เสนา – อาศุ พระราม 9
SENA – AZU RAMA 9
ต้องบอกว่าปีนี้โครงการเด่นๆ ของเสนามีค่อนข้างหลายโครงการเลยครับ ถือเป็นการเปิดตัวท่ามกลางวิกฤตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการที่เสนาจับมือร่วมกับฮันคิว ฮันชินที่ปีนี้มีด้วยกันถึง 13 โครงการ และโครงการที่น่าสนใจเพราะเป็นการบุกทำเล New CBD ที่เป็นทำเลศักยภาพใหม่ของกรุงเทพฯ อย่างย่านพระราม 9 ก็คือโครงการ “SENA – AZU พระราม 9” ซึ่งโครงการนี้ผมว่าใครที่มี Lifestyle แบบ Healthy น่าจะถูกใจกันอย่างแน่นอน ซึ่งที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของทำเลครับที่น่าสนใจ แต่การออกแบบของโครงการที่มีการออกแบบตามหลัก Universal Design ก็เป็นอีกประเด็นที่วันนี้ผมจะพาไปรู้จักเช่นกัน เพราะค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวครับ แต่ก่อนอื่นผมขอเริ่มจากตัวทำเลกันก่อนครับ ไปดูกันเลยว่าทำเลนี้มีศักยภาพด้านไหนบ้าง…
“พระราม 9” ทำเลศักยภาพ New CBD เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์
หากต้องเลือกซื้อคอนโด แน่นอนว่าปัจจัยแรกที่ทุกคนต่างก็ให้ความสำคัญคือเรื่องของ “ทำเล” และหากพูดถึงคอนโดในย่านพระราม 9 ผมมองว่าน่าสนใจมากครับ ทั้งเรื่องของการลงทุนหรือแม้แต่การอยู่อาศัยเอง เราลองไปดูกันครับว่าทำเลนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง…
จุดแข็งของทำเลพระราม 9 ก็คือเรื่องของการเดินทางครับ ทำเลนี้มีทั้งโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเองก็เป็นสายที่สามารถนั่งเข้าตัวเมืองได้โดยตรง และยังไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกด้วย แต่สิ่งที่ตอกย้ำศักยภาพของย่านพระราม 9 ก็คือโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีส้ม ซึ่งเป็นเส้นที่เชื่อมต่อจากเส้นสีน้ำเงิน (สถานีศูนย์วัฒนธรรม) ถือเป็นจุด Interchange ที่สำคัญเลยครับ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมใช้บริการกันในปี 2566 ครับ
แต่นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้ว พระราม 9 ยังเดินทางสะดวกด้วยถนนพระราม 9 และยังใกล้ทางพิเศษฉลองรัชด้วยครับ
และอีกจุดเด่นของย่านนี้ที่ต้องพูดถึงก็คือการเป็นแหล่งรวม Office Building เกรด A โดยมี Office Building ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Unilever House, G Tower, The Ninth Tower, AIA Capital Center และด้วยความเจริญที่เข้ามาในย่านนี้อย่างต่อเนื่อง ด้วย Yield ที่สูง 5 – 6% ต่อปี (ที่มาข้อมูล : marketeeronline) แน่นอนครับว่าเหล่านักลงทุนโดยเฉพาะชาวจีนจำนวนมากต่างก็ให้ความสนใจกับทำเลนี้เป็นพิเศษเช่นกัน นับว่าหากต้องการซื้ออยู่เองหรือลงทุนระยะยาว คอนโดในย่านนี้ถือว่าเหมาะเลยครับ
แม้ว่าที่ตั้งโครงการจะอยู่ในเขตชุมชน แต่สิ่งที่เป็นข้อดีก็คือร้านค้าต่างๆ ภายในระแวกนี้จะค่อนข้างเยอะเลยครับ นอกจากนี้หากใครที่ชอบเดินห้างก็สามารถเดินทางไปได้ ไม่ว่าจะเป็น…
◼️ Central พระราม 9
◼️ The Street รัชดา
◼️ Esplanade รัชดาภิเษก
◼️ Big C Extra รัชดาภิเษก
◼️ Fortune Town
◼️ Show DC
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะที่เป็นศูนย์รวมของคนรักสุขภาพอย่างสวนสุขภาพห้วยขวาง, สวน รฟม. พระราม 9 และสวนพรรณภิรมย์อีกด้วยครับ ซึ่งทำเล ที่ใกล้พื้นที่สีเขียวเช่นนี้ ถือว่าลงตัวกับเทรนด์สุขภาพ
ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นผมว่าที่นี่ถือเป็น Privacy Location เนื่องจากทำเลนี้ไม่พลุกพล่าน ทั้งยังเดินทางสะดวก แถมรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ ครับ
เสนา – ฮันคิว ฮันชินบุกพระราม 9 ทำเลเพื่อคนยุคใหม่ Lifestyle แบบ Healthy
