แอสปาย เอราวัณ
Aspire Erawan
…เมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดให้ใช้บริการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงในโซนที่รถไฟฟ้าเปิดบริการอย่างมาก ทั้งคึกคักมากขึ้น มีที่อยู่อาศัยที่เตรียมเปิดและพัฒนาโครงการมากขึ้น เพราะมองเห็นอนาคตจากการที่รถไฟฟ้าเปิดให้ใช้บริการ หรือแม้กระทั่งโครงการที่พร้อมอยู่สร้างเสร็จ เมื่อรถไฟฟ้าพร้อมใช้กระแสการตอบโจทย์ลูกค้าก็มากขึ้น เช่นเดียวกับโครงการ “แอสปาย เอราวัณ” ที่มีทำเลติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีช้างเอราวัณ ที่ผมมองว่าเป็นโครงการนึงที่น่าจับตามอง ทั้งเรื่องจุดเด่นของทำเล, ราคาที่คุ้ม, วิวโค้งแม่น้ำ และมีร้านค้าแบรนด์ดังอย่าง เซเว่น, Time to eat และ D’ORO อยู่หน้าโครงการเลย วันนี้เรามาดูกันว่าโครงการนี้ มีความน่าสนใจและน่าจับตามองมากกว่าติด BTS อย่างไรบ้าง?
Aspire เอราวัณ มีดีมากกว่าติด BTS
“Aspire เอราวัณ” คอนโดพร้อมอยู่ที่มีทำเลที่ดี เนื่องจากติดถนนใหญ่อย่างถนนสุขุมวิท รวมถึงหน้าโครงการติดบันไดทางขึ้น รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว สถานี “ช้างเอราวัณ” เรียกได้ว่า เดิน 1 ก้าวถึง BTS แล้วครับ แต่ถ้าทำเลจะดีแค่ติด BTS ผมก็มองว่าเฉยๆ ไปแล้ว แต่โครงการนี้มีดีมากกว่าติด BTS เท่านั้นเรามาลองดูกันครับว่า นอกจากติด BTS ช้างเอราวัณ ทำเลของโครงการนี้มีดีอะไรอีกบ้าง
- โครงการติดถนนใหญ่ อย่างถนนสุขุมวิท
- ใกล้ทางด่วนวงแหวนรอบนอกและบางนา-ตราด
- เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท, ถนนกาญจนาภิเษก,ถนนศรีนครินทร์ และถนนเทพารักษ์ เป็นต้น
- เดินทาง 30 นาทีถึงอโศก
- ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ และเป็นบริษัทชั้นนำ เช่น นิคมสำโรง, บางปู, บางพลี และบางบ่อ
- มีความเป็นแหล่งชุมชน ไม่เงียบและเปลี่ยว มีร้านอาหาร Street Food และร้านแบรนด์ดังหน้าโครงการ
- ใกล้ห้างสรรพสินค้า Robinson, Foodland, Big C, อิมพีเรียลสำโรง เป็นต้น
- เจ็บป่วยก็ไม่ต้องห่วง เพราะใกล้ รพ.เปาโลฯ
- 2 สถานีถึง สถานีสำโรง รถไฟฟ้าสาย Interchange สายสีเหลือง
เห็นไหมครับว่าทำเลของโครงการนี้ คือ มีดีมากกว่าแค่ติด BTS จริงๆ เพราะส่วนตัวผมมองว่าครบมาก โดยเฉพาะที่โครงการนี้มีร้านค้าแบรนด์ดังมาไว้ที่หน้าโครงการด้วยแล้วยิ่งน่าสนใจครับ เรามาดูกันต่อว่าร้านค้าหน้าโครงการมีแบรนด์ไหนมาลงบ้าง แล้วพิเศษอย่างไร?
