สืบก่อนจอง The Origin พหลฯ – สะพานใหม่

ดิ ออริจิ้น พหลฯ – สะพานใหม่
The Origin Phahol – Saphanmai

หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับทุกโครงการที่เปิดมาก่อนหน้านี้แล้ว แบรนด์ “The Origin” เตรียมส่งท้ายปีนี้ด้วยทำเลสะพานใหม่ กับโครงการ “The Origin พหลฯ – สะพานใหม่” คอนโด Mid Rise 14 ชั้น 1 อาคาร มีทั้งหมด 537 ยูนิต + Shop อีก 1 ยูนิต

ซึ่งหลายคนอาจจะทราบมาแล้วว่าโครงการนี้เป็นการนำแบรนด์เก่าอย่าง “Notting Hill Hyde Park – สะพานใหม่” มา Redesign ซึ่งที่ผ่านมานั้นแบรนด์ The Origin ถือเป็นน้องใหม่ที่มาแรงและได้รับความสนใจมากที่สุด ด้วยสเปกที่คุ้มค่า บวกกับราคาอยู่ในเรทที่กลุ่ม First Jobber เอื้อมถึง ก่อนที่เราจะไปดูว่าโครงการ The Origin พหลฯ – สะพานใหม่ มีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น เราไปทำความรู้จักกับความเป็นมาของแบรนด์น้องใหม่อย่าง The Origin กันสักนิดครับ

“The Origin” แบรนด์น้องใหม่ที่น่าจับตามอง บุก 6 ทำเลใกล้รถไฟฟ้า ตอบโจทย์กลุ่ม Gen Z

แบรนด์ “The Origin” เกิดจากการที่ Origin มีปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2562 โดยทาง Origin เชื่อว่าการทำ Brand Segmentation ที่มีความชัดเจน และ Price Point ที่แม่นยำ จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละกลุ่มได้อย่างครบถ้วน ดังนั้นแบรนด์ “The Origin” จึงเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่เจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z วัยเริ่มต้นทำงาน (First Jobber และ First Home Buyer) โดยมีแนวคิด Smart Finance เปลี่ยนค่าเช่าเป็นทรัพย์สินด้วยการซื้อคอนโดตามแนวรถไฟฟ้านั่นเองครับ 

ซึ่งจากการสร้างแบรนด์ของ Origin ครั้งนี้ ส่วนตัวผมมองว่า Origin มาถูกทางในเรื่องของการขายของให้ถูกกลุ่มและราคาต้องจับต้องได้ เพราะนั่นหมายความว่า ลูกค้าจะมีโอกาสเป็นลูกค้า Potential มากกว่าการขายแบบ Mass อย่างที่เคยทำกันมา อีกทั้งแบรนด์ The Origin เองก็สามารถเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง รู้ว่าคนรุ่นใหม่ยุค Gen Z ที่เกิดมาพร้อมความสะดวกสบาย มีคนดูแล จัดการชีวิตให้อย่างเสร็จสรรพ โครงการภายในแบรนด์ The Origin จึงมีเทคโนโลยีมา Support ในเรื่องการอยู่อาศัยในทุกๆ มุม เพื่อให้การใช้ชีวิตในคอนโดเป็นเรื่องง่าย 

โดยแบรนด์ The Origin เปิดตัวมาด้วย 6 โครงการ 6 ทำเล ดังนี้ครับ…

◼️ The Origin Ram 209 Interchange
◼️ The Origin รัชดา – ลาดพร้าว
◼️ The Origin ลาดพร้าว 15
◼️ The Origin สุขุมวิท 105
◼️ The Origin Ramintra 83 Station
◼️ The Origin พหลฯ – สะพานใหม่

และโครงการที่ส่งมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จปิดท้ายในปีนี้ก็คือ “The Origin พหลฯ – สะพานใหม่” เราลองไปดูกันครับว่าโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ซึ่งผมจะเริ่มจากทำเลพหลฯ – สะพานใหม่ ทำเลที่กำลังเป็นที่จับตามองในปัจจุบันนี้กันก่อนครับ…

