“ห้าแยกลาดพร้าว” Hub ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ที่ยังเป็นทำเลฮอตฮิตตลอดกาล ในหมู่คนเมือง ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย และนักลงทุน จากมูลค่าของที่ดินและศักยภาพการเติบโตของ “ทำเล” ที่มีผลต่อการสร้างผลตอบแทนสูงในอนาคต ทั้งสำนักงาน บริษัท ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และการเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า 2 สายทำให้ห้าแยกลาดพร้าว กลายเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัย ด้วยคอนโดที่พัฒนาขึ้นในพื้นที่หลายโครงการ อย่างแบรนด์ Life (ไลฟ์) ที่เป็นเจ้าตลาดในทำเล พัฒนามาแล้ว 2 โครงการ
และล่าสุดกับโครงการ ‘Life Phahon – Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว)’ คอนโด High Rise สูง 40 ชั้น ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมอยู่ เป็นโปรเจกต์ที่ 20 ของบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนส์ มีการอัปเกรดทุกรายละเอียด จากการนำโครงการเก่า ๆ มาพัฒนา ภายใต้คอนเซปต์ Live Your Infinite Life จัดสรรพื้นที่ให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น บนถนนพหลโยธิน ทำเลห้าแยกลาดพร้าว ย่าน Office Building ใกล้ BTS ห้าแยกลาดพร้าว แค่ 220 เมตร และยังอยู่ในจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 2 สายหลัก MRT สายสีน้ำเงิน และ ฺBTS สายสีเขียว ราคาเริ่มเพียง 5.39 ล้านบาท*
Life ต่อยอดความสำเร็จ
โครงการ 3 บนทำเลห้าลาดพร้าว
‘Life Phahon – Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว)’ คอนโดมิเนียมที่ถูกพัฒนาต่อยอดเป็นโครงการที่ 3 ในรอบ 7 ปี ภายใต้แบรนด์ “Life” ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตลาดบนทำเลห้าแยกลาดพร้าว หลังพัฒนามาแล้ว 2 โครงการ กระแสตอบรับดีทุกโครงการ กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์คอนโดฯ ที่น่าจับตามองทั้งการลงทุน และซื้อเพื่ออยู่อาศัย
◾ Life ลาดพร้าว คอนโด High Rise 1,615 ยูนิต ราคาเฉลี่ยประมาณ 120,000 บาท/ตร.ม. เปิดตัวตั้งแต่ช่วงปี 2016 ปัจจุบันSold Out แล้ว 100%
◾ Life ลาดพร้าว วัลเลย์ คอนโด High Rise พร้อมอยู่ 1,140 ยูนิต ราคาเฉลี่ยประมาณ 142,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันยอดขายเกิน 70% ไปแล้ว
และล่าสุดในปี 2023 ที่ผ่านมา AP เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ Life พหลฯ – ลาดพร้าว คอนโด High Rise สูง 40 ชั้น 598 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 2-2-92.2 ไร่ ราคาเฉลี่ยประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันขายแล้ว 70%
ย้อนกลับมาที่ทำเลกันสักหน่อยครับ โครงการ ‘Life Phahon – Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว)’ ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนสายหลักหลายสาย อาทิ ถ.พหลโยธิน ถ.วิภาวดี และถ.ลาดพร้าว
นับว่าเป็น Location เศรษฐกิจ ที่เป็นทั้งย่าน Office Building มีกลุ่มอาคารสำนักงานใหญ่ ๆ กระจายอยู่บนทำเลเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สนง.ใหญ่การบินไทย สนง.ใหญ่ ธนาคาร TTB และ SCB Headoffice ทั้งยังเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าถึง 3 สาย รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งใครที่ทำงานอยู่บริเวณนี้ หรือทำเลใกล้เคียง ก็ถือว่าสะดวกมากครับ
◾ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ใกล้สุดสถานีห้าแยกลาดพร้าว ห่างจากโครงการ 200 ม. ต่อเดียวถึงใจกลางเมืองสุขุมวิท, ทองหล่อ และเอกมัย
◾ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ใกล้สุดสถานีพหลโยธิน ห่างจากโครงการ 550 ม. ต่อเดียวถึงใจกลางเมืองเช่นกัน (ประหยัดกว่า)