คอนโดเดียวในย่านนี้ ที่มีร้านค้าหน้าคอนโด
จุดเด่นของโครงการอีกหนึ่งอย่าง คือ การที่โครงการมีร้านค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก อย่างเซเว่น, Time to Eat (ร้านอาหาร) และ D’ORO (ร้านกาแฟและเบเกอรี่) มาอยู่ด้านหน้าโครงการให้ลูกบ้านได้ใช้บริการ เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกบ้านมากกว่าเดิมอีกครับ และโครงการมีประตูทางเชื่อมที่ลูกบ้านสามารถเดินไปยังร้านค้าต่างๆ ผ่านโครงการได้ โดยไม่ต้องออกไปตรงถนนใหญ่ แต่มีความปลอดภัยเพราะมีรปภ.เฝ้า 24 ชม. รวมถึงการที่มีที่จอดรถให้บริการประมาณ 6-7 ที่จอดรถ โดยเปิดให้ทั้งลูกบ้านและลูกค้าที่ผ่านหน้าโครงการได้มีสิทธิ์ในการจอดรถ เพื่อใช้บริการร้านค้าดังกล่าว ผมมองว่าการทำแบบนี้ไม่ค่อยมีโครงการไหนจะคิดแบบนี้
รูปแบบห้องฟังก์ชันลงตัว เน้นครัวปิด
นอกจากทำเลและร้านค้าหน้าโครงการที่เป็นจุดเด่นแล้ว ห้องของโครงการนี้ยังมีรูปแบบฟังก์ชันห้องที่ส่วนตัวผมชอบ นั่นก็คือ เน้นครัวปิด อีกด้วยครับ เรามาดูห้องจริง วิวจริงที่โครงการตกแต่งเป็นห้องตัวอย่างกันต่อเลยดีกว่าครับ โครงการนี้จะมีห้องทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้ครับ
-Studio 25.5 ตารางเมตร (Sold Out)
-1 Bedroom 29.5-30 ตารางเมตร
-1 Bedroom Plus 35 ตารางเมตร
-2 Bedroom 47 ตารางเมตร
โดยโครงการนี้มีห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 ห้อง (ห้องตัวอย่าง 2 ห้อง เป็นห้องรูปแบบ 1 Bedroom จำนวน 1 ห้อง และห้องรูปแบบ 1 Bed Plus 1 ห้อง และ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. สำหรับนักลงทุนปล่อยเช่า) ผมขอเล่าทีละห้องตามนี้ครับ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29.5 – 30.0 ตร.ม.
เน้นครัวปิด ฟังก์ชันลงตัว
ห้องรูปแบบนี้ เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องจะเจอโซนที่เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอน แบ่งกั้นห้องด้วยบานสไลด์ ส่วนด้านขวามือจะเป็นห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบปิดมีบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วน ส่วนห้องน้ำจะอยู่โซนเดียวกับห้องครัว ซึ่งผมมองว่าก็โอเคนะครับ เพราะดูแบ่งฟังก์ชันของแต่ละโซนชัดเจนและฟังก์ชันสามารถใช้งานจริง ความสูงของห้อง 2.5 เมตร ไม่เตี้ยเกินไป และที่พิเศษ คือ ให้เป็นแบบ Fully Furnished เป็นเฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบ Built-in และ Knock Door อีกทั้งยังเป็นของแบรนด์ดังอย่าง SB และ Index อีกด้วยครับ และยังมีของแถม เครื่องใช้ไฟฟ้า และ Digital Door Lock แถมให้ด้วยครับ
สุขภัณฑ์ของโครงการจะเป็นแบรนด์ American Standard ซึ่งผมมองว่าเป็นแบรนด์ที่โอเคระดับนึง สเปกภายในห้องภาพรวมโอเคมากครับ
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม.
ห้องกว้าง เพิ่มพื้นที่ 1 ห้อง Multi-Purpost
ห้องรูปแบบนี้ ตอนที่ผมเดินเข้าไปในห้อง ผมรู้สึกชอบนะครับ เพราะว่าห้องดูกว้าง พื้นที่ดูใหญ่ แล้วสัดส่วนของการวางรูปแบบห้องดูลงตัว พื้นที่ห้องนั่งเล่นดูไม่แคบเกินไปห้องนอนก็กั้นเป็นสัดส่วนด้วยบานเลื่อนสไลด์ และพื้นที่ห้อง Multi-Purpost ที่ผมมองว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่เทรนด์การอยู่อาศัยสมัยนี้ต้องการนะครับ เพราะว่าสามารถทำห้องที่เราอยากจะใช้ประโยชน์ได้เพิ่มเติมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน, ห้องแต่งตัว หรือห้องสันทนาการ เล่นดนตรี หรือ Live สด เป็นต้น โดยห้องนี้โครงการออกแบบเป็นห้องแต่งตัว มีเพิ่มมุม Walk-in Closet และตกแต่งบานกระจกเพิ่มเติม ส่วนด้านขวามือ จะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ ซึ่งครัวก็เป็นครัวแบบปิดเหมือนกันกับทุกรูปแบบของโครงการนี้ครับ โดยให้เป็น Fully Furnished เช่นกันครับ
ห้องนี้ตกแต่งรูปแบบห้องออกมาดูสวยและเหมาะกับพนักงานที่ชอบใช้ชีวิตเหมือนบ้าน เพราะมีห้องหลายห้องให้ได้ใช้งาน
ห้อง 1 Bed ขนาด 30 ตร.ม.