ผมว่าทำเลพระราม 9 ไม่ได้เด่นแค่เรื่องโครงข่ายคมนาคมเท่านั้นนะครับ เพราะหากมองอีกแง่ในเรื่องของ Lifestyle แล้ว ผมว่าที่นี่ตอบโจทย์สาย Healthy มาก ยิ่งช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้เทรนด์สุขภาพถือว่ามาแรงจริงครับ ดังนั้นการตอบสนองผู้คนที่มี Lifestyle เชิง Healthy ได้นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของอาหารการกินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลเรื่องเทรนด์สุขภาพที่มาแรงในปัจจุบัน ทำให้ที่อยู่อาศัยหลายที่ต่างก็ต้องคิดถึงสิ่งที่จะตอบโจทย์ผู้คนเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลายโครงการสร้างที่อยู่อาศัยเอาใจสายสุขภาพ มีการสอดแทรกระบบต่างๆ เข้ามามากมาย แต่ทางเสนาคิดล้ำกว่านั้น เพราะการที่เสนาจับมือร่วมกับฮันคิว ฮันชินเลือกเจาะทำเลพระราม 9 นั้น ไม่ใช่แค่ตอบสนองในแง่ของความเจริญที่จะมา Support ในเรื่องการลงทุนเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองและส่งเสริมเรื่องสุขภาพทั้งกายและใจให้กับเหล่าลูกบ้านได้ในระยะยาวนั่นเองครับ
ซึ่งในมุมมองเรื่องทำเลของคนที่มี Lifestyle เชิง Healthy นั้น ผมว่าพระราม 9 เองก็สามารถตอบโจทย์ด้านนี้ได้เช่นกันครับ ซึ่หากให้หาเหตุผลมาประกอบ ผมว่าง่ายๆ เลยก็คือ…
◼️ ทำเลพระราม 9 ใกล้สวนสาธารณะ และยังมีพื้นที่สาธารณะหลายแห่งที่จะเป็นตัวส่งเสริมให้ผู้คนในย่านนี้ได้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข
◼️ ทำเลพระราม 9 เป็นทำเลที่ส่งเสริมให้เราสามารถเดินเท้าได้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ เพราะทำเลนี้ใกล้ทั้งรถสาธารณะในระยะที่เดินไม่เหนื่อย ซึ่งการส่งเสริมให้คนเดินนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีตามมานั่นเองครับ
เหตุผลหลักๆ นี้เป็นสิ่งที่เข้ามา Support ในแง่ของเรื่องสุขภาพ เพราะเทรนด์สุขภาพในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราเลือกกินอาหารดีๆ แล้วจะมีสุขภาพที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่การทำกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เรามีความสุข หรือแม้แต่การได้ขยับร่างกายด้วยการเดิน ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีได้ ซึ่งทำเลพระราม 9 นั้นก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มา Support เรื่องนี้ด้วยครับ
“SENA – AZU พระราม 9” คอนโดแนวคิดใหม่ ออกแบบตามหลัก Universal Design
และในย่านพระราม 9 นี้ ผมว่าโครงการที่น่าสนใจด้วยการเป็นคอนโดแนวคิดใหม่ และยังนำเอาการออกแบบตามหลัก Universal Design มาใช้ในโครงการด้วยก็คือโครงการ “SENA – AZU พระราม 9” ครับ โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8.5 ไร่ 3 อาคาร ทั้งหมด 574 ยูนิต + คลับเฮ้าส์ 2 อาคาร และที่จอดที่มากถึง 70% ส่วนกลางจัดเต็ม 4 ไร่
แต่สิ่งที่ผมมองว่าน่าสนใจมากสำหรับโครงการนี้ก็คือการออกแบบครับ อย่างที่ผมบอกไปว่าโครงการนี้มีการนำเอาการออกแบบตามหลัก Universal Design มาใช้ในโครงการ หลายคนคงสงสัยใช่มั้ยครับว่าการออกแบบนี้แตกต่างจากการออกแบบทั่วไปอย่างไร? เราลองไปทำความรู้จักการออกแบบนี้แบบคร่าวๆ กันครับ
การออกแบบตามหลัก Universal Design
การออกแบบตามหลัก Universal Design หรือที่เรียกอีกชื่อว่า การออกแบบเพื่อมวลชนนั้น เกิดขึ้นจากการประดิษฐ์คิดค้นของใช้ส่วนตัวของ Mr. Ronald L.Mace (Professor of University of North Carolina USA) ที่เป็นผู้พิการ โดยได้ทดลองดัดแปลงของใช้ส่วนตัวให้สามารถใช้กับผู้พิการได้ หลังจากนั้นได้นำหลักการนี้มาใช้สำหรับการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับผู้พิการ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายความปลอดภัย และกลายมาเป็นต้นแบบของการออกแบบ Universal Design นั่นเองครับ
