เดอะ ไพรเวซี่ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์
The Privacy Taopoon Interchange
กลับมาอีกครั้งของแบรนด์ The Privacy ที่ชอบทำให้ผมเซอร์ไพรส์ทุกที ตั้งแต่ปีแล้ว ที่อยู่ดีดีแบรนด์นี้ก็ปรับภาพลักษณ์ขึ้นมาใหม่ให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น กับโครงการ The Privacy จตุจักร บนทำเล 5 แยกลาดพร้าว และในปีนี้ก็เปิดตัวโครงการมาได้ดีของโครงการ The Privacy เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ แค่ผมเห็นภาพขายก็รู้สึกว่าน่าสนใจแล้ว เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้น่าสนใจยังไง?
ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ The Privacy
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางพฤกษาได้ยกระดับแบรนด์ The Privacy จากแรกเริ่มที่เป็นคอนโด Low rise ทำเลในซอย สู่คอนโด High Rise ทำเลติดรถไฟฟ้า ทั้ง The Privacy ท่าพระ ที่จะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณต้นปีหน้า และ The Privacy จตุจักร ที่เปิดตัวไปปลายปีที่แล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นตัวที่ผมประทับใจการยกสเปก Luxury มาในทำเล 5 แยกลาดพร้าว แถมจัดเต็มทั้งสิ่งที่ให้ในห้อง ส่วนกลางไปจนถึงเทคโนโลยี
ซึ่งโครงการถัดมา ก็คือ The Privacy เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ แห่งนี้ คำถามแรกก่อนที่ผมจะมาดูโครงการเลยก็คือ แล้วโครงการนี้สเปกจะเป็นอย่างไร เพราะแน่นอนว่าด้วยทำเล ด้วยราคา ต้องมาในแบบฉบับสบายกระเป๋า มากกว่าโครงการก่อนหน้าแน่นอน แต่จะจัดให้เต็มคุ้มหรือเกินราคาหรือป่าว อันนี้น่าติดตามครับ
ทำเล “เตาปูน” ทำเลศักยภาพย่านเตาปูน-บางซื่อ
เตาปูนมีอะไร? ยังจะมาอีกหรอทำเลนี้?
นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนถามแน่นอน เพราะเอาจริงๆ คอนโดแถวนี้มีเต็มไปหมด กับหลายโครงการก่อนหน้า ที่มาเกาะเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงมาเป็นเวลาหลายปีและหลายโครงการเสร็จพร้อมอยู่แล้วนั้น คำถามคือ ยังมีดีมานเหลืออยู่อีกหรอ? ส่วนตัวผมมองว่ามีครับ ทำเลนี้ต้องบอกว่าอาจไม่ใช่ทำเลหวือหวาเหมือนที่อื่น แต่ความคึกคักของประชากรในย่านก็ไม่น้อยเลย ทั้งผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมในพื้นที่ หรือพนักงานบริษัทในพื้นที่อย่าง SCG หรือบริษัทใกล้เคียง ก็เป็นเป้าหมายสำคัญของโครงการครับ ไหนจะมีเกตเวย์บางสื่อ ซึ่งมาพลิกโฉมย่านนี้ ให้มีแหล่งจับจ่ายใช้สอย ไม่น้อยไปกว่าใจกลางเมืองกรุงเทพ จากที่ลองไปเซอร์เวย์ดู คนเยอะทีเดียวนะครับ อีกทั้งรัฐสภาใหม่ และทำเลนี้ยังเข้า-ออกเมืองสะดวก 20 นาทีก็ถึงอารีย์
อีกส่วนสำคัญ คือรถไฟฟ้า ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะโครงการอยู่ใกล้ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ 500 เมตร ถึงไม่ติด แต่เดินได้ นั่งวินได้แน่นอน เป็นจุดเชื่อมและจุดเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้ใช้บริการแล้ว ทั้งการเข้ากรุงเทพชั้นในด้วยสายสีน้ำเงิน (2 สถานี ถึงตลาดนัดจตุจักร, 4 สถานีถึงเซ็นทรัล ลาดพร้าว) หรือการออกไปรอบนอกด้วยสายสีม่วง และที่สำคัญที่สุดห่างจาก บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ เพียง 1 สถานี ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพฝั่งเหนือไปเลยครับ
คอนเซ็ปท์แนวคิดใหม่กับ Tropical Luxury
การมาทีหลัง ก็ต้องมาแบบเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าสนใจ ทางโครงการจึงจัดเต็มในเรื่องของดีไซน์และคอนเซ็ปท์ ให้สามารถเข้าถึงความหรูหราสวยงาม ได้ในคอนโดราคาเริ่มไม่ถึง 2 ล้าน ซึ่งเขามาใน คอนเซ็ปท์ Tropical Luxury พูดง่ายๆ คือ เน้นความร่มรื่นป่าไม้ + ความหรูหราน่าอยู่ ซึ่งตัวอาคารนั้นได้ ออกแบบให้เหมือนเส้นกลีบดอกไม้ และการตกแต่งภายในเน้นความหรู ทั้งหินอ่อนธรรมชาติและการตกแต่งสีทอง มารวมกับใบไม้เขตร้อน ได้ฟิลลิ่งดีเหมือนไปคาเฟ่ชิคๆ หรือโรงแรมแนวใหม่น่าถ่ายรูป
ส่วนกลางจัดเต็ม Luxury ยกระดับแบรนด์ The Privacy
ความ Luxury คงไม่ได้มาแค่คอนเซ็ปท์หรือล็อบบี้ แต่ส่วนกลางที่นี่จัดเต็มความสวยและน่าใช้งาน เรียกว่ายก The Privacy จตุจักร มาไว้ในแบบฉบับเตาปูนเลย เราไปดูกันว่า แต่ละส่วนมีอะไรกันบ้าง?