ทำเลใจกลางสะพานใหม่ 1 นาทีถึง BTS สถานีสายหยุด

“พหลฯ – สะพานใหม่” ทำเลนี้กำลังเป็นที่จับตามองเพราะการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วง หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าที่สามารถรองรับการเดินทาง ถ้าหากถามผมว่า ทำไมรถไฟฟ้าสายนี้ถึงน่าสนใจ? นั่นก็เพราะว่าเส้นทางการเดินรถของโครงการนี้จะผ่าน Landmark สำคัญๆ มากมาย และยังเชื่อมไปจนถึงใจกลางเมืองอย่างสยาม อโศก ทองหล่อ ฯลฯ และที่สำคัญคือโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการทั้งหมดในปี 2563 ทั้ง 16 สถานี เป็นปีเดียวกับที่โครงการแล้วเสร็จพอดีครับ

นอกจากนี้แล้วยังมีโครงการตัดถนนสายใหม่ที่สร้างเสร็จและเปิดให้ใช้แล้วอย่าง ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช และถนนเชื่อมวิภาวดีรังสิตกับพหลโยธิน ซึ่งโครงการนี้มีผลต่อย่านนี้มากครับ เพราะทำให้การคมนาคมในย่านสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับทำเลพหลฯ – สะพานใหม่ อีกด้วยครับ

จุดเด่นทำเล 

◼️ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีสายหยุด, หลักสี่ และสะพานใหม่)
◼️ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีวงเวียนหลักสี่)
◼️ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และดอนเมืองโทลล์เวย์
◼️ ใกล้ถนนเส้นสำคัญ ได้แก่ ถนนพหลโยธิน, ถนนเทพารักษ์, ถนนรามอินทรา, ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนเทพารักษ์ (ตัดใหม่)
◼️ ใกล้แหล่งช้อปปิ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Big-C สะพานใหม่, Lotus หลักสี่, Central รามอินทรา และ Major รัชโยธิน
◼️ ใกล้มหาวิทยาลัยชั้นนำ อย่าง มหาวิทยาลัยเกริก, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

จาก “Notting Hill” สู่ “The Origin” แบรนด์ใหม่ สเปกดี พรีเมียมยิ่งขึ้น

หลังจากที่รู้ว่าโครงการเดิมอย่าง “Notting Hill Hyde Park – สะพานใหม่” ถูกนำมา Redesign ใหม่ทั้งหมดและกลายเป็นโครงการใหม่น่าจับตามองอย่าง “The Origin พหลฯ – สะพานใหม่” และพร้อมๆ กันนั้น ทางโครงการเองก็ได้ปล่อยภาพส่วนกลางออกมาให้เราได้เห็นกันแล้วว่า Before และ After แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งยังไม่หลุดจากคอนเซปต์ใหม่อย่าง “Wonder Galaxy” ไม่ว่าจะเป็นตัวสเปกที่แตกต่างจากเดิม ดีไซน์สวยและดูทันสมัยขึ้น ในขณะเดียวกันก็ดูจะเป็นการยกระดับแบรนด์ให้ดูพรีเมียมมากกว่าเดิมด้วยครับ งั้นเราลองมาดูภาพที่โครงการปล่อยออกมาให้เห็นกันอีกครั้งครับ จากการ Redesign แบรนด์เก่า สู่แบรนด์ใหม่นั้น จะเป็นอย่างไรบ้าง…

Visitor Lobby Hall
ดีไซน์หรู สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแขกที่มาเยือน