ดังนั้น การออกแบบตามหลัก Universal Design นั้น เป็นแนวคิดในการออกแบบสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่รวมไปถึงสิ่งของเครื่องใช้ทั่วไปในโครงการ โดยมีหลักการออกแบบเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ต้องครอบคลุมสำหรับทุกคนและต้องไม่มีการดัดแปลงพิเศษหรือเฉพาะเจาะจงเพื่อบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะครับ ซึ่งเท่าที่ผมเคยศึกษาการออกแบบตามหลัก Universal Design จะเห็นได้ว่าประเทศที่มีการนำการออกแบบนี้ไปใช้มากที่สุดก็คือประเทศญี่ปุ่นนั่นเองครับ
ซึ่งการออกแบบตามหลัก Universal Design นี้ จะมีองค์ประกอบหลักที่สำคัญดังนี้ครับ
◼️ Fairness : ความเสมอภาคใช้งาน
◼️ Flexibility : มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
◼️ Simplicity : มีความเรียบง่ายและเข้าใจได้ดี
◼️ Understanding : มีข้อมูลพอเพียง และสำหรับการใช้งาน
◼️ Safety : มีความทนทานต่อการใช้งานที่ผิดพลาด
◼️ Energy Conservation : สามารถทุ่นแรงได้
◼️ Space : มีขนาดและสถานที่ที่เหมาะสม
และที่ผมพูดมานี้ มีอยู่ในโครงการ “SENA – AZU พระราม 9” ครับ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการสำหรับคนรักสุขภาพ ซึ่งการนำเอาแนวคิดการออกแบบตามหลัก Universal Design มาใช้ก็เพื่อรองรับทุกเพศ ทุกวัย ในทุกๆ Situation ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของยูนิตที่ถูกออกแบบเป็นแบบ No Step และตัวประตูมีขนาดใหญ่เพื่อการใช้งานในทุก Situation ทั้งไม้พยุงหรือรถเข็น หรือจะเป็นการใช้ประตูบานเลื่อนเพื่อง่ายต่อการปรับเปลี่ยนทุกพื้นที่ อย่างตัวห้องน้ำของโครงการเองก็มีการออกแบบให้มีขนาดที่กว้าง และมีราวจับในห้องน้ำเพื่อช่วยในเรื่อง Physical Wellness และตัวยูนิตเองมีการใช้ประตูเลื่อนเพื่อง่ายต่อการปรับเปลี่ยนพื้นที่ และยังสามารถปรับเปลี่ยน มีความยืดหยุ่นได้ในทุกช่วงวัย ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ ดังนั้นผมว่าโครงการนี้ค่อนข้างน่าสนใจมากเลยทีเดียว
คอนโดแนวคิดใหม่ มาพร้อมคอนเซปต์เพื่อคนรักสุขภาพ “Stay Healthy For Today and Tomorrow”
อย่างที่ผมบอกไปครับว่าทำเลพระราม 9 นั้นถือเป็นทำเลที่อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว ใกล้สวนสาธารณะเด่นๆ มากถึง 3 แห่ง ซึ่งการดูแลสุขภาพนั้นกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้ และโครงการ “SENA – AZU พระราม 9” เองก็เป็นอีกโครงการที่ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ตามคอนเซปต์เพื่อคนยุคใหม่อย่าง “Stay Healthy For Today & Tomorrow” มีสุขภาพดีในทุกๆ วัน เพื่อใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ อย่างพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ ทางโครงการให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพกายที่ดี ไม่ว่าจะเป็น Green Space พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 4 ไร่ หรือ 50% ของโครงการ ทั้ง Jogging Track ลู่วิ่งยาว 570 เมตร, Aerobic Zone พื้นที่เต้นแอโรบิค ซุมบ้า และโยคะ, Fitness และสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีความยาวมากถึง 55 เมตร เลยทีเดียว
ซึ่งภาพรวมส่วนกลางของโครงการนี้ผมมองว่าให้มาครบมากครับ ทั้งพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการ สเปกต่างๆ รวมถึงฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้จริง โดยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการผมสรุปให้มีดังนี้ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
◼️ Lobby
◼️ Jogging Track
◼️ Co-Sharing
◼️ Swimming Pool
◼️ Stream & Sauna
◼️ Garden
◼️ Co-Working
◼️ Meeting Room
◼️ Fitness
◼️ Yoga Room
◼️ Co-activity Room