◾ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใกล้สุดสถานีลาดพร้าว ห่างจากโครงการ 2.5 กม. สามารถนั่ง MRT สายสีน้ำเงิน 1 สถานี เพื่อเชื่อมไปยังสายสีเหลืองได้
ในแง่การลงทุน Investment เหมาะทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน อ้างอิงจากราคาเฉลี่ยในปัจจุบัน ‘Life Phahon – Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว)’ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 บาท/ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท* (พ.ค.67) ซึ่งต้องยอมรับว่าราคานี้ ถือว่าราคาสูงกว่าโครงการอื่น ๆ บนทำเลอยู่พอสมควร แต่ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ประกอบกับการเป็น Transportation Hub ที่มีทั้งระบบรางและระบบรถประจำทาง ทำให้มีจำนวนคนเข้า-ออกในทำเลสม่ำเสมอ และยังใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ยังไม่รวมกับอนาคตที่จะมี โครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่จาก CPN (เซ็นทรัลพหลโยธิน ชื่อไม่เป็นทางการ) เข้ามาเปิดให้บริการ คาดในอนาคตจำนวน Supply อาคารสำนักงานให้เช่าในทำเลจะสูงขึ้นตามลำดับ และที่ดินโซนนี้ก็คงมีมูลค่าที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ทำให้สำหรับใครที่มองหาคอนโดสำหรับลงทุนปล่อยเช่า หรือซื้อเป็นสินทรัพย์ ใช้ชีวิตสะดวก เชื่อมเข้า CBD ง่าย ไม่วุ่นวาย Private in Society คอนโดในโซนใกล้ห้าแยกลาดพร้าวถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Surrounding
ย่านที่มีครบจบในทำเล
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก รอบโครงการมีครบ ทั้งช้อปปิ้ง พักผ่อน โรงพยาบาล โรงเรียน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุก Generations เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับโลตัส Lotus ลาดพร้าว เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำอาหารเอง อยากซื้อของสดเข้าบ้านสะดวก
หรือถ้าอยากจะเดินตลาด ฝั่งขวามือ JODD FAIRS ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดรถไฟ แดนเนรมิต หาของกินหลังเลิกงานได้ หรือถ้าอยากเดินห้างสรรพสินค้า โครงการอยู่เยื้องกับเซ็นทรัล ลาดพร้าว และเซ็นทรัล พหลโยธิน (อนาคต) เดินแป๊ปเดียวถึง
ภาพรวมถือว่าสะดวกสบาย เหมาะกับชีวิตคนเมือง ที่ไม่ว่าจะ shopping หาของกิน หรือพักผ่อน ถือว่าสะดวกสบายเลย แต่อย่างที่รู้กันทำเลห้าแยกลาดพร้าว ถือเป็นทำเลที่มีการจราจรหนาแน่น แนะนำว่าควรเผื่อเวลาการเดินทาง ไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS และ MRT อันนี้สะดวกกว่าครับ
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว : 220 ม.
- Lotus’s ลาดพร้าว : 69 ม.
- เซ็นทรัล พหลโยธิน (ชื่อไม่เป็นทางการ) : 250 ม.
- Union Mall : 550 ม.
- Major Cineplex Ratchayothin : 1.2 กม.
- Mixt Chatuchak : 3 กม.
ส่วนกลางหลากหลาย รองรับทุกกิจกรรม
นอกจากทำเลที่นับว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของโครงการ ในด้าน Facility โครงการ ‘Life พหลฯ – ลาดพร้าว’ ยังได้นำเอาข้อดีของ 2 โครงการที่ผ่านมา มาต่อยอดและพัฒนาให้ตอบโจทย์กับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น อัปเกรดวัสดุ Material ให้มีความหรูหรา ทั้งยังจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางมาให้ถึง 2,500 ตร.ม. ที่มีจุดเด่นเป็น Sky Facilities ส่วนกลางลอยฟ้า 4 ชั้น เทควิวเมืองได้แบบไม่บล็อกวิว พร้อมวิวสวนสีเขียวกว่า 700 ไร่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย รองรับ Multicultural Society ทั้งความเป็นส่วนตัว การพบปะ นั่งทำงาน และการพักผ่อน
สำหรับ Facility จะกระจายอยู่ตามชั้นต่าง ๆ ของโครงการ 6 ชั้น ได้แก่ ชั้น G, ชั้น 8, ชั้น 38, ชั้น 39, ชั้น 40 และ Rooftop มีพื้นที่ที่จอดรถประมาณ 283 คัน หรือราว 47% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน + กองทุน 500 บาท