เริ่มกันที่ Lobby ต้อนรับกันก่อนเลยครับ จากภาพจะเห็นได้เลยว่า Mood & Tone ของ Lobby ต่างไปจากเดิมเลยครับ จากเดิมที่ใช้โทนสีดำตกแต่งด้วยหินอ่อน ทางโครงการก็มีการดีไซน์ใหม่ด้วยโทนสีที่ดูสว่างมากขึ้น ด้านข้างจะกระจกทรงสูงล้อมรอบ สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ครับ พื้นที่นี้ลูกบ้านส่วนใหญ่ใช้ต้อนรับแขกที่มาเยือนเรา หากว่ารูปแบบของ Lobby ดูดี ก็ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเราด้วยเช่นกันครับ

24hr Co-Working Space
ตอบโจทย์คนเมืองด้วยเทรนด์ 24 Hours Lifestyle  

มาต่อด้วยพื้นที่ Co-Working Space กันครับ ส่วนนี้ถือว่าเป็นอีกโซนที่พิเศษ เพราะเปิดตลอด 24 ชม. เอาใจคนที่ชอบใช้ชีวิตตามเทรนด์ 24 Hours Lifestyle ในแบบสไตล์ของคนเมืองที่ชอบนอนดึกได้เป็นอย่างดี โซนนี้หลังจากการ Redesign แล้ว ดูทันสมัยขึ้นเยอะเลยครับ และการจัดวางที่นั่งแต่ละมุมยังเป็นสัดส่วน เพิ่ม Space ให้พื้นที่นี้ดูกว้างมากยิ่งขึ้น มีกระจกทรงสูงที่สามารถเปิดรับแสงจากด้านนอกได้ ช่วยให้บรรยากาศภายใน C0-Working ดูปลอดโปร่ง ใครที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางในช่วงวันหยุด หรือหลังเลิกงานมากกว่าอยู่ภายในห้องพัก น่าจะถูกใจพื้นที่นี้กันครับ

Co-Kitchen & Private Party Room
พื้นที่ปาร์ตี้โฉมใหม่ ไร้เสียงรบกวน

สำหรับพื้นที่ปาร์ตี้ของโครงการนั้นมีรองรับลูกบ้านด้วยเช่นกันครับ ผมเห็นดีไซน์แบบใหม่แล้วรู้สึกชอบกว่าแบบเดิมที่ดูเรียบไป โดยรูปแบบของพื้นที่ Co-Kitchen และ Private Party Room นั้นจะมีการเพิ่ม Chandelier สีสันสดใสสไตล์ Galaxy ให้ดูมี Detail มากยิ่งขึ้น ทั้ง 2 ข้างเป็นกระจกทรงสูงที่อีกฝั่งสามารถเทควิวเมืองด้านนอกได้เลย นอกจากนี้พื้นที่ปาร์ตี้นี้ยังพิเศษด้วยการเป็นพื้นที่ปาร์ตี้ที่สามารถแบบเก็บเสียงได้ด้วยครับ ซึ่งการดีไซน์แบบใหม่นี้ก็เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านคนอื่นๆ ที่จะไม่ต้องถูกรบกวนจากเสียงดังอีกต่อไปนั่นเอง หรือแม้แต่คนที่อยู่ภายในพื้นที่นี้เอง ก็จะไม่ได้รับการรบกวนจากภายนอกเช่นเดียวกัน เนื่องจากพื้นที่นี้สามารถป้องกันเสียงรบกวนทั้งภายนอกสู่ภายใน และภายในสู่ภายนอก น่าจะถูกใจสายปาร์ตี้เลยล่ะครับ

Active Gym
มุมออกกำลังกายสุดสมาร์ท ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

มาถึงรูปสุดท้ายที่ปล่อยมาอย่างโซน Active Gym หรือห้องออกกำลังกายกันบ้างครับ จะเห็นได้เลยว่าตัวเครื่องเล่นยังให้มาแบบครบและจัดเต็มเหมือนเดิม และสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีภายในที่ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น การดีไซน์ที่ยังคงคอนเซปต์ Wonder Galaxy ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้โซนนี้ดูน่าสนใจและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้นด้วยครับ