ออกแบบเพื่อนักลงทุนปล่อยเช่า
อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่าโครงการนี้เรื่องของการลงทุนปล่อยเช่าค่อนข้างดีกว่าโครงการใกล้เคียงกัน Yield จะอยู่ประมาณ 5-6% ทำให้โครงการเล็งเห็นโอกาสนี้เช่นกันครับ เลยทำห้องออกแบบมาเพื่อนักลงทุนปล่อยเช่า ให้เห็นภาพว่าถ้าจะซื้อห้องเพื่อปล่อยเช่า โครงการให้อะไรบ้าง และเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบไหน พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่ม เพราะมีให้ครบ แม้กระทั่งผ้าม่านครับ และหากลูกค้าอยากได้ห้องนี้ก็สามารถขายได้ทันทีเลย ผมว่าผมชอบแนวคิดของ AP นะครับที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าตรงกับจุดแข็งที่ตัวเองมี นอกจากห้องที่ผมรู้สึกว่าดีแล้ว วิวในห้องของโครงการก็ดีเหมือนกันแต่น่าเสียดายวิวโค้งแม่น้ำขายหมดแล้วนะครับ ส่วนวิวอื่นก็ไม่ได้แย่ครับ เพราะเป็นวิวโล่งเห็นถนนสุขุมวิทและ BTS ด้วยครับ
ต่อจากห้องแล้ว เรามาดูที่ส่วนกลางดีกว่าครับผมแบบเห็นอยู่ว่าให้เยอะและใหญ่มากเหมือนกันครับ
ส่วนกลางใหญ่ เน้นสุขภาพ ตอบโจทย์ Healthy Lifestyle
ส่วนกลางของที่นี่ มี 3 ชั้นครับ เริ่มที่ชั้น 1 จะเป็น Lobby พื้นที่ยาว นั่งได้สบายเลยครับ, ชั้น 5 จะมีสระว่ายน้ำเกิน Half-Olympic ยาว 31 เมตร แถมเป็นระบบเกลือที่รักษาผิวไม่ให้ถลอก ห้องสตรีมก็มีนะครับ และยังมีฟิตเนสที่ชมวิวสระยาวถึง 31 เมตร อุปกรณ์ครบครันและเยอะมาก นอกจากกิจกรรมออกกำลังกายแล้ว ยังมี Co-Working Space ติดแอร์แถม Wi-Fi สำหรับนั่งทำงาน หรือ สวนไว้นั่งเล่นได้อีกครับ
ส่วนชั้นที่เป็นไฮไลท์ของโครงการ คือ ชั้น Rooftop (31) ที่มีสวนและมี Healthy Zone สำหรับวิ่ง,ปีนเขา และต่อยมวย เพื่อเบิร์นแคลอรีได้ และสุดท้ายของความพิเศษ คือ จุดชมวิวโค้งแม่น้ำ ที่ต้องบอกว่าสวยมากๆ ผมค่อนข้างประทับใจตรงจุดนี้มาก เพราะผมเป็ฯคนนึงที่ชอบออกกำลังกาย ซึ่งก็เป็นเทรนด์สมัยนี้ครับ
ถ้าดูจากส่วนกลางที่โครงการให้มา ส่วนใหญ่ส่วนกลางของที่นี่จะเน้นตอบโจทย์ Lifestyle เน้นรักสุขภาพ เช่น Boxing Zone, ปีนเขา, สระว่ายน้ำ และฟิตเนส ทำให้รู้ได้ว่าโครงการติดตามเทรนด์ของลูกค้าที่สนใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ซึ่งทำออกมาได้ดีและตอบโจทย์คนที่จะอยู่อาศัยจริงๆ
วิวดี วิวโค้งแม่น้ำ
อย่างที่ผมพูดแล้วและจะขอพูดอีก คือ วิวโค้งแม่น้ำของโครงการที่ไม่ใช่แค่ชั้น Roof top เท่านั้นที่จะเห็น ห้องพักก็เห็นด้วยครับ แต่น่าเสียดายของดีก็ย่อมหมดไปไวครับ ตอนนี้ โครงการจะเหลือห้องวิวส่วนกลางที่เห็นสระว่ายน้ำ และวิวโล่งด้านหน้าทางช้างสามเศียรกับถนนสุขุมวิท BTS ช้างเอราวัณเท่านั้น ส่วนใครที่อยากจะชมวิวโค้งแม่น้ำ ก็สามารถขึ้นไปชมได้ที่ชั้น Rooftop นะครับ ผมขึ้นไปยังชอบบรรยากาศเลยครับ
Yield ดี เหมาะลงทุนปล่อยเช่า
