THE PRIVACY S101
LIVE SUKHUMVIT MOMENT
…หลังจากประสบความสำเร็จสร้างยอดขายและภาพลักษณ์ของแบรนด์ “THE PRIVACY” ด้วยการเปิดโครงการ “THE PRIVACY JATUJAK” เมื่อปีที่แล้ว วันนี้ทีมผู้พัฒนาโครงการนี้ กลับมาเพื่อสานต่อความสำเร็จอีกครั้งกับโครงการใหม่บนทำเล Hub Lifestyle อย่าง “ปุณณวิถี” (สุขุมวิท 101) ด้วยโครงการ “THE PRIVACY S101” ที่เป็นทำเลน่าสนใจอยู่ในตอนนี้ครับ จะเห็นได้จากทั้งโครงการหรืออาคารสำนักงานใหญ่ก็ไปเปิดตัวตรงทำเลนี้ อย่าง True Digital Park ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งแรกในไทยและแห่งเดียวที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้ครบจบในที่เดียว ลงตัวทั้งทำงานและใช้ชีวิตก็มาเช่นกันครับ และด้วยเหตุผลนึง คือ ทำเลเอกมัย-ทองหล่อ ที่เป็นทำเลน่าสนใจมาตลอด ราคาขายและค่าเช่าแพงขึ้น พฤติกรรมลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนความคิดลองขยับมา 4-5 สถานี แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายลงทำให้ทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามอง เรามาดูกันครับว่าโครงการ “THE PRIVACY S101” มีอะไรน่าสนใจบ้างกันครับ?
“สุขุมวิท 101 ” ทำเล Hub Lifestyle ใกล้ BTS ปุณณวิถี 450 เมตร
โครงการ “THE PRIVACY S101” เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใน ซ.สุขุมวิท 101 ครับ โดยใกล้รถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี 450 เมตร ซึ่งทำเล สุขุมวิท 101 ผมมองว่าเป็น Hub Lifestyle ของคนในย่านสุขุมวิท เพราะใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและหลากหลาย รวมถึงการเดินทางที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นรถไฟฟ้าสายหลักของคนเมือง รวมถึงใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ตรงสุขุมวิท 62 หรือ สุขุมวิท 50 ทำเลตรงนี้จึงมีมูลค่ามากครับ โดยเฉพาะดีมานด์ของคนเช่า, Expat รวมถึงคนที่ต้องการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายด้วยครับ ดังนั้น ทำเลโครงการนี้จึงมีความน่าสนใจ เรามาดูสรุปจุดเด่นของทำเลโครงการนี้กันครับ
จุดเด่นทำเล
◼️ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี 450 เมตร
◼️ 4 สถานีถึงเอกมัย 5 สถานีถึงทองหล่อ
◼️ เดินทางสะดวก เชื่อมต่อหลายเส้นทาง ถนนสุขุมวิท, ถนนพระราม 4 และถนนบางนา-ตราด และมีเส้นทางลัดทะลุ ซ.สุขุมวิท 62 และซ.สุขุมวิท 103
◼️ ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี และเฉลิมมหานคร
◼️ ใกล้โรงเรียนนานาชาติ เช่น Wells Intl. School, Anglo Singapore Intl. School, Bangkok Prep School และ Ekkamai Intl. School เป็นต้น
◼️ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง เช่น Bangkok Mall, Central City Bangna, Onnut Hills, Century, Gateway Ekkamai, Donki Mall, Park Lane, Arena 10, The Commons, J-Avenue, Rain Hill, Lotus, Big C และ Major Cineplex
◼️ ใกล้ True Digital Park ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