คราวนี้เราลองไปดูส่วนกลางของที่นี่กันบ้างดีกว่าครับ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง…

ส่วนกลางจัดเต็มด้วย Product Features ใหม่ สเปกหรู ดีไซน์สวย

คราวนี้ลองมาดูภาพรวมของส่วนกลางที่นี่กันอีกครั้งครับว่าโครงการให้อะไรมาบ้าง ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะมีด้วยกัน 3 ชั้น แบ่งได้ตามนี้ครับ…

◼️ ชั้น Ground ได้แก่ Mailbox & Smart Locker, Visitor Lobby Hall และ Meeting Room
◼️ ชั้น 3 ได้แก่ Co-Working Space, Office Supply, Multi-function Studio (Co-Passion), Pool และ Fitness
◼️ ชั้น 14 ได้แก่ Private Party และ Co-Kitchen

เราลองไปดูบรรยากาศส่วนหนึ่งของส่วนกลางของโครงการกันครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง…

Mailbox & Smart Locker : ผมว่าจุดรับจดหมายและตู้ Locker ของลูกบ้านนั้น โครงการทำออกมาได้ค่อนข้างสวยเลยครับ อีกทั้งพื้นที่ยังโล่งกว้างด้วยครับ

Swimming Pool : มาดูกันที่ส่วนของสระว่ายน้ำกันบ้างครับ โดยสระว่ายน้ำของโครงการนั้น เป็นสระขนาด 8 x 25 เมตร และเป็นสระแบบ Open Air อีกทั้งยังสามารถเทควิวเมืองสะพานใหม่ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

Pavilion Garden : ในขณะเดียวกันพื้นที่สีเขียวของโครงการก็มีอยู่โดยรอบครับ ริมสระว่ายน้ำเองก็มีมุมพักผ่อนที่รายล้อมด้วยต้นไม้ทั้งเล็กและใหญ่ให้ความร่มรื่นได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบพักผ่อนผ่านบรรยากาศธรรมชาติได้เป็นอย่างดีครับ

Co-Kitchen : พื้นที่ทำอาหารที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้นั้นค่อนข้างหรูหราเลยครับ ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้พื้นที่สำหรับทำอาหารก็ได้ หรือจะนั่งรับประทานก็ได้เช่นกันครับ

ส่วนกลางของที่นี่ยังคงจัดเต็มครับ และการดีไซน์และฟังก์ชันต่างๆ นั้นยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อีกด้วย คราวนี้เราลองไปดูรูปแบบห้องของโครงการกันบ้างครับว่ามีฟังก์ชันอะไรน่าสนใจบ้าง

รูปแบบห้องกว้าง รองรับทุกไลฟ์สไตล์

รูปแบบห้องของโครงการนั้นรูปแบบห้องแต่ละ Type ผมว่าค่อนข้างกว้างเลยครับ สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากฟังก์ชัน เน้นพื้นที่ใช้สอยได้จริง ซึ่งรูปแบบห้องของที่นี่ผมว่าเหมาะตั้งแต่คนโสดไปจนถึงคนที่ใช้ชีวิตคู่หรือครอบครัวเล็กๆ เลยครับ โดยรูปแบบห้องของที่นี่จะมีด้วยกัน 3 Type ดังนี้ครับ

◼️ 1 Bedroom ขนาด 23 – 34 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 65 ตร.ม.
◼️ Duplex ขนาด 30 – 49 ตร.ม.