Sky Park Rooftop
- SkyPrivate Seat
- Panoramic Sky Hill
- Sky Courtyard
- Sky Rooftop Bar
- Private Sky Yard
- Private Backyard
40th Floor
- Sky Pool Pavilion
- Active Atrium
39th Floor
- The Cloud Social Club
38th Floor
- The Sky Wing
- Exclusive Sky Club
- The Sunset Wing
- The Entertainment
เริ่มกันที่ทางเข้าโครงการ ถูกปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ ประดับด้วยไม้พุ่ม และไม้ยืนต้น 2 ฝั่ง ช่วยบรรยากาศให้ดูร่มรื่น เข้า-ออก ด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน ส่วน Visitors ต้องแลกบัตรทุกครั้ง ซึ่งลูกบ้านสามารถแสตมป์บัตร ผ่านระบบ KATSAN ในมือถือเองได้
สำหรับอาคารพักอาศัยจะไม่ได้อยู่ติดถนนสะทีเดียว ขยับเข้ามาด้านในประมาณ 70 เมตร ข้อดี ลดเสียงรบกวน ได้ความสงบ เป็นส่วนตัวมากขึ้น บริเวณชั้นล่างจะประกอบไปด้วย Drop Off สามารถให้เพื่อน/คนรักแวะส่ง แล้ววนรถออกได้เลย ค่อนข้างสะดวกมาก โดยเฉพาะช่วงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ส่วนที่จอดรถจะอยู่บนชั้น 2 – 7 มีพื้นที่ที่จอดรถประมาณ 283 คัน หรือราว 47% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พร้อมช่องจอดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 2 ช่องจอด โดยแต่ละชั้นจะมีทางเข้าโครงการทุกชั้น เป็นระบบ Face Scan แทนการใช้ Keycard
และบริเวณด้านหน้าอาคาร จะมีพื้นที่สวน ถูกจัดเป็นอีกหนึ่งโซนพักผ่อน มีพื้นที่ให้นั่งเล่น หลายมุม เมื่อเข้ามาภายในอาคารจะเห็นว่าถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ ฝั่งซ้าย Lobby หากลูกบ้านจะเข้าห้องพักจะต้องเข้าช่องทางนี้ เพราะลิฟต์อยู่ฝั่งนี้ ส่วนอีกฝั่ง จะเป็น The Parlour ห้องรับรองแขกขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการพื้นที่รับแขก แต่ไม่เสียพื้นที่ส่วนตัว สามารถเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้ ซึ่งการเข้าอาคารทุกประตูจะต้องใช้ Face Scan ทั้งหมดครับ
Room Types
สำหรับชั้นพักอาศัย จะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 8 – 39 โดยชั้นที่ 8, 38 และ 39 จะเป็นชั้นที่อยู่เดียวกับส่วนกลาง ส่วนรูปแบบห้อง มีการจัดวาง Layout ของห้องไว้ค่อนข้างหลากหลาย โดยหลัก ๆ จะมีห้องให้เลือก 2 แบบคือ ห้อง SIMPLEX และ ห้องเพดานสูง VERTIPLEX โดยจะอยู่แยกชั้นกันชัดเจน ห้อง VERTIPLEX อยู่ชั้นสูงกว่า ทำให้ได้วิวมุมสูง
ชั้น 8 – 34 ห้อง SIMPLEX
ชั้น 35 – 39 ห้อง VERTIPLEX
ไฮไลต์อยู่ที่ห้อง VERTIPLEX ที่มี Floor to Ceiling สูงถึง 4.4 เมตร เรียกว่าเกินกว่ามาตรฐานจากคอนโดมิเนียมทั่วไป และที่สำคัญ Material คัดสรรระดับพรีเมียม เพิ่มความแปลกใหม่และเอกลักษณ์ภายในโครงการ
ห้อง SIMPLEX
- Studio ขนาดพื้นที่ 28.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 35 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 42.5 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 57 – 65 ตร.ม.
ห้อง VERTIPLEX
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28.5 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 53 – 40.5 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 42.5 ตร.ม.
- 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ 57 – 65 ตร.ม.
รูปแบบห้องของโครงการขายเป็นแบบ Fully Fitted คือ ได้เฟอร์นิเจอร์แค่บางส่วน อาทิ เครื่องปรับอากาศ, เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนหลัก และสุขภัณฑ์ครับ และวันนี้ผมพาทุกคนมาเปิดห้องตัวอย่าง 3 รูปแบบ ให้ชมกันครับ ขอเริ่มที่
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom
ขนาดพื้นที่ 35 ตร.ม.
