เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย
Metris Pattanakarn – Ekamai
Major เองก็ได้เปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ “Metris” ครบทั้ง 3 โครงการแล้วในปีนี้ ซึ่งโครงการภายในแบรนด์ Metris ค่อนข้างน่าสนใจด้วยที่ตั้งโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลย่านธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นลาดพร้าว, พระราม 9 -รามคำแหง และโครงการที่ผมจะพาไปสืบในวันนี้อย่าง “Metris พัฒนาการ – เอกมัย” ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตในย่านใกล้ใจกลางเมือง แต่ยังต้องการความสงบส่วนตัวในการอยู่อาศัย ดังนั้นตัวโครงการจึงค่อนข้างส่วนตัวด้วยยูนิตห้องพักเพียง 15 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น พร้อมทั้งยึดแนวความคิดเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่าง Mid – Century Modern ที่ผสานความคลาสสิกและความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งวันนี้เราลองไปดูกันครับ ว่าโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
“เอกมัย – พัฒนาการ” ทำเลเมืองส่วนต่อขยาย รองรับ Mass Transit
แน่นอนว่าความสะดวกสบายในการเดินทางในปัจจุบันนี้ถือเป็นปัจจัยหลักในการเลือกที่อยู่อาศัย ดังนั้นโครงการไหนที่ตั้งอยู่บนทำเลที่เอื้อต่อการเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือแม้แต่ขนส่งสาธารณะ โครงการนั้นย่อมได้เปรียบ และผมว่า Major เองได้เล็งเห็นความสำคัญข้อนี้ ทำให้ที่ตั้งของโครงการใหม่อย่าง “Metris พัฒนาการ – เอกมัย” มีความได้เปรียบคู่แข่งค่อนข้างสูงเพราะตั้งอยู่บนทำเลที่ติดกับถนนพัฒนาการ ใกล้ซอยพัฒนาการ 12 เป็นทำเลที่ไม่วุ่นวายและยังอยู่ฝั่งขาเข้า ห่างจากแยกคลองตันประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนเพชรบุรี ถนนรามคำแหง และถนนซอยสุขุมวิท 71 ซึ่งแต่ละเส้นทางที่ผมบอกมานี้ เป็นเส้นที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งเข้าและออกเมือง แถมรอบโครงการก็ยังรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นดองกิมอลล์, Big C / Home Pro เอกมัย, Seacon Square, Paradise Park, Maxvalu หรือจะเป็นสถานพยาบาลและสถานศึกษาชั้นนำอีกมากมาย แต่ศักยภาพของทำเลนี้ผมว่าสิ่งที่เด่นที่สุดก็คือเรื่องของการเป็นทำเลเมืองส่วนต่อขยาย รองรับ Mass Transit นั่นเองครับ เราลองไปดูกันครับว่าจะมีอะไรบ้าง…
ใกล้ Airport Link และรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ศักยภาพข้อแรกของทำเลพัฒนาการ – เอกมัยนั้น ถือว่าเป็นทำเลที่ถูกรองรับด้วยระบบรถไฟฟ้า BTS บนเส้นสุขุมวิทตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ BTS เท่านั้นที่เปิดให้บริการ เพราะยังมีรถไฟฟ้า Airport Link เปิดให้บริการรองรับการเดินทางของประชาชนในย่านนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว Airport Link เองก็กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการน่าจับตามองอย่างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ในทำเล EEC ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566 ในระยะทางกว่า 220.5 กม. โดยมี 3 ช่วง คือ ช่วงดอนเมือง – บางซื่อ – พญาไท ซึ่งช่วงแรกนี้จะเป็นส่วนต่อขยาย Airport Link เส้นนี้จะวิ่งไปทางเหนือของกรุงเทพ ระยะทาง 8 กม. และช่วงต่อมาคือช่วงพญาไท – สนามบินสุวรรณภูมิ เส้นนี้เป็นเส้นทาง Airport Link ในปัจจุบัน ระยะทาง 7 กม. และช่วงสุดท้ายคือช่วงสนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กม.
ล้อมรอบด้วยรถไฟฟ้า 3 สาย
และนอกจากรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแล้ว ในอนาคตยังมีโครงการรถไฟฟ้าอีก 3 สายล้อมรอบทำเลพัฒนาการ – เอกมัย ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา (อยู่ในระยะรัศมี 1 กม.) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง (อยู่ในระยะรัศมี 5 กม.)