เราลองมาดูรูปแบบของแปลนห้องแต่ละ Type กันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง…

ฟังก์ชันห้อง 1 Bedroom ขนาด 23 – 34 ตร.ม.
เน้นครัวปิด ลงตัวกับการอยู่อาศัยจริง 

เริ่มกันที่รูปแบบห้อง 1 Bedroom กันก่อนเลยครับ สำหรับห้องรูปแบบนี้จะโดดเด่นด้วยฟังก์ชันครัวปิด ทางโครงการตกแต่งเป็นครัวแบบ I – Shape Kitchen มาให้เพื่อเป็นการใช้พื้นที่ใช้สอยในส่วนของห้องครัวได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น หากใครที่ชอบทำอาหารแต่ไม่ชอบให้กลิ่นเข้าไปรบกวนในส่วนของพื้นที่ Living หรือห้องนอนน่าจะถูกใจกันครับ นอกจากนี้แล้วพื้นที่ระเบียงของแต่ละห้องยังมีขนาดที่กว้าง สามารถใช้งานได้จริง ห้องรูปแบบนี้เหมาะกับคนโสดและคนมีคู่ครับ แต่ถ้าใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวเวลาที่มีเพื่อนหรือญาติมาเยี่ยมที่ห้อง ผมว่าห้อง Type B2 น่าจะเหมาะที่สุด เพราะการจัดฟังก์ชันต่างๆ มีการแบ่งพื้นที่ Living และห้องนอนแยกกันอย่างมีสัดส่วน ในขณะที่ Type B1 และ B5 นั้นจะ Combine ส่วนของ Living และห้องนอนไว้ด้วยกันครับ  

นอกจากนี้แล้วห้อง Type B5 จะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่เราได้ฟังก์ชัน Smart Closet ที่เป็นดีไซน์ใหม่จาก Origin เป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ภายในห้องนอนแบบส่วนตัว ใครอยากได้ห้องแต่งตัวใหญ่ ห้องนี้เหมาะมากครับ

ฟังก์ชันห้อง 2 Bedrooms ขนาด 34 – 65 ตร.ม.
Living ใหญ่ เน้นพื้นที่ใช้สอยแบบจัดเต็ม

มาต่อกันที่ห้อง 2 Bedrooms กันครับ ห้องรูปแบบนี้เมื่อเปิดประตูเข้ามาทุกห้องจะเจอกับ Living เลยครับ ซึ่งห้องจะมีทั้งฟังก์ชันครัวเปิดและครัวปิด การจัดวางครัวจะเป็นรูปแบบ I – Shape Kitchen ทั้งหมดเหมือนกับห้อง 1 Bedroom แต่สิ่งที่เด่นของห้องรูปแบบนี้เลยก็คือพื้นที่ Living ที่มีขนาดใหญ่มาก สามารถวางเซตโซฟาได้ตั้งแต่ 3 – 5 ที่นั่งได้สบายๆ เลยครับ โดยที่ยังมีพื้นที่เหลือให้เราสามารถทำเป็นมุม Dining ได้อีก ซึ่งแต่ละห้องนั้นจะมีเพิ่มอีก 1 ห้องที่เราสามารถทำเป็นห้องนอน วางเตียงขนาด 3 ฟุตได้สบายๆ หรือใครที่อยากจะทำเป็นห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ก็ได้ครับ สำหรับห้องรูปแบบนี้ ครอบครัวขนาดเล็กสามารถอยู่ได้สบายๆ ครับ ด้วย Space ที่กว้าง ทำให้ห้องสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้แบบจัดเต็ม

ฟังก์ชันห้อง Duplex ขนาด 30 – 49 ตร.ม.
ตอบโจทย์คนอยากมีบ้านด้วยห้องแบบ Double Space

มาถึงห้องรูปแบบสุดท้ายอย่าง Duplex กันครับ ห้องนี้พื้นที่ใช้สอยจัดเต็มด้วยฟังก์ชันแบบ Double Space ที่เปิดโล่งขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ทำให้ห้องดูใหญ่และโปร่งมากกว่าห้องแบบปกติ พื้นที่ Living ด้านในถือว่าใหญ่มาก ซึ่งพื้นที่ชั้นล่างนั้นมีมุม Multi – Function สามารถทำเป็นมุมนั่งทำงานได้ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 ก็ทำเป็นห้องนอนแบบส่วนตัวได้เลยครับ สะดวกสำหรับใครที่มีเพื่อนหรือญาติมาห้องบ่อย ก็สามารถใช้พื้นที่ Living โดยที่ไม่ต้องเข้ามาในส่วนของห้องนอนแต่อย่างใดครับ

คราวนี้เราลองไปดูกันดีกว่าครับว่าโครงการนี้จะเหมาะกับใครบ้าง…

คอนโดนี้เหมาะกับใคร?

