาดปลาเค้า ฯลฯ ในการลัดเลาะออกไปยังถนนใหญ่ได้อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยทางด่วน ช่วยเพิ่มความสะดวก คล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น ด้วยทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย
เพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถึง 1 สายพร้อมรองรับรถไฟฟ้าในอนาคตอีก 2 สาย คือ
◼ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT โดยโครงการอยู่ใกล้ สถานีลาดพร้าว สามารถเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยสามารถนั่งเพียง 1 สถานี คือสถานีพหลโยธิน และเดินเชื่อม Sky Wallk ไปยัง สถานีห้าแยกลาดพร้าวไปยังหมอชิต สยาม พญาไท ในเวลาไม่กี่นาที
◼ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว – สำโรง ซึ่งโครงการอยู่ใกล้กับ สถานีโชคชัย 4 สามารถเชื่อมไปยังรถไฟฟ้าสายสีเทาที่สถานีลาดพร้าว 71 และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีรัชดา โดยเตรียมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทุกสถานีในเดือน มิถุนายน 2566 นี้แล้วครับ
◼ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ คาดว่าเปิดใช้ปี 73 เมื่อเปิดใช้บริการทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลาง อย่าง ทองหล่อ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตรงไปยังทองหล่อได้เลยครับ
นอกจากการเดินทางที่สะดวกแล้ว ยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น แหล่งรวม Community mall เช่น The Crystal, Crystal Design Center (CDC), Central Eastvile และสถานศึกษา สถานพยาบาล เรียกว่าครบทุกความต้องการเลยครับ
Chewathai Hallmark
ลาดพร้าว – โชคชัย 4 เฟส 2
Chewathai Hallmark ลาดพร้าว – โชคชัย 4 เฟส 2 “ พัฒนาโดย บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และ 4 ชั้น 1 อาคาร รวม 380 ยูนิต
รองรับ Pet Friendly คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ที่อาคาร E ซึ่งเป็นอาคารปิด 4 ชั้น แยกโซนอย่างชัดเจน เพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวก และตอบโจทย์ผู้พักอาศัยทั้งผู้ที่เลี้ยงและไม่เลี้ยงสัตว์ครับ
มาในราคา Pre Sale เปิดตัวเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* หรือ ราคาเฉลี่ย 7 หมื่นกลาง ๆ ต่อ ตร.ม. พร้อมขายแบบ Fully Furnished และตอนนี้เขายังมีโปรโมชั่นดีๆ อีกเพียบ โดยโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ปลายปี 2565 นี้ครับ
Facilities
สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง จะประกอบไปด้วย
◼ Passion Pool
◼ Healthy Fitness Club
◼ Creative Co – working Space
◼ Pet Space
◼ ระบบ Keycard
◼ พนักงานรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
◼ กล้อง CCTV
พร้อมพื้นที่สีเขียว กระจายอยู่โดยรอบของอาคาร และมีที่จอดรถ 40% รวมซ้อนคัน อีกทั้งการออกแบบรองรับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น ลิฟต์ส่วนตัวเฉพาะ และแยกโซนพักผ่อน สำหรับน้องหมาแมวอีกด้วยครับ
รูปแบบห้อง
คอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิรนลอฟท์ โดยสามารถเลือกมีรูปแบบห้องให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ กับ 4 รูปแบบห้อง โดยห้องทุก Type จะมีการจัดสรรพื้นที่ กั้นโซนอย่างเป็นสัดส่วน พร้อมรองรับการอยู่อาศัยได้จริง
Type A : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.00 – 26.50 ตร.ม.
Type B : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 32.00 ตร.ม.
Type C : 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 40.00 ตร.ม.
Type D : 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.50 ตร.ม.
.