ใกล้ทางด่วน/มอเตอร์เวย์ เข้า – ออกเมืองสะดวกสบาย
นอกจากนี้แล้วตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เพียง 100 เมตร สะดวกทั้งเดินทางเข้าเมืองห่างเพียง 10 นาทีจากทองหล่อ – เอกมัย และยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปซอยอ่อนนุช 17 ซอยพัฒนาการ 20 และออกนอกเมืองไปยังชลบุรีได้ด้วยทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ซึ่งเป็นเส้น(มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ – ชลบุรี สายใหม่อีกด้วยครับ
จุดเด่นทำเล
◼️ 100 เมตร จากทางด่วน
◼️ 5 นาที จากดองกิ มอลล์
◼️ 5 นาที จากลอนดอน สตรีท
◼️ 5 นาที จากโรงเรียนนานาชาติเอกมัย
◼️ 10 นาที จาก Airport Link รามคำแหง
◼️ 10 นาที จากโรงพยาบาลกรุงเทพ
คอนโดตอบโจทย์คนรักสัตว์ด้วย “Pet Friendly Residences”
ถ้าถามผมว่ารู้จักกับ Major ได้อย่างไร? ผมยอมรับว่าบทบาทแรกที่ทำให้ Major กลายเป็นที่รู้จักของผมและคนอื่นๆ ก็คือผู้พัฒนาอสังหาฯ เจ้าใหญ่ที่เป็นผู้เซตเทรนด์ Pet Friendly Residence นั่นเอง เมื่อก่อนยอมรับเลยครับว่าการจะหาโครงการที่ตอบโจทย์คนเฉพาะกลุ่มอย่างกลุ่ม Pet Lovers นั้นค่อนข้างยากมาก โดยเฉพาะหากใครที่ต้องการคอนโดที่เน้นความสะดวกสบาย อยู่ใกล้ย่านการค้า หรือโครงการทำเลดีๆ ในตัวเมืองนั้น กลายเป็นเรื่องยากมากเลยทีเดียว แต่ทุกโครงการของ Major กลับพัฒนาโครงการขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Pet Friendly Residences โดยเริ่มในโครงการแรกก็คือโครงการ “Hampton ทองหล่อ 10” และภาพจำต่อมาของทุกคนที่มีต่อ Major ก็คือ Developer รายแรกของประเทศที่เริ่มทำอสังหาฯ ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้นั่นเองครับ
และถ้าช่วงนี้ถ้าใครได้เปิดไปดูหน้าเพจของ “Major Development PCL” ผมว่าหลายคนจะต้องเห็นหลากหลายกิจกรรมเด่นๆ ของทาง Major ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับน้องหมาทั้งนั้นครับ และแน่นอนว่าโครงการของทาง Major เองค่อนข้างเด่นเรื่องของการตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่ม และนั่นก็คือกลุ่ม Pet Lovers อย่างโครงการ “Metris พัฒนาการ – เอกมัย” ก็เป็นอีกโครงการที่ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสัตว์ด้วยส่วนกลางพิเศษ “Pet Friendly Residences” ให้ลูกบ้านสามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงในคอนโดได้ และยังนำมาวิ่งเล่นทำกิจกรรมต่างๆ ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่จัดไว้ให้ได้อีกด้วย โดยที่น้ำหนักของสัตว์เลี้ยงจะต้องไม่เกิน 15 กม. เมื่อโตเต็มวัยครับ
นอกจากจุดเด่นข้อนี้แล้ว ผมจะพาไปดูส่วนกลางของที่นี่กันบ้างครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง…
ส่วนกลางจัดเต็ม เน้นพื้นที่สีเขียว ภายใต้แนวคิด “New Urban Lifestyle”
ส่วนกลางของที่นี่ค่อนข้างน่าสนใจเลยครับ ด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้สอดคล้องกับแนวคิด “New Urban Lifestyle” ส่วนกลางของที่นี่มีทั้งพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ห้องฟิตเนส หรือจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ รวมถึง Rooftop ที่ให้ลูกบ้านในโครงการและเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ BBQ กันได้ชิลๆ ช่วงกลางคืน นอกจากนี้แล้วส่วนกลางของที่นี่ยังอัดแน่นไปด้วยพื้นที่สีเขียวตั้งแต่หน้าโครงการเลยครับ ผมว่าดีนะครับ เพราะการใช้ชีวิตในเมืองทุกวันนี้ สิ่งที่คนเมืองอย่างเราๆ ต้องการมากเป็นอันดับต้นๆ ก็คือเรื่องของพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ฟอกปอดนั่นเองครับ นอกจากนี้ก็ยังมีการสอดแทรกเทคโนโลยี Motion Sensor Lighting ที่เป็นระบบเปิด – ปิดไฟ แบบอัตโนมัติไว้ช่วงโถงทางเดินของโครงการอีกด้วย เพื่อเป็นตัวช่วยให้ลูกบ้านประหยัดเงินค่าส่วนกลางนั่นเองครับ