◼️ ใกล้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เช่น DKSH และ Science Center
◼️ ใกล้ Bitec Bangna ศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าขนาด 70,000 ตารางเมตร
โครงการนี้ ส่วนตัวผมมองว่า ทำเลเป็นทำเลดั้งเดิมที่มีดีมานด์ที่จะพักอาศัยและเช่าอยู่ค่อนข้างมากอยู่แล้วครับ ยิ่งเรื่องเช่าผมมองว่าได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ รวมถึงผู้ปกครองที่มาซื้อไว้ให้ลูกเพื่อเรียนโรงเรียนนานาชาติ เพราะเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกและอยู่ในเมือง รวมถึงการกินอยู่อุดมสมบูรณ์ ทำเลของโครงการนี้จึงเป็นหนึ่งในจุดเด่นแรกที่ผมขอพูดถึงครับ เรามาดูจุดเด่นในข้อต่อไปกันเลยครับ
“THE PRIVACY S101” คอนโดใหม่ สไตล์ Modern Contemporary โดดเด่นด้วย Pocket Garden
นอกจากจุดเด่นเรื่องของทำเลโครงการแล้ว สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งข้อของโครงการนี้ คือ “Design” ครับ โครงการนี้มีรูปแบบดีไซน์สไตล์ Modern Contemporary เป็นการผสมผสานแนวการตกแต่งของสไตล์ Classic และสไตล์ Modern เข้าด้วยกัน และที่ผมมองว่าพิเศษในเรื่องของดีไซน์ คือ “Pocket Garden” ที่มีเฉพาะบางยูนิต ที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติมีต้นไม้หน้าห้องครับ และทางโครงการยังมีต้นไม้ของโครงการที่สูง 3 เมตร ทำให้มีบางห้องบางตำแหน่ง จะเหมือนมีสวนอยู่หน้าห้องอีกด้วยนะครับ โดยโครงการ “THE PRIVACY S101” เป็นคอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร (A และ B) จำนวนยูนิตน้อย 394 ยูนิต โดย 2 อาคารจะมีรูปแบบ “Dynamic Creative Space” ซึ่งเชื่อมต่อกันอย่างต่อเนื่องด้วยส่วนกลางตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 3 และชั้น Rooftop ส่วนที่จอดรถ 42% ครับ ในส่วนนี้เราก็รู้จุดเด่นของโครงการเรื่องรูปแบบโครงการกันไปแล้วนะครับ เรามาดูจุดเด่นข้ออื่นกันต่อดีกว่าครับ
ส่วนกลางจัดเต็ม มีครบทุกฟังก์ชัน เน้น Green Space
และจุดเด่นของโครงการนี้ที่ผมต้องขอพูดถึง เพราะผมเชื่อว่าโครงการและทีมผู้พัฒนาคิดมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอยู่อาศัยแบบใส่ใจ ด้วยการเน้น Green Space และให้ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วย “ส่วนกลาง” ของโครงการนี้ และในส่วนกลางยังมีระบบ Air+ System เพื่อฟอกอากาศบริสุทธิ์ นอกจากได้พักผ่อนแล้วยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วยนะครับ เรามาดูกันครับว่า ส่วนกลางของโครงการนี้มีอะไรกันบ้าง?
VERTICAL GREEN SPACE : พื้นที่ส่วนกลาง (ชั้น 2-8) เป็นช่องแสง Skyline ที่ลูกค้าสามารถชมวิวสวนแนวตั้งตามช่องแสงธรรมชาติก่อนกลับเข้าห้องเพื่อพักผ่อนได้ครับ
LOBBY LOUNGE : โซนล็อบบี้อาคาร A ความสูง 3.6 เมตร ซึ่งสูงกว่าปกติ ทำให้ล็อบบี้ดูโปร่งและโล่ง น่านั่ง ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนและให้เพื่อนและญาติมานั่งรอได้ครับ ภายในยังมีระบบ Air+ System ที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้เราอีกด้วยครับ