◼️ Spa & Massage Room
◼️ Co-kitchen + Party Area
นอกจากส่วนกลางที่ผมว่ามาแล้วข้างต้น สิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าทางโครงการใส่ใจเรื่องสุขภาพ ให้ความสำคัญกับ Service Design หรือที่เรียกว่าการออกแบบบริการเพื่อที่อยู่อาศัย
ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากล เพื่อให้การบริการที่ครอบคลุมสำหรับผู้พักอาศัย อย่างโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งสิ่งที่จะไดรับมีดังนี้ครับ
◼️ บัตรสมาชิกชีววัฒนะ พร้อม Package ตรวจสุขภาพและส่วนลดการรักษา
◼️ บริการรถพยาบาลฉุกเฉิน
◼️ Workshop เพื่อสุขภาพหลังเข้าอยู่
และยังมีสถาบันฟิต หรือ FIT Thailand ที่เข้ามามอบประสบการณ์การออกกำลังกายโดยครูฝึกสอนที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลอีกด้วยครับ
นอกจากส่วนกลางของโครงการแล้ว รูปแบบห้องของที่นี่ผมยังตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงด้วยพื้นที่แบบ Full Area หรือสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มพื้นที่นั่นเองครับ ซึ่งรูปแบบห้องภายในโครงการจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบดังนี้ครับ…
◼️ 1 Bedroom (Extra) 32 – 33 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom (Plus) 44 – 45 ตร.ม.
◼️ 2 Bedrooms 51 – 55 ตร.ม.
คราวนี้เราลองไปดูกันดีกว่าครับว่าโครงการนี้จะเหมาะกับใครบ้าง…
คอนโดนี้เหมาะกับใคร?
สำหรับโครงการ “SENA – AZU พระราม 9” นั้นผมว่าตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองรวมไปถึงการลงทุน ทั้งนี้ก็ด้วยการออกแบบตามหลัก Universal Design ที่เข้าใจผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย และทุกๆ Situation เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ผมว่าน่าสนใจมาก อย่างใครที่มีคุณพ่อคุณแม่ หรือแม้แต่เด็กเล็กก็สามารถซื้ออยู่อาศัยเองได้ และหากในอนาคตมีแพลนที่จะขยับขยายที่อยู่ ด้วยศักยภาพของทำเลพระราม 9 ก็สามารถขายต่อหรือเปล่าเช่าห้องได้สบายๆ เพราะเท่าที่ผมสืบทราบมา Yield ของที่นี่สูงถึง 5 – 6% ต่อปีเลยครับ
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1. ทำเล : จริงๆ ทำเลของโครงการถือว่าเป็นทำเลที่หายากนะครับสำหรับที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ซึ่งผมว่าทุกคนเองก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าทำเลพระราม 9 เป็นทำเลที่มีศักยภาพในตัว ทั้งเรื่องโครงข่ายคมนาคม รวมไปถึงเป็นแหล่งรวม Lifestyle ที่ตอบโจทย์คนหลากหลายวัย ซึ่งทำเลนี้ยังคงเป็นทำเลน่าอยู่ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการลงทุนควบคู่กันไปด้วยครับ
2. ราคา : ราคาเริ่ม 2.89 ล้าน* ผมว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ และค่อนข้างที่จะคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่โครงการให้มา ผมเองชื่นชอบโครงการต่างๆ ของเสนาอยู่แล้ว ผมชอบแนวคิดที่คิดมาเพื่อผู้อยู่อาศัยจริงๆ และบวกกับศักยภาพของทำเลเข้าไปด้วยแล้ว ผมว่าราคานี้คุ้มครับ
3. ส่วนกลางและสเปก : โครงการนี้ยังสร้างไม่เสร็จก็จริงครับ แต่เท่าที่รู้มาคือ ทั้งพื้นที่และวัสดุต่างๆ ที่โครงการใช้ล้วนแต่คัดเกรดดี และใช้แบรนด์มาตรฐานทั้งนั้น สำหรับส่วนกลางเองก็ตอบโจทย์ เพราะมีให้ครบทุก Activity เลยครับ
4. การลงทุน : อย่างที่ผมบอกไปครับว่าทำเลนี้ Yield ดี 5 – 6% ต่อปี และพระราม 9 เองก็เป็นทำเลที่มีเหล่านักลงทุนเข้ามาปักหลักกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนชาวจีน ดังนั้นหากใครที่มองหาโครงการสำหรับปล่อยเช่า ผมว่าเหมาะมากครับ
หากใครสนใจโครงการสามารถสนใจลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท* ได้ที่ >> http://bit.ly/31zNJaf