สำหรับส่วนกลางของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 โซนครับ ซึ่งโซนแรกนั้นจะอยู่ที่บริเวณชั้น 1 เราลองไปดูกันครับว่าโซนแรกนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง…
Drop Off : เริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าตึกกันก่อนเลยครับ บริเวณนี้จะรายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวทั้งเล็กและใหญ่ ค่อนข้างเป็นบรรยากาศที่ร่มรื่นเลยครับ
Lobby : ลองเข้ามาดูที่บริเวณโถงต้อนรับแบบ Double Volume กันบ้างครับ บริเวณนี้ลูกบ้านสามารถเข้ามาพักผ่อนได้นะครับ และยังใช้ต้อนรับแขกที่มาเยือนได้เช่นกัน มี Wi-Fi ให้ใช้งานอีกด้วยครับ
Co-Working : สำหรับมุมทำงานของที่นี่ภายในมีการจัดวางโต๊ะนั่งทั้งแบบกลุ่ม แบบเดี่ยว จัดไว้อย่างมีสัดส่วน
Common Room : อีกพื้นที่ที่น่าสนใจก็คือห้องอเนกประสงค์หรือห้องนั่งเล่นของโครงการครับ มุมนี้การตกแต่งค่อนข้างดูหรูหรา ใช้สำหรับพักผ่อนในช่วงวันหยุดได้เลย
BBQ Courtyard : สำหรับพื้นที่ปาร์ตี้ทางโครงการก็มีไว้ให้เช่นกันครับ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นลาน BBQ ที่ให้ลูกบ้านและเพื่อนๆ สามารถเข้ามาใช้
Pet Zone : และอีกจุดที่น่าสนใจอย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้า และถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่ก็คือพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงนั่นเองครับ บริเวณนี้ลูกบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงสามารถนำสัตว์มาวิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมได้ที่บริเวณนี้ร่วมกับเจ้าของได้ ซึ่งทางโครงการออกแบบให้มี Jogging Track ในบริเวณเพื่อการออกกำลังกายแบบคู่ขนานสำหรับคนรักสัตว์ครับ
คราวนี้เราลองขึ้นมาที่โซนที่ 2 กันบ้างครับ สำหรับส่วนกลางโซนที่ 2 นี้จะอยู่บริเวณชั้น 7 ครับ เราลองมาดูครับว่าชั้นนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง…
Fitness : พื้นที่ออกกำลังกายของที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบ Outdoor และ Indoor เลยครับ ตอบโจทย์คนที่ชอบในสไตล์ที่ต่างแต่ก็รองรับได้ทั้ง 2 สไตล์ ถือว่าทางโครงการคิดมาดีเลยทีเดียว สำหรับชั้นนี้จะเป็นฟิตเนสแบบ Dynamic ที่มีเครื่องเล่นรองรับหลากหลาย และยังสามารถเทควิวผ่านกระจกทรงสูงขณะออกกำลังกายได้อีกด้วย
City Lounge : มุมนี้เป็นมุมพักผ่อนที่ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้งานได้ตลอด ที่นั่งรับรองโซนนี้จะมีทั้งแบบ Daybed แบบ Outdoor ใช้นอนชมวิวช่วงเวลาเช้าๆ หรือช่วงเย็นๆ ได้เลย และอีกส่วนก็จะเป็นที่นั่งแบบ Mini Bar ครับ
Infinity Edge Pool : ในส่วนของสระว่ายน้ำของที่จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และเป็นสระแบบ Open Air ไร้ขอบ สามารถเทควิวเมืองได้แบบ Panorama เลยครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับส่วนกลางของที่นี่ คราวนี้เราลองไปดูรูปแบบห้องของที่นี่กันบ้างดีกว่าครับว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง…
รูปแบบห้อง Privacy Unit ดีไซน์สดใสแบบ Mid-Century Modern
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับห้องพักโครงการนี้คือความเป็นส่วนตัว เพราะทุกชั้นมีเพียง 15 ยูนิตเท่านั้นครับ และมีทั้งหมดเพียง 341 ยูนิต ซึ่งรูปแบบห้องที่ผมมองว่าน่าสนใจก็คือห้องขนาด 1 Bedroom ขนาด 30.50 ตร.ม. ด้วยฟังก์ชันที่ค่อนข้างลงตัวและแปลนห้องจัดวางได้อย่างเป็นสัดส่วนนั่นเองครับ แต่ละห้องเพดานสูง 2.65 เมตร พร้อมทั้ง Mood & Tone ยังดูสดใส ดังนั้นบรรยากาศภายในห้องจึงค่อนข้างโปร่งโล่ง และอยู่สบาย สำหรับรูปแบบห้องของโครงการมีดังนี้…
◼️ 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 29.80 – 31.40 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 53.40 – 54.30 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 57.10 – 61.90 ตร.ม.