ห้องแบบ Simplex ชั้นเดียว เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน วัสดุตั้งแต่ประตูเป็นบานไม้อัด ผิวหน้าปิดด้วย Laminated มาพร้อม Digital Door Lock รองรับทั้งระบบ Password, Finger Scan และ Key Card
เมื่อเข้ามาภายในห้องโซนแรก ที่เจอก็คือ โซนครัวและห้องน้ำ สำหรับครัว ถูกออกแบบไว้เป็นครัวปิด สามารถทำอาหารได้
มาพร้อมชุดครัว Built-in ที่ได้ทั้งเคาน์เตอร์ ตู้แขวน อ่างล้างจาน ช่องวางไมโครเวฟ และช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า โดยไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นไม่พึ่งประสงค์ จะไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนอื่น ๆ ภายในห้อง เพราะมีประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กั้นเป็นสัดส่วน + การใช้กระจกกั้น ช่วยให้แสงธรรมชาติสาดเข้ามาถึงบริเวณนี้ ทำให้ห้องดูไม่อึดอัด
ถัดไปห้องน้ำ จะอยู่ฝั่งขวามือ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ข้อดี คุณภาพได้มาตรฐาน ทำความสะอาดง่าย และประหยัดพื้นที่ใช้สอย Double Access เข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน เวลามีแขก สามารถเข้าจากทางห้องครัวได้เลย โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ส่วนพื้นบริเวณทางเข้า ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อน และเพดานสูง 2.55 เมตร ตามมาตรฐาน
ขยับเข้ามา Common Area ขนาดใหญ่ สามารถจัดโซน ให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่นั่งทานอาหารได้สบาย ๆ เพราะมีการเว้นระยะทางเดินไว้พอดี
โดยมุมนั่งเล่นวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง + ที่นั่งรับประทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง เหมือนห้องตัวอย่างได้ หรือใครมีไอเดียอื่น ๆ สามารถตกแต่งตามการใช้ชีวิตของแต่ละคนได้เลยครับ
ส่วนของห้องนอน จะถูกกั้นเป็นสัดส่วน ด้วยผนังทึบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยครับ ตอบโจทย์กับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยภายในกว้าง จัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้สบาย มีสเปซด้านข้างเหลืออีกให้เป็นที่วางโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้เลยในตัว จึงสะดวกสบายเวลาลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึก ไม่ต้องเดินอ้อมออกไปด้านนอก
2 Bedroom
ขนาดพื้นที่ 57 ตร.ม.
ถัดมาผมพามาดูห้อง ที่มี 2 ห้องนอนกันบ้าง สำหรับรูปแบบห้องที่ 2 นี้ จะประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เพดานสูง 2.55 เมตร ตามมาตรฐาน
จุดเด่นที่เห็นได้ชัดของห้องนี้คือ การวาง Layout ให้แต่ละส่วนไม่เสียพื้นที่ส่วนตัว ด้วยพื้นที่เป็นแนวลึก ทำให้แบ่งสัดส่วนได้ง่ายขึ้นครับ
เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องฝั่งซ้ายมือ จะเจอกับครัวเปิด มาพร้อมชุดครัว Built-in ลักษณะ I-Shape มีครบทั้งเคาน์เตอร์ ตู้แขวน อ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน ช่องวางไมโครเวฟ และช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า
และฝั่งขวามือจะเป็น Common Area ที่มีทั้งมุมนั่งเล่น รับแขกสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกและที่นั่งรับประทานอาหาร สามารถวางจัดวางได้ประมาณ 4 ที่นั่งกำลังพอดี ห้องนี้จากพื้นถึงเพดานความสูง
ส่วนห้องนอนจะถูกจัดวางให้อยู่โซนด้านในทั้ง 2 ห้อง โดยจะเริ่มด้วยห้องนอนที่ 2 ก่อน ห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุต ได้กำลังพอดี มีสเปซเหลือทำเป็นมุมแต่งตัว หรือห้องอื่นได้ตามไลฟ์สไตล์
ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านนอก ใช้ร่วมกันกับพื้นที่ส่วนกลาง แยกโซนเปียก โซนแห้งไว้ให้เรียบร้อย ตามมาตรฐาน AP
Master Bedroom ถือเป็นห้องไฮไลต์สำหรับไทป์นี้เลย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างที่สุด มีห้องน้ำในตัว แยกโซนเปียก-โซนแห้งไว้ให้แล้ว โดยแต่ละฟังก์ชันมีพื้นที่ให้ใช้งานได้ แบบไม่อึดอัด บวกกับผนังส่วนห้องนอนเป็นกระจกเต็มบาน ทำให้ห้องดูโปร่ง และสามารถเทควิวได้เต็มพื้นที่ด้วยครับ
VERTIPLEX – 2 Bedroom
ขนาดพื้นที่ 40.5 ตร.ม.