CO-CREATIVE SPACE : พื้นที่ส่วนกลาง Co-Working Space ที่เราสามารถนั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือประชุมได้ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางบริเวณนี้จะเปิดใช้งาน 24 ชม. รวมถึงมีระบบ Air+ System ที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้เราอีกด้วยครับ
RELAXING SPACE : พื้นที่เดินทางเชื่อมระหว่างทางอาคาร A ไปยังอาคาร B พื้นที่ส่วนกลางบริเวณนี้ผมค่อนข้างชอบนะครับ เพราะจะมี Waterfall ทำให้ได้ยินเสียงน้ำตกระหว่างเดินผ่านช่วยให้เราเพลิดเพลินและรู้สึกเย็นสบายครับ
CONNECTING LOUNGE : โซนล็อบบี้อาคาร B ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนและให้เพื่อนและญาติมานั่งรอได้ครับ ภายในยังมีระบบ Air+ System ที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้เราเช่นกันครับ
THE POOL : สระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่เชื่อมต่อเนื่องกันไปยัง WORKOUT SPACE & YOGA FLY
WORKOUT SPACE & YOGA FLY : พื้นที่ส่วนกลางที่ให้เราได้ออกกำลังกายได้ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว ด้วยอุปกรณ์ที่ผมมองว่าครบทั้ง Weight Training และ Cardio นอกจากนั้นห้องนี้ยังมีระบบ Air+ System ที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์เมื่อออกกำลังกายด้วยครับ
ENDLESS POOL : การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ น้ำทวนกระแส เป็นพื้นที่พิเศษ
FUNCTIONAL TRAINING : พื้นที่ส่วนกลางสำหรับออกกำลังกายอยู่ชั้น Rooftop โดยมี Step สำหรับการออกกำลังกายเดินขึ้นลงให้สามารถเบิร์นร่างกายได้ลด Calorie ได้เยอะครับ
SKY JOGGING TRACK & SKY GARDEN : พื้นที่ส่วนกลางชั้น Rooftop เป็นพื้นที่สวน สามารถนั่งเล่นและมีลู่วิ่งให้สำหรับการออกกำลังกายด้วยครับ
และนอกจากส่วนกลางที่ผมได้พูดถึงไปแล้ว โครงการนี้ยังมีส่วนกลาง Smart Locker ด้วยครับ และนี่ก็เป็นส่วนกลางของโครงการ THE PRIVACY S101 ทั้งหมดนะครับ เห็นไหมครับว่าโครงการนี้ให้ส่วนกลางมาแบบจัดเต็มและตอบโจทย์การใช้ชีวิตครับ ด้วยพื้นที่ Green Space ส่วนต่อไปเรามาดูรูปแบบห้องของที่นี่กันบ้างดีกว่าครับว่ามีห้องแบบไหนบ้าง?
รูปแบบห้องฟังก์ชันครบ Rare Item ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
โครงการจะมีรูปแบบห้องอยู่ 3 รูปแบบ โดยมี
◼️ ห้องรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.00 – 29.10 ตร.ม. โดยมีแบบปกติและแบบ Layout พิเศษ
◼️ 1 Bed Plus ขนาด 35.29 – 35.55 ตร.ม. และ
◼️ Combined Units (Optional) ขนาด 54.40 – 57.50 ตร.ม.
ความสูงฝ้าเพดานของโครงการจะอยู่ที่ 2.5 เมตรครับ โครงการขายแบบ Fully Furnished และห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจะมีให้ชมจะมี 2 แบบ คือ ห้องรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.12 ตร.ม. และห้องรูปแบบ 1 Bed plus ขนาด 35.55 ตร.ม. เรามาดูรูปแบบห้องแต่ละแบบกันนะครับว่ามีรูปแบบและความน่าสนใจตรงไหนกันบ้าง