สำหรับห้องตัวอย่างที่เรามานำมาฝากในวันนี้มี 1 ห้องครับ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.50 ตร.ม. เรามาดูบรรยากาศภายในห้องตัวอย่างกันบ้างครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง…
1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.50 ตร.ม.
พื้นที่ใช้สอยจัดเต็ม ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง
สำหรับห้องภายในโครงการนั้นตัวประตูจะเป็นลูกบิดแบบก้านโยก พร้อม Digital Door Lock และมุมแรกที่เปิดประตูเข้ามาแล้วเจอก็คือพื้นที่ของห้องครัวครับ ซึ่งครัวของที่นี่เป็นฟังก์ชันครัวเปิด และจัดวางในรูปแบบ I – Shape Kitchen ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลย จะเห็นเลยครับว่าพื้นที่ของห้องครัวเหลือเยอะ สามารถใช้สอยได้เต็มที่มาก ในขณะเดียวกันนั้น ชุดครัวของที่นี่ทางโครงการ Built-in เฟอร์นิเจอร์มาให้เป็นตู้เก็บของทั้งบน – ล่าง และผนังปูกระเบื้องสีขาว เหมือนห้องตัวอย่างเลยครับ และยังมีอ่างล้างจานบวกกับเตาไฟฟ้าฐานเซรามิก และเครื่องดูดควันด้วยครับ ถือว่าให้มาเยอะเลย ในขณะเดียวกันพื้นที่ของห้องครัวจะเชื่อมต่อกับส่วนของ Dining Area ซึ่งเป็นมุมรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งเอาจริงๆ นะครับ ผมว่าใครที่อยากขยับขยายพื้นที่ตรงนี้ สามารถจัดมุมรับประทานอาหารเป็นเซต 4 ที่นั่งได้แบบสบายๆ เลยครับ
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามห้องครัวเลยครับ ภายในค่อนข้างกว้างเลย มีกั้นโซนแห้งและเปียกอย่างเป็นสัดส่วน และยัง Built-in ชั้นเก็บของใต้อ่างล้างมือ สามารถใช้เก็บสิ่งของต่างๆ ได้ รวมถึงให้กระจกทรงกลมมาด้วยครับ
มาต่อกันที่มุม Living Area กันครับ มุมนี้ก็จะเป็นมุมที่เชื่อมมาจากโซน Dining อีกที พื้นที่บริเวณนี้ผมว่าทางโครงการให้มาค่อนข้างเยอะเลย มี Space ระหว่างโซฟากับทีวีเหลือเยอะ อีกทั้งยังอยู่ติดกับกระจกทรงสูงที่สามารถเปิดรับแสงจากภายนอกให้สาดเข้ามาในห้องได้ ทำให้บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโปร่งสบาย ไม่อึดอัดครับ
และสำหรับพื้นที่ห้องนอนนั้น ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้เลยครับ และยังมีพื้นที่เหลือให้สามารถจัดเป็นมุม Working ที่มุมหัวเตียงได้อีกด้วย รวมไปถึงยัง Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของบริเวณด้านข้างได้ ซึ่งจัดเต็มขนาดนี้แล้วแต่ Space ภายในห้องก็ยังเหลืออยู่นะครับ ผมว่าทางโครงการวางแปลนห้องมาได้ลงตัวดีครับ ทำให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่ภายในห้องได้แบบจัดเต็มทุก ตร.ม. เลย
ได้เห็นรูปแบบของห้องตัวอย่างกันไปแล้ว คราวนี้เราลองไปดูกันบ้างดีกว่าครับว่าคอนโดนี้จะเหมาะกับใครบ้าง?