และห้องสุดท้ายที่จะพามาชม VERTIPLEX – 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 40.5 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เพดานสูง 4.4 เมตร ทราบมาว่ามีแค่เฉพาะชั้นที่ 35 – 39 เทควิวมุมสูงกว่า ไม่โดนบล็อกวิว ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ ความโปร่งสบาย และความ Luxury ที่เพิ่มเข้ามา
เมื่อก้าวเข้ามาในห้องจะเจอกับโซนครัวก่อนเลย ซึ่งห้องไทป์นี้จะเป็นแบบครัวเปิด ได้เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นเก็บของ และช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าฝาหน้า เหมือนกันกับห้องอื่น ๆ ติดกันเป็นห้องน้ำ Double Access เข้า – ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน แบ่งส่วนเปียก – แห้งไว้ชัดเจน
ถัดเข้ามาจะเจอ Living Area เป็นพื้นที่ Double Volume ความสูง 4.4 เมตร นอกจากเรื่อง ความหรูหรา ยังช่วยให้รู้สึกถึงความโปร่ง สบาย สามารถเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติ ได้จากกระจกบานใหญ่
ซึ่งเชื่อมต่อกัน จะเป็นมุมรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งกำลังพอดี มีพื้นที่เหลือเพียงพอให้วางของตกแต่ง หรือจะ Built-in ตู้ด้านหลังเหมือนห้องตัวอย่างก็เก๋ไปอีกแบบ
และตรงข้ามกับมุม Living คือห้องนอน 1 ขนาดกำลังพอดี สามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุตได้ หรือทำเป็นห้องทำงานก็ได้
ห้องนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัด
ส่วนชั้นลอย โครงการตกแต่งมาให้เป็นห้องนอน ซึ่งขนาดพื้นที่ใช้สอยวางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีมุมแต่งตัว มุมพักผ่อนมาให้ครบครัน
ถูกกั้นโซนด้วยผนังกระจกบานกว้าง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด ดูโปร่ง และถ้ามองลงมาจากชั้นลอย จะเห็นพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นพอดี ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้นเลยครับ
โครงการนี้เหมาะกับใคร ?
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับโครงการ ‘Life Phahon – Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว)’ คอนโดมิเนียม พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย สไตล์ Modern & Simply Luxury ที่ตั้งโครงการอยู่บนแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า ในย่านเศรษฐกิจ อย่างทำเลห้าแยกลาดพร้าว ที่ถือเป็นจุด Interchange เชื่อมต่อระหว่าง BTS และ MRT รวมไปถึงถนนหลักหลายสาย
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้
ทำเล : ทำเลดีตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน โซนห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นย่าน Office Building สิ่งแวดล้อมรอบโครงการจึงค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ใกล้ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลพหลโยธิน (ชื่อไม่เป็นทางการ) ในระยะสามารถเดินได้ + จุด Interchange ของรถไฟฟ้า 2 สายหลัก BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงิน โดยโครงการห่างจาก สถานีห้าแยกลาดพร้าว เพียง 220 เมตร การเดินทางสะดวกสบาย
ราคา : เฉลี่ยทั้งโครงการ 150,000 บาท/ตร.ม. และราคาเริ่ม 5.39 ล้านบาท* ราคาดี เมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง ใกล้ทั้งรถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมไปถึงปัจจัยการเติบโตของทำเลในอนาคตที่คาดว่าเพิ่มขึ้น ราคานี้ผมว่าไม่แย่ครับ
ส่วนกลาง : พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม 6 ชั้น ไฮไลต์คือ ส่วนกลาง 4 ชั้นบนสุด สามารถเทควิวได้กว้าง ไม่โดนบล็อกวิว มองเห็นสวนสีเขียวกว่า 700 ไร่ ฟังก์ชันครบครัน ตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน และการทำงาน
รูปแบบห้อง/สเปก : มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบห้อง SIMPLEX และห้องเพดานสูง VERTIPLEX โดยรวมรูปแบบห้องพักค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งาน รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
ลงทุน : ปัจจัยหลายด้านที่กล่าวมา ทั้งทำเล ราคา และรูปแบบห้อง ค่อนข้างเอื้อต่อการลงทุน Segment ก็ชัดเจน เพราะอยู่ในโซน Office Building ทำให้มีดีมานด์ กลุ่มพนักงานบริษัท และเจ้าของธุรกิจ หรือซื้อเป็นสินทรัพย์ ใช้ชีวิตสะดวกตอบโจทย์กับคนที่ทำงานในเมืองหรือแนวรถไฟฟ้าครับ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ Life Phahon – Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว)
ลงทะเบียน ได้ที่ : https://apth.ly/9i76