1 Bedroom ขนาด 26.12 ตร.ม.
ฟังก์ชันครบ ครัวปิด
เรามาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างห้องแรกกันเลยครับ ห้องนี้จะเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 26.12 ตร.ม. พื้นที่ห้องแบ่งกั้นเป็นสัดส่วนและมีฟังก์ชันครบเรื่องของการอยู่อาศัยครับ เข้ามาจะเจอพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดมาเจอโซน Dining นั่งทานอาหารครับ และเข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน ซึ่งมีบานเลื่อนกั้นห้องให้ กระจกภายในห้องเกือบ Full Height ชมวิวได้เต็มทัศนียภาพครับ ตู้เสื้อผ้าโครงการ Built-in ให้ครับ แต่ไม่ได้เหมือนห้องตัวอย่าง จะเป็นหน้าบานฝั่งนึงเป็นกระจกอีกด้านจะเป็นแบบทึบ และที่ผมว่าโครงการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า คือ การเพิ่มช่องตรงตู้เสื้อผ้า ไว้สำหรับวางมือถือไว้ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ ทางด้านซ้ายมือของห้องจะเป็นครัวและห้องน้ำ ซึ่งครัวจะเป็นแบบครัวปิด มีบานเลื่อนกั้นโซน เมื่อเดินเข้ามาโซนนี้ ทางด้านขวาจะเป็นชุดครัวของ FRANKE ส่วน Top ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ และ Built-in ตู้ชั้นวางของให้ครบ มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ด้วยนะครับ ซึ่งจะมีพื้นที่ว่างตรงบริเวณด้านขวาของครัว ทางโครงการเลยทำ Idea ให้เป็นตู้ใส่ของครับ และถัดมาหน่อยจะเป็นระเบียง ซึ่งผมชอบครัวปิดทีอยู่ตรงระเบียง ผมมองว่าระบายอากาศได้ดีครับ ส่วนทางด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำยี่ห้อ Cotto มี Shower Screen ให้กระจกแบบนิรภัย ส่วนกระจกภายในห้องน้ำจะได้แบบห้องตัวอย่าง ยกเว้นขอบกระจกจากสีทองเป็นสีดำครับ
ส่วนตัวผมมองว่าห้องนี้มีฟังก์ชันครบ และแบ่งเป็นสัดส่วน เหมาะสำหรับคนที่อยู่ 1-2 คน และชอบความเป็นส่วนตัวไม่ค่อยพาใครขึ้นมาบนห้องครับ เราต่อกันที่ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันเลยครับ ซึ่งห้องนี้จะมีให้ชมที่ชั้น 2 ของสำนักงานขายโครงการนะครับ
1 Bedroom Plus ขนาด 35.55 ตร.ม.
รูปแบบห้อง Co-Working Space Function
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 จะเป็นห้องรูปแบบ 1 Bed Plus ในรูปแบบ Co-Working Space Function ซึ่งจริงจริงรูปแบบ 1 Bed Plus ของโครงการจะมี 2 รูปแบบฟังก์ชัน คือ 2 Bedroom Function และ Co-Working Space Function โดยทางโครงการเลือกแบบหลังมานำเสนอ ซึ่งผมว่าดีนะครับ เพราะเป็นการเสนอไอเดียอีกรูปแบบนึงของห้อง 1 Bed Plus ที่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องนอน 2 ห้อง แต่ห้องนอนเป็นแบบห้องเล็ก ทำให้ใช้พื้นที่ไม่เต็มที่ ซึ่งรูปแบบที่ทางโครงการนำเสนอผมว่าลงตัว เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าห้องตัวอย่างที่ 2 นี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
เมื่อเดินเข้ามาที่ห้องตัวอย่าง เราจะเจอพื้นที่ Co-Working Space ก่อนครับ เป็นโต๊ะที่เราสามารถมานั่งทำงาน นั่งทานอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆ ได้หมดครับ ทางด้านหน้าทางเข้าซ้ายมือจะเป็นครัวและห้องนั่งเล่น ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนครับ เราเริ่มจากทางด้านขวามือก่อนนะครับ ห้องนอน สเปกต่างๆ เหมือนห้องตัวอย่างแรกเลยครับ ส่วนห้องน้ำ สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือ จากห้อง Master Bedroom และด้านนอกตรง Co-Working Space มาต่อกันที่ทางด้านซ้ายมือกันบ้างครับ ครัวของห้องนี้จะเป็นฟังก์ชันแบบปิดแต่ครัวเป็นรูปแบบ L-Shape มีบานเลื่อนกั้นห้องให้เป็นสัดส่วน เมื่อเดินตรงมาพื้นที่บริเวณนี้จะเจอตรงกลางที่เป็นพื้นที่ที่ทางโครงการทำ built-in ตู้ไว้ให้สำหรับการวางเครื่องซักผ้าและทางด้านขวามือจะเจอเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งมีพื้นที่กว้างและดูเป็นส่วนตัวดีครับ ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบรูปแบบห้องนี้นะครับ ดูเป็นฟังก์ชันที่เหมือนอยู่ห้อง 2 ห้องนอนดีครับ มาต่อที่รูปแบบอื่นๆ ที่ทางโครงการไม่ได้ทำห้องตัวอย่างแต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเช่นกันครับ
1 Bedroom ขนาด 26.00 – 29.10 ตร.ม.
รูปแบบห้อง 1 Bedroom แบบ Special Layout
รูปแบบห้องนี้จะเป็นรูปแบบห้อง 1 Bedroom แบบ Special Layout โครงการมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้ครบ
POCKET GARDEN UNIT
รูปแบบห้องที่มีต้นไม้อยู่หน้าห้อง เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติและความเขียว ตื่นขึ้นมาสดชื่นด้วยต้นไม้ครับ เหมาะมากมากครับ ซึ่งห้องรูปแบบนี้ไม่ได้มีทุกห้อง มีเฉพาะบางห้องบางยูนิตเท่านั้นนะครับ
OPEN BALCONY UNIT
ห้องรูปแบบนี้จะพิเศษตรงที่มีพื้นที่เพิ่มในส่วนของระเบียงและเป็นหัวมุมของห้อง ทำให้มีความเป็นส่วนตัว สามารถใช้พื้นที่ BALCONY ได้อย่างเต็มที่ครับ
1 BED 30 SQ.M. UNIT (WALK-IN CLOSET)
ห้องนี้จะมีจำนวนจำกัดด้วยนะครับ คือ มี 7 ยูนิตเท่านั้น ชั้นละ 1 ยูนิต โดยความพิเศษของห้องนี้ คือ ตู้เสื้อผ้าใหญ่กว่าห้องปกติ และอยู่ในห้องนอน ซึ่งทางโครงการแบ่งกันโซนมาอย่างดีครับ
GLASS CORNER UNIT
ห้องนี้จะเป็นห้องมุม ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวและส่วนใหญ่เป็นรูปแบบห้องที่หลายคนชอบครับ และความพิเศษของห้องนี้ คือ กระจกห้องมุม เพื่อรับวิวได้เต็มสายตาอีกด้วยครับ
เรามาต่อที่รูปแบบห้องสุดท้ายของโครงการนี้กันครับ รูปแบบห้องนี้จะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบห้องที่พื้นที่ใหญ่ รูปแบบที่พูดถึง คือ “COMBINED UNIT” มาดูกันครับว่าห้องนี้เป็นรูปแบบไหน
COMBINED UNIT ขนาด 54.40 – 57.70 ตร.ม.
ห้องทางเลือก สำหรับครอบครัวใหญ่
ห้องรูปแบบนี้จะเป็นห้อง Combined ที่ทางโครงการได้จัดไว้สำหรับเป็นทางเลือกครอบครัวใหญ่ โดยมีระบุตำแหน่งของห้องรูปแบบนี้ไว้เลยนะครับ ไม่สามารถเลือกตำแหน่งนอกเหนือจากนี้ได้ ซึ่งมีจำนวนจำกัด 7 ตำแหน่งเท่านั้นครับ วิวดีเลยครับ เพราะเป็นตำแหน่งที่เห็นส่วนกลางตรงทั้งหมด มีทั้งตำแหน่งห้องมุม และห้องตรงกลางครับ รูปแบบห้องนี้ จะมีข้อดีคือ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำครับ Walk-in Closet ใหญ่ และมี 1 ห้องอเนกประสงค์
และนี้ก็เป็นรูปแบบห้องของโครงการ “THE PRIVACY S101” ทั้งหมดครับ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าทางโครงการได้คิดมาเพื่อตอบโจทย์คนหลากหลายกลุ่มและหลากหลายความต้องการครับ ใครชอบรูปแบบห้องแบบไหนลองดูได้นะครับ ผมว่ารูปแบบห้องมีให้เลือกครบตามต้องการ ทั้งหมดที่ผมได้พูดมาก็คือ จุดเด่นของโครงการนี้ทั้งหมดครับ เรามาดูกันต่อดีกว่าครับว่าโครงการนี้เหมาะกับใครบ้าง