วันนี้ผมจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 2 รูปแบบครับ พร้อมรองรับ สัตว์เลี้ยง Pet Friendly…
Type A
1 bedroom 26 sq.m
เริ่มต้นด้วย Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26 ตร.ม.โดยเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ แต่ยังมีการจัดสรรพื้นที่ Layout ห้องอย่างเป็นสัดส่วน
เมื่อเข้ามาพบกับ Common Area พร้อมเพดานสูง 2.45 เมตร ขนาดความสูงตามมาตรฐานครับ โดยสามารถจัดสรรพื้นที่ห้องเป็น Living Area และ Dining Area
Living Area สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง และชั้นวางทีวี พร้อมเหลือพื้นที่สำหรับเดินเข้าออกได้อย่างสะดวกครับ
มุมรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง
ถัดเข้ามาเป็นห้องนอน มีการกั้นอย่างเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน และทางโครงการให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้อย่างครบครันด้วยครับ
นอกจากนี้พื้นที่ปลายเตียง ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางทีวีหรือตกแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ พร้อมกระจกบานใหญ่ ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามา และทำให้ห้องโปร่งโล่ง สบาย ไม่รู้สึกอึดอัดครับ
อีกโซนของห้องจะเป็นพื้นที่ของ ห้องน้ำและครัวครับ
ห้องน้ำภายในห้องมีระยะการใช้งานได้อย่างสะดวก และแบ่งโซนเปียก โซนแห้ง ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ กระจกนิรภัย อย่างเป็นสัดส่วนครับ พร้อมสุขภัณฑ์ อุปกรณ์ห้องน้ำ จาก American Standard
โดยบริเวณอ่างล้างหน้ามีฟังก์ชันวางของ หรือจัดเก็บของได้ด้วยครับ และภายในห้องมีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศ ช่วยระบายอากาศให้ห้องน้ำไม่อับครับ
พื้นที่ระหว่างห้องครัวและห้องน้ำยังมีพื้นที่จัดเป็นมุมวางของหรือสำหรับตกแต่ง
อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการคือครัวปิด พร้อมเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก สามารถทำอาหารได้อย่างจัดเต็ม หมดปัญหาเรื่องกลิ่น ควัน เข้าไปรบกวนพื้นที่โซนอื่นๆ ครับ โดยภายในห้องครัวมาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัว ช่องเก็บของด้านบน, อ่างล้างจานแบบ 1 หลุม ที่ทางโครงการให้มาครับ และยังมีพื้นที่ช่องว่างด้านล่างสำหรับวางไมโครเวฟ อีกทั้งยังเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางตู้เย็น
ระเบียงห้อง ทางโครงการแขวน Condensing Units ด้านข้าง มีพื้นที่ใช้งานได้อย่างเต็มพืนที่ ทำให้เหลือพื้นที่สามารถวางเครื่องซักผ้า ตากผ้า หรือมุมปลูกต้นไม้เล็กๆ ครับ
Type C
1 bedroom plus 40 sq.m
ห้อง Type C พื้นที่ใช้สอย 40 ตร.ม. 1 Bedroom Plus โดยห้องห้องนี้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ถึง 2 ตัวครับ (สุนัขหรือแมว) ตามข้อตกลง เงื่อนไข ทางโครงการ
เมื่อเข้ามาทางซ้ายมือพบกับ ห้องน้ำ ภายในห้องการแบ่งโซนเปียก โซนแห้ง ด้วยกระจกฉากอาบน้ำ พร้อมอุปกรณ์และสุขภัณฑ์ จาก American Standard โดยห้องน้ำมีประตูที่เชื่อมไปยังห้องนอน เพิ่มความสะดวกในการใช้งานครับ
ในส่วนของห้องนอนมีการกั้นโซนอย่างเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน ภายในห้องมีขนาดกว้าง พร้อม สามารถจัดสรรพื้นที่ครบทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นมุมพักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ โดยฐานเตียงมีที่สำหรับเก็บของ และมุมแต่งตัว ด้วย Built-in ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง
นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่ข้าง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ ได้ครับ
ถัดเข้ามาคือ Living Area ขนาดกว้าง มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยง โดยสามารถวางโซฟขนาด 2-3 ที่นั่ง, โต๊ะตัวกลาง, ชั้นวางทีวี และเหลือพื้นที่สำหรับวางที่นอน ของน้องหมา น้องแมวครับ อีกทั้งระยะระหว่างโซฟาและทีวีมีพื้นที่กว้างพอสมควร ทำให้นั่งพักผ่อน เอนกายได้อย่างเต็มที่ครับ
สำหรับห้อง Type นี้มีห้องเนกประสงค์ พร้อมการกั้นห้องป็นสัดส่วน โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ อย่างเช่น ห้องทำงาน, ห้องเก็บของสะสม หรือเป็นห้องของน้องหมาน้องแมว
มาในส่วนของห้องครัวกันครับ โดยเป็นครัวปิดติดระเบียง สามารถทำอาหารได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำอาหาร โดยข้อดีของครัวติดกับระเบียงคือ สามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศ กลิ่น ควันได้
มาพร้อมกับชุดเคาน์เตอร์ครัว มีชั้นวางด้านบนสำหรับจัดเก็บของได้ค่อนข้างเยอะเลยครับ แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม, เตาไฟฟ้า รวมถึงมีพื้นที่ช่องว่างด้านล่างสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ด้วยครับ
ระเบียงห้อง ทางโครงการแขวน Condensing Units ด้านข้าง
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมมองนักสืบอสังหา
ทำเล : เรียกว่าเหมาะสำหรับทั้งคนที่ทำงานโซนบริเวณโดยรอบหรือโซน ลาดพร้าว รัชดา เลียบด่วนรามอินทรา ก็เดินทางได้อย่างสะดวกครับ อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งห่างจากโครงการเพียงไม่กี่นาที เรียกว่าเหมาะทั้งคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและใช้บริการรถสาธารณะครับ นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ขึ้นชื่อว่ามีร้านอาหาร อร่อยๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการใช้ชีวิต กระจายทั่วย่าน
ราคา : ราคา Pre Sale เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* พร้อมขายแบบ Fully Furnished ซึ่งมาในราคาที่จับต้องได้ง่าย เหมาะทั้ง First Jobber และวัยทำงาน
ส่วนกลาง : ส่วนกลางมีกิจกรรมรองรับมากมายเลยครับ ทั้ง พักผ่อน ออกกำลังกาย และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมโซนสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
สเปกห้อง : มีการจัด Layout รองรับการอยู่อาศัยได้จริง กั้นโซนอย่างเป็นสัดส่วนครับ อีกทั้งยัง เหมาะกับคนที่มีสัตว์เลี้ยง
————————————————————
สำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ >>> https://bit.ly/3tZzz2i