คอนโดนี้เหมาะกับใคร?
ทำเลพัฒนาการถือว่าเป็นอีกทำเลที่มีการพัฒนาด้านโครงข่ายคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เป็นการเสริมศักยภาพของทำเลให้ดีดตัวขึ้นสูงโดยเฉพาะในแง่ของการลงทุนที่น่าจับตามองไม่ต่างไปจากทำเลอื่นเลย ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่า โครงการภายในแบรนด์ “Metris” เป็นโครงการที่เจาะทำเลย่านธุรกิจที่จะขยายตัวในอนาคต ทำให้ทำเลนี้สอดรับกับความต้องการของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการลงทุนในทำเลทองที่มีแนวโน้มในการเพิ่มมูลค่าขึ้นทุกปีเช่นกัน และด้วยโครงการที่ค่อนข้างให้ความเป็นส่วนตัวสูง บวกกับฟังก์ชันต่างๆ ที่โครงการให้มา ดังนั้น โครงการ “Metris พัฒนาการ – เอกมัย” จึงตอบโจทย์ทั้งคนที่ต้องการอยู่เองและปล่อยเช่า ยิ่งราคาเริ่มต้น 2.5 ล้าน* ถือว่าไม่แพงสำหรับทำเลศักยภาพแบบนี้เลยครับ
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1. ทำเล : ที่ตั้งของโครงการอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง อีกทั้งยังเสริมในเรื่องของการเดินทางได้เป็นอย่างดี ทั้งใกล้ทางด่วน มอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้า แถมรอบโครงการก็ยังรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก ผมว่าโครงการนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียว
2. ราคา : ราคาเริ่ม 2.5 ล้าน* โครงการ Built-in เฟอร์นิเจอร์มาให้แบบ Fully Fitted เป็นราคาที่หากเปลี่ยนจากการเช่าอพาร์ทเม้นมาเป็นการซื้อคอนโดสเปกดีอยู่ แถมมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้แบบจัดเต็ม ผมมองว่าคุ้มกว่าครับ
3. ส่วนกลาง : ส่วนกลางของที่นี่ให้มาเยอะนะครับ ทั้งยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วย Pet Friendly Residences เอาใจคนรักสัตว์ที่ต้องการอยู่คอนโดทำเลดีอีกด้วย
4. รูปแบบห้องและสเปก : แปลนของโครงการนี้ผมว่าหลากหลายฟังก์ชันดีครับ ค่อนข้างรองรับคนหลากหลายไลฟ์สไตล์ เพดานสูง 2.65 เมตร ซึ่งถือว่ามากกว่าโครงการอื่นในทำเลเดียวกัน และยังมีการตกแต่งสไตล์สีสันสดใส ทำให้ห้องค่อนข้างน่าอยู่ แถมได้วัสดุคุณภาพดี มีสายไฟรองรับการติดตั้งระบบ Home Automation มาให้อีกด้วยครับ
5. การลงทุน : ทำเลพัฒนาการในปัจจุบันถือเป็นทำเลศักยภาพทำเลหนึ่งที่น่าจับตามองของกลุ่มนักลงทุน ด้วยการเป็นทำเลส่วนต่อขยาย EEC และยังคงมีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งจะสอดรับกับความต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ เพราะใกล้ใจกลางเมืองอย่างทองหล่อ – เอกมัย ถือว่าได้รับอิทธิพลการขยายตัวของเมืองมาจากฝั่ง CBD เลยก็ว่าได้ แถมทำเลนี้ก็มีจุดเด่นในแง่ของการลงทุนเพราะที่ดินบริเวณนี้เป็นที่ดินผืนใหญ่และมีราคาถูกกว่าในเมือง ไม่แปลกเลยครับที่เหล่า Developer จะรุกทำเลนี้กันมากขึ้น
ใครสนใจลองแวะเข้าไปดูนะครับ หรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> http://bit.ly/2MqZz05
หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ >> 02 116 1111