ในความเห็นของผม โครงการนี้เหมาะทั้งซื้ออยู่เองและลงทุนปล่อยเช่า เพราะราคาเริ่ม 2.49 ล้าน* (เริ่มเพียง 95,769 บาท/ตร.ม.) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาดในโซนนี้ไม่รวมคอนโดที่สร้างมานานแล้วนะครับ ราคาเฉลี่ยของโครงการอยู่ที่ 104,000 บาท/ตร.ม. เดินทางก็สะดวกครับ เพราะใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน เหมาะทั้งคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่มีก็ได้ครับในเรื่องของการลงทุนปล่อยเช่าโครงการนี้ก็ตอบโจทย์ ด้วย Yield 5-6% ที่ผมมองว่าน่าสนใจ อีกทั้งยังมีดีมานด์ของคนเช่าเยอะ ทั้งกลุ่มพนักงานบริษัทที่ทำงานบริเวณนี้, กลุ่มชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย (EXPAT), พ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเช่าให้ลูกอยู่ หรือซื้อเพื่อเป็นสินทรัพย์ในอนาคตได้อีกด้วยครับ
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1.ทำเล :ทำเลดีมีศักยภาพ ใกล้ถนนสุขุมวิท 450 เมตร ใกล้รถไฟฟ้าสถานีปุณวิถี ซึ่งเป็๋นรถไฟฟ้าสายหลักของคนเมือง รวมถึงเดินทางได้สะดวกใกล้ทางด่วนและมีเส้นทางเชื่อมต่อหลายเส้นทาง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและมีความหลากหลายมากครับ
2.ราคา : ราคาคุ้ม เริ่ม 2.49 ล้าน* ได้ Fully Furnished ซึ่งผมมองว่าข้อดีของโครงการนี้คือคอนโดที่ให้ความเป็นส่วนตัว บนทำเลเมืองอย่างสุขุมวิท และจัดเต็มด้วยส่วนกลางในราคานี้ผมว่าก็เป็นโครงการนึงที่น่าสนใจครับ
3.ส่วนกลาง :ส่วนกลางของโครงการนี้ ผมว่าเค้ามาแบบจัดเต็มและมีครบทุกฟังก์ชัน รวมทุกส่วนกลางที่ใช้งานได้จริงและดีมาไว้ด้วยกันครับ ซึ่งส่วนกลางที่ผมชอบ คือ ส่วนกลางที่มีระบบ Air+ System ทั้งหมด 4 โซน ไม่ว่าจะเป็นห้อง LOBBY LOUNGE, CONNECTING LOUNGE, CO-CREATIVE SPACE และ WORKOUT SPACE & YOGA FLY ผมมองว่าเป็นเทคโนโลยีการอยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของลูกค้าด้วยครับ และที่ผมพูดมาตลอดคือ การที่โครงการมีส่วนกลางที่เป็น Dynamic เชื่อมต่อกันทั้งอาคาร A และ B รวมถึง Waterfall เสียงน้ำตกที่จะช่วยบำบัดความเครียดได้ด้วยครับ
4.รูปแบบห้องและสเปก :รูปแบบห้องฟังก์ชันครบและลงตัว มีพื้นที่ใช้สอยแบบ Full Area หรือสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มพื้นที่ รวมถึงมีให้เลือกได้หลายรูปแบบ ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายกลุ่ม ส่วนสเปกที่โครงการให้มาก็ดีครับ
5.การลงทุน : ในเรื่องของการซื้อโครงการนี้ ผมมองว่า โครงการนี้เหมาะกับทั้งซื้ออยู่เองและปล่อยเช่า เพราะด้วยทำเลที่ดี มีศักยภาพ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้ชีวิตการเป็นอยู่สมบูรณ์ รวมถึงสิ่งที่โครงการให้กับราคาที่ซื้อ ผมมองว่าคุ้มมากครับ ในเรื่องของการลงทุนด้วยราคาที่จับต้องได้และ Yield ที่มีผลตอบแทนดี ผมว่าโครงการนี้ก็เป็นอีกนึงโครงการที่น่าสนใจนะครับ
หากใครสนใจ โครงการเตรียมเปิดชมห้องตัวอย่างครั้งแรก พร้อมเปิดจองเป็นรอบพิเศษ ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ นะครับ
สนใจลงทะเบียนได้ที่ >> http://bit.ly/2P8Nels