เนื่องจากโซนนี้เป็นแหล่งงานของบริษัทชั้นนำหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นนิคมสำโรง, บางปู, บางพลี และบางบ่อ รวมถึงคนที่ต้องเข้าไปทำงานแถวสาทร-สีลมแต่ติดที่บ้านอยู่แถวนี้ ต้องเดินทางด้วย BTS และรถยนต์ส่วนตัวก็ตาม ทำให้ตรงนี้มีโอกาสเรื่องของการปล่อยเช่า เพราะพนักงานส่วนใหญ่ต้องการหาห้องพัก เพราะบางทีอาจจะมีงบประมาณที่จำกัดและมีภาระทำให้กู้ซื้อไม่ได้แต่เช่าอยู่ได้ แล้วโครงการไหนหล่ะที่ตอบโจทย์ จากข้อมูลของ Hipflat.com การลงทุนของโครงการนี้ Yield ดีมาก คือ 5-6% ในขณะที่โครงการใกล้เคียง Yield อยู่ที่ 3-4% ทำให้โครงการนี้ เหมาะที่จะซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่า เพราะมี Demand แน่นอน และโครงการยังช่วย Support ด้วยการหา Agent ที่ช่วยนักลงทุนสำหรับปล่อยเช่าให้มาเป็นผู้ที่หาลูกค้าในการเช่าอยู่ต่อไปอีกด้วยครับ นั่นแหละครับที่ผมบอกไปว่าโครงการ Aspire เอราวัณมีดีมากกว่าแค่ติด BTS ครับ
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1.ทำเล : ดีมีศักยภาพ ทั้งติด BTS, ทางด่วนและถนนใหญ่ รวมถึงเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน และยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการตามที่ผมได้กล่าวไปแล้วในบทความครับ
2.ราคา : เริ่ม 1.99 ล้าน* ห้องขนาด 30 ตร.ม. (66,000 บาท/ตร.ม.) ได้ห้องใหญ่ในราคายังไม่ถึง 2 ล้าน แถมได้เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และ Digital Door Lock อีก ผมมองว่าราคานี้คือ คุ้มค่าแก่การจ่ายเงินครับ
3.ส่วนกลาง : ส่วนกลางใหญ่และดูครบ เน้น Healthy Zone ซึ่งผมจะค่อนข้างชอบ ตรงที่เหมาะกับ Life Style ของคนสมัยนี้ที่นิยมออกกำลังกายเป็นหลัก และการที่มีที่ออกกำลังกายในคอนโดของตัวเองก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก
4.รูปแบบห้องและสเปก : ผมมองว่าลงตัว ฟังก์ชันชัด และเน้นครัวปิดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่อยู่คอนโด โดยไม่มีกลิ่นและปิดกั้นห้องเป็นสัดส่วน และห้องที่เป็น 1 Bed Plus ที่เพิ่มห้อง Multi-Function ผมก็มองว่าตอบโจทย์เรื่องพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยากจะทำอะไรส่วนตัวก็ได้ เช่นห้องทำงาน, ห้องสันทนาการ, ห้องแต่งตัว เป็นต้น ส่วนสเปกโครงการนี้ผมมองว่าคุ้มเกินราคาขาย
5.การลงทุน : เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและการปล่อยเช่าลงทุน เพราะตอบโจทย์การอยู่อาศัยทั้งเรื่องของการเดินทาง, ส่วนกลาง รวมถึงรูปแบบห้องที่ฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่อาศัย และ Yield การปล่อยเช่าของโครงการคอนข้างดี 5-6% ซึ่งผมมองว่าลงทุนปล่อยเช่าแล้วได้กำไรดีแน่ครับ
หรือใครสนใจโครงการ วันที่ 9-10 ก.พ.นี้ โครงการแจกอั่งเปาฉลองช่วงตรุษจีน 30,000 บาท* ลดเพิ่มอีก 100,000 บาท* แถมเฟอร์นิเจอร์และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน รีบไปจองก่อนมาตรการสินเชื่อใหม่นะครับ
หรือ ลงทะเบียน ได้ที่ >> https://bit.ly/297T5j0