สำหรับโครงการ The Origin พหลฯ – สะพานใหม่ ถือว่าทาง Origin ตั้งใจปล่อยมาเพื่อตีตลาดสะพานใหม่ด้วยราคาถูกที่สุดในโซน ในความเห็นของผม โครงการนี้เหมาะทั้งการซื้ออยู่เองและลงทุนปล่อยเช่า เพราะราคาที่ถูก เริ่ม 1.49 ล้าน* ราคาเริ่มเพียง 65,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้น ซึ่งราคานี้ถือว่าต่ำกว่าราคาตลาดในทำเลนี้เยอะเลยครับ ซึ่งราคาตลาดปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 85,000 บาท/ตร.ม. ดังนั้นในแง่ของการลงทุนปล่อยเช่าถือว่าคุ้ม และโครงการนี้ก็ตอบโจทย์ ด้วย Yield 5% ต่อปี ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งทำเลสะพานใหม่เหมาะกับกลุ่ม First Jobber อยู่แล้ว ทำให้ Demand ของคนกลุ่มนี้มีค่อนข้างมากด้วยครับ แต่หากใครที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองก็เหมาะเช่นกันนะครับ ราคาคุ้ม สเปกดี และทำเลก็ยังเดินทางสะดวกอีกด้วย 

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1. ทำเล : ทำเลนี้ถือว่าเป็นทำเลที่รองรับการอยู่อาศัยของผู้คนที่ขยายตัวมาจากโซนลาดพร้าว รัชโยธิน และโซนสนามบินดอนเมือง และด้วยการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากเส้นสุขุมวิทนี้ ทำให้ทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามองของเหล่านักลงทุนมากยิ่งขึ้นด้วย ไม่ว่าจะอยู่เองหรือลงทุนปล่อยเช่าก็คุ้มครับ

2. ราคา : เริ่ม 1.49 ล้าน* โครงการให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted และส่วนกลางจัดเต็มด้วยสเปกที่หรูและพรีเมียมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Service Excellence ที่สามารถตอบโจทย์และแก้ Pain Point ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องที่ครบครัน นอกจากนี้ยังพิเศษด้วยบริการแม่บ้านระดับโรงแรม 1 ปี ผมมองว่าคุ้ม และถูกกว่าเช่าห้องอพาร์ทเม้นท์แน่นอนครับ

3. ส่วนกลาง : ส่วนกลางที่โครงการให้มา จากการ Redesign ทั้งหมดนั้น ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยครับ ครบทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีด้วยครับ

4. รูปแบบห้องและสเปก : เน้นพื้นที่ใช้สอยแบบ Full Area หรือสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มพื้นที่นั่นเองครับ ซึ่งรูปแบบห้องค่อนข้างกว้าง รวมถึงการที่มี Smart Walk-in Closet ถือว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีของเก็บเยอะๆ มากครับ

5. การลงทุน : การมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ประกอบกับศักยภาพของทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงสิ่งที่โครงการให้กับราคาที่ซื้อ ผมมองว่าคุ้มมากครับในเรื่องของการลงทุน ด้วยราคาที่คนรุ่นใหม่ วัย First Jobber สามารถจับต้องได้ ประกอบกับ Yield ที่มีผลตอบแทนต่อปีค่อนข้างดี ทำให้โครงการนี้น่าสนใจมากครับ

ใครสนใจโครงการสามารถลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์รับส่วนลด 200,000 บาท* ได้ที่ >> http://bit.ly/2lXT7no

 

 

 

 

โพสต์ไว้ที่: Review

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *