เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า
The Parkland Charan – Pinklao
รอมา 2 ปีในที่สุดโครงการ The Parkland จรัญฯ – ปิ่นเกล้า ก็สร้างเสร็จซะทีนะครับ ซึ่งตอนช่วงที่เปิดขายโครงการนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นโครงการนึงที่ขายดีบนทำเลที่ดุเดือด และมี Demand ไม่มากพอที่จะรองรับกับ Developr ที่ขยันกันมาลงขายพื้นที่นี่ แต่โครงการนี้ก็ยังครองตำแหน่ง ดึง demand ขายไปจนถึง 3 อาคารด้วยกันและแต่ละอาคารก็ประสบความสำเร็จเรื่องยอดขาย เพราะทีมงานผู้พัฒนาโครงการถือว่าวางแผนการขายมาดีครับ โดยวางจุดขายของแต่ละอาคารอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องราคาคุ้มค่าและตอบโจทย์ลูกค้า
พร้อมอยู่ พร้อมเปิดส่วนกลาง ติดรถไฟฟ้า วิวสะพานพระราม 8
เมื่อเร็วๆ นี้โครงการ The Parkland จรัญฯ – ปิ่นเกล้า พร้อมเปิดให้เข้าชมส่วนกลางและภาพรวมโครงการที่พร้อมจะให้ลูกค้าเข้าอยู่แล้วครับ โดยจุดขายของที่นี่ เด่นทั้งเรื่องของทำเล ที่ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สถานีบางยี่ขัน ใกล้แยกปิ่นเกล้า นอกจากทำเลก็เด่นเรื่องของส่วนกลางที่ทั้งใหญ่และเยอะ แถมมีความโดดเด่นอีกด้วย รวมไปถึงวิวสะพานพระราม 8 ที่ผมต้องยอมรับว่าสวยงามมากๆ ครับ เรามาดูกันต่อถึงความน่าสนใจของโครงการนี้กันดีกว่าครับ
จุดขายแตกต่าง ทำเล, Lifestyle, ส่วนกลางเน้นวิว
ต้องยอมรับว่าโครงการนี้ ทีมงานเขาปรึกษากันมาดี เพราะวางจุดขายของแต่ละโครงการไม่เหมือนกัน และตอบโจทย์ลูกค้าในคนละแบบ มาดูว่า 3 อาคารที่เขาวางการขายมาเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
อาคาร A : ขายทำเลและ 7-11
…อาคารนี้เปิดขายทีหลังสุด เพราะเป็นอาคารที่ติดถนนใหญ่มากที่สุด ใกล้ถนนหลัก และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน และใกล้แยกปิ่นเกล้า และความโดดเด่นอีกอย่าง คือ 7-11 ที่เปิดให้บริการที่อาคารนี้ครับ
อาคาร B : เน้นขาย Life Style
…อาคารนี้เปิดขายเป็นอาคารแรก เจาะคนรักสุขภาพ เพราะนำ Triple Floors Sport Facilities ที่เน้นการออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้งมาไว้ที่นี่ ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบออกกำลังให้มาอยู่ที่อาคารนี้ รวมไปถึงการที่เป็นอาคารที่อยู่ตรงกลางยิ่งได้เปรียบ เพราะเดินจากถนนหลักก็ไม่ไกล และไปใช้ส่วนกลางของอาคาร C ก็ใกล้เรียกว่าได้หลายต่อครับ
อาคาร C : ขายส่วนกลางและวิวสวย
…อาคาร C อาคารด้านในสุด ส่วนตัวผมมองว่าอาคารนี้ Work สุดด้วยครับ เพราะดูเป็นส่วนตัว และส่วนใหญ่ส่วนกลางจะอยู่ที่อาคารนี้ รวมไปถึง Sky Lounge ที่สามารถชมวิวได้ทั่วเมือง รวมไปถึงวิวที่สวยสุดบนย่านนี้คือ วิวสะพานพระราม 8 และเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยภาพรวมแล้ว ผมมองว่าทีมนี้เก่งนะครับ ขายจุดเด่นของแต่ละอาคารได้แตกต่างและชัดเจน จึงทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จในขณะที่ตลาดแทบนิ่งนั่นแหละครับ
เรามาดูกันต่อดีกว่าแล้วส่วนกลางของที่นี่ใหญ่และเยอะขนาดไหนมาดูกันครับ
ส่วนกลางใหญ่ ที่สุดบนย่านปิ่นเกล้า
เห็นเขาว่า ส่วนกลางของที่นี่ใหญ่ ที่สุดบนย่านปิ่นเกล้า เรามาดูกันครับว่าจะจริงหรือเปล่า?
ส่วนกลางของที่นี่ ต้องยอมรับเลยครับว่าทั้งใหญ่และโดดเด่น โดยโครงการนี้มีส่วนกลาง ดังนี้ครับ
สระใหญ่กว่า Half Olympic ยาว 50 เมตร มาพร้อมจากุซซี่ กับสระเด็ก
ชมวิวสะพานพระราม 8 360 องศา บน Roof Top Garden
Fitness 3 ชั้น มาพร้อม Yoga Fly, ซาวน่าแยก ชาย-หญิง
สวน Botanic ลงมาวิ่งได้ยามคํ่าคืน
และ Facilities อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Playground / Co-Working Space / Golf Simulator / Boxing Corner/ Double Sky Lounge / Mini Theatre/ Social Club/ Co-Working Space / Meeting Room
ซึ่งผมในฐานะคนที่เข้าไปชมโครงการมาแล้ว ต้องบอกเลยว่าส่วนกลางที่นี่เดินเหนื่อยเหมือนกับครับ เพราะเยอะ กว้าง และใหญ่มากครับ ส่วนตัวส่วนกลางที่ผมชอบ คือ Lobby ของอาคาร A, Triple Sport Facilities อาคาร B และ Sky Lounge และ Roof Top Garden ของอาคาร C ที่สวยและโดดเด่นมาก เห็นวิวเมืองได้โดยรอบเลยครับ
360 องศา View Point ของฝั่งธน
ขึ้นมาชั้น Roof Top Garden เพื่อมาดูวิวของโครงการซะหน่อยว่าเป็นอย่างไงบ้าง ผมชอบวิวที่นี่นะครับ มองออกไป 360 องศาเห็นวิวฝั่งธนแบบเต็มตามากครับ เรามาดูกันครับว่าแต่ละทิศเราจะเห็นวิวไหนกันบ้าง
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
วิวของทิศนี้มองออกไป เห็นวิวโล่งเป็นอาคารพาณิชย์ไม่สูงมากนัก เป็นวิวเมืองที่สบายตาครับ เพราะไม่มีตึกสูงมา Block วิว และยังแอบเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
ทิศตะวันออกเฉียงใต้
วิวของทิศนี้ ต้องบอกว่า คือ วิวที่ดีที่สุดของโครงการและย่านนี้ เพราะเป็นวิวที่เห็นสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นวิวที่ Developer หลายๆ เจ้าของที่นี่ก็ขายกัน แต่บอกเลยครับว่าที่นี่ วิวสะพานพระราม 8 เห็นจริง ยิ่งกลางคืนยิ่งสวย และยังเป็นตำแหน่งที่วางส่วนกลางอย่าง Sky Lounge และ Roof Top Garden เพื่อให้ลูกบ้านได้ชมวิวนี้กันอย่างเต็มที่ครับ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
วิวทางทิศนี้จะมองเห็นรถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขัน และถนนจรัญสนิทวงศ์ ใครที่ทำ Activity ของส่วนกลางอย่างว่ายน้ำบนสระว่ายน้ำ 50 เมตรอยู่ก็สามารถชมวิวรถไฟฟ้าได้ครับ ซึ่งวิวนี้ ส่วนตัวผมมองว่าก็ดีนะครับ ได้เห็นแสงสียามค่ำคืนเวลารถไฟฟ้าวิ่งผ่านด้วยครับ และนี่แหละครับที่ผมมองว่าเป็น 360 องศา View Point ของฝั่งธน เพราะมองไปทางทิศไหนก็ได้เห็นความเป็นฝั่งธนได้เต็มตาและได้เห็นถึงความเจริญของย่านนี้ด้วยครับ
ดูส่วนกลางไปแล้ว เรามาดูกันต่อครับว่าแล้วห้องของที่นี่ มีกี่รูปแบบ? ลักษณะห้องเป็นแบบไหน?
6 แบบห้อง ฟังก์ชันตอบโจทย์ เป็นสัดส่วน
ห้องตัวอย่างของที่นี่ จะมีทั้งหมด 6 ห้องครับ ผมขอพูดสรุปจุดเด่นของแต่ละห้องคร่าวๆ นะครับ
แบบที่ 1 : ห้องนอนใหญ่ ครัวเป็นสัดส่วน
ห้องนี้เป็นห้องรูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.5 ตร.ม. ฟังก์ชันห้อง ครัวแบ่งเป็นสัดส่วน ห้องนอนใหญ่ และมีตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet
แบบที่ 2 : 1 ห้องนอน แถมห้องอเนกประสงค์
ห้องนี้จะเป็นรูปแบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 34.5 ตร.ม. เป็นห้องที่ขายดีที่สุดในโครงการและจะแตกต่างจากห้องรูปแบบ 1 เพราะว่าเป็น 1 ห้องนอนที่มาพร้อม 1 ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็น 1 ห้องนอนเล็กใส่ Day bed เข้าไป หรือว่าจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องถ่ายภาพ ตามต้องการ พูดง่ายๆ คือ เพิ่มพื้นที่ Multi-Function ได้ตามต้องการเลยครับ ส่วนตัวผมว่าห้องนี้ผมก็ชอบนะครับ ดูใช้งานได้หลายฟังก์ชัน
แบบที่ 3 : จัดเต็มเรื่องการนอน
ห้องนี้เป็นห้องรูปแบบ 1 นอน ขนาด 30 ตร.ม. โดยเน้นห้องนอนใหญ่ ดูโปร่งสบายไม่แคบ ใครรักการนอน ผมว่าห้องนี้ตอบโจทย์มากครับ
แบบที่ 4 : พื้นที่ Living Room กว้าง เน้นพื้นที่ส่วนตัว
ห้องนี้เป็นรูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. มีระยะดู TV ยาวไม่อึดอัด ทำให้พื้นที่ Living Room กว้าง ครัวใหญ่เป็นสัดส่วน และมีพื้นที่ส่วนตัว เพราะมีที่กั้นทึบเป็นสัดส่วนระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น
แบบที่ 5 : 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่ลงตัว
รูปแบบห้องนี้เป็นรูปแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 47 ตร.ม. เป็น 2 ห้องนอนขนาดพอดี สามารถอยู่เป็นครอบครัวได้ไม่อึดอัด ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ Walk-in Closet
แบบที่ 6 : 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ Living Room ใหญ่
ห้องสุดท้าย รูปแบบห้องนี้ เป็นรูปแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 63.5 ตร.ม. ครัวกับ Living Room กั้นด้วยกระจก ทำให้ห้องดูโปร่ง และ Living Room มีขนาดใหญ่ เหมาะกับครอบครัวใหญ่ อยู่อาศัยได้สบายครับ
ส่วนตัวผมชอบรูปแบบห้องของที่นี่เกือบหมดครับ เพราะมีหลายแบบ แตกต่างกันแล้วแต่ตอบโจทย์ลูกค้าประเภทไหนกันบ้างครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และกลุ่มลูกค้าด้วยครับ แล้วโครงการนี้เหมาะซื้ออยู่เองหรือลงทุน มาดูกันต่อครับ
คอนโดน่าซื้อ จะอยู่เองหรือลงทุนก็คุ้ม
สิ่งที่ต้องยอมรับ คือ โครงการนี้เป็นโครงการนึงที่น่าซื้อ เพราะส่วนตัวผมชอบใช้ชีวิตกับส่วนกลาง บนทำเลที่เดินทางเข้า-ออกเมืองง่าย ซึ่งโครงการนี้ต้องบอกว่าตอบโจทย์การซื้ออยู่เองค่อนข้างมาก ในส่วนของการลงทุน Yield ของทำเลนี้จะอยู่ประมาณ 4-5% ซึ่งถือว่าดีพอใช้ เพราะตัวเลือกของทำเลนี้ค่อนข้างเยอะ ทำให้ต้องแชร์กันไปครับ แต่ผมเชื่อว่าที่นี่จะทำให้ Yield ได้สูงกว่า เพราะมีจุดดึงดูดหลายอย่าง และราคาที่คุ้มค่า ลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนคุ้มแน่นอนครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1.ทำเล : ดีมีศักยภาพบนย่านปิ่นเกล้าครับ เพราะใกล้ถนนหลัก ใกล้รถไฟฟ้า สถานีบางยี่ขัน และใกล้แยกปิ่นเกล้า รวมไปถึงใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันเลยครับ
2.ราคา : เริ่ม 2.01 ล้าน* เงินจองและทำสัญญาถูกครับ 1 ห้องนอน จอง 5,000 บาท ทำสัญญา 5,000 บาท 2 ห้อง
นอน 5,000 บาท ทำสัญญา 10,000 บาท และยังได้รับส่วนลดสูงสุดกว่า 700,000 บาท* ผมว่าคุ้มมากครับ
3.ส่วนกลาง : ส่วนกลางของที่นี่ผมให้เป็น Number 1 สำหรับผมเลยครับ เพราะใหญ่และฟังก์ชันเยอะ พร้อมใช้งานทุกพื้นที่ และใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกเพศทุกวัยครับ
4.รูปแบบห้องและสเปก : ผมชอบตรงที่ออกแบบห้องมาหลากหลายแบบ เพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม เพราะไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคนี้ซับซ้อนครับ ความต้องการแตกต่าง แต่ที่นี่ก็มีให้เลือกแบบครบอยู่มากครับ
5.การลงทุน : เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและการปล่อยเช่าลงทุน ถ้าพูดถึงการอยู่อาศัยที่นี่มีให้ครบทั้งห้องที่ออกแบบฟังก์ชันมาให้ใช้งานได้ครบ,ส่วนกลางที่ใหญ่และเยอะ รวมถึงทำเลที่ดี เดินทางสะดวก ส่วนเรื่องของการลงทุน Yiled ดีพอใช้ 4-5% ผมมองว่าโครงการนี้เป็นนึงโครงการที่น่าซื้อของย่านนี้นะครับ ดูจากการตอบรับตอนขายของลูกค้าโซนนี้แล้ว พอสร้างเสร็จปล่อยต่อผมว่าไม่ได้ยากครับ
ใครสนใจโครงการลองเข้าไปเยี่ยมชมโครงการได้นะครับ หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://bit.ly/2E2F4Ct