ชั้น Ground
เข้ามาชมส่วนกลางของชั้น 1 จะมี Lobby อยู่ 2 โซน สำหรับลูกบ้านและ Guest (Lobby Lounge) บรรยากาศภายในเป็นแนว Tropical มีความเป็นธรรมชาติและมีสีทองที่เพิ่มความ Luxury มี Shop 1 ยูนิต และะมี Co-Working Space และ Meeting Room ห้องประชุมที่ใช้ Application เชื่อมต่อการใช้งาน
ชั้น 7
เป็นโซนของพื้นที่สวน มีที่นั่งแบบ Around Table และที่พิเศษ คือ Co-Kitchen ครัวส่วนกลางที่ทางโครงการมีจัดเตรียมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน รวมไปถึง TV On Demand ที่ให้ลูกบ้านสามารถช้บริการได้อีกด้วยในระหว่างทำอาหาร และโครงการนี้ยังใส่ใจเรื่องของการทำพืชสวนครัว โดยจัดเตรียมพื้นที่ Nano Garden ไว้ให้ปลูกพืชผักของลูกบ้านได้ครับ
ชั้น 35
ชั้นนี้จะมี Sky Pool สระว่ายน้ำและ Water Wall ที่ทางโครงการเรียกว่า “ม่านน้ำ” เป็นกิมมิคที่ตรงสระว่ายน้ำ รวมถึงมี Sky Lounge สามารถชมวิวได้เต็มตาครับ
ชั้น 36
ชั้นนี้จะเป็นชั้นของ Fitness เป็นห้องฟิตเนสที่ใหญ่และสามารถเทควิวได้
ชั้น Roof Top
ชั้นนี้จะเป็น Observation Terrace จุดชมวิวเมืองและที่นั่งพักชั้น Rooftop แถมยังมีกิมมิคที่นั่งพักแบบกรงนกด้วยครับ โครงการเขานำเสนอชื่อว่า Sky Pods รวมถึงพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งอย่าง Serene Yoga Lawn
และที่พิเศษของส่วนกลางที่นี่ จะมี ระบบ Fresh Air System ตรวจสอบสภาพอากาศในห้องส่วนกลางทั้งหมด ว่ามีค่า Co2 , ค่า VOC และสารระเหยต่างๆ ในอัตราปกติหรือไม่ โดยใช้ตัว Well Air จาก SCG เป็นตัว Censor ทำงานร่วมกับระบบกรองอากาศ ERV ทำให้อากาศในห้องส่วนกลาง เป็นอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดตลอด 24 ชม.
รูปแบบห้องและสเปกของโครงการ
อย่างที่บอกครับ การมาทีหลังไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การวางแผนต่างๆ ต้องดี ทางทีมนี้เขาเลยว่าแปลนห้องและสเปกมาในแบบที่แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ในราคานี้ เรียกว่าดีกว่าที่คิด โดยห้องโหมดหลักที่ขาย คือ 1 Bedroom ในแบบแปลนห้องตอนลึก ที่ขายดีมากในหลายๆ โครงการ เพราะแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้จริง และเป็นครัวปิดริมระเบียง ซึ่งโดนใจคนทำครัวมากๆ และห้องใหญ่ของเขาคือ 1 Bedroom Plus ที่แปลนออกแบบมาในอารมณ์ 2 Bedroom ของเจ้าอื่นๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้สเปกของที่ให้ในห้องเรียกว่าเกินคุ้ม เพราะทั้งครัว Top หิน Quartz ห้องน้ำสุขภัณฑ์ COTTO Floor to Ceiling 2.7 เมตร กระจกบานเลื่อน 3 สไลด์ และอีกหลายอย่างที่ออกแบบให้เป็นของโดทางเลือกใหม่ในพื้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี เราไปดูรายละเอียดกันเลยครับ
1 Bedroom 26.50 – 27.50 ตร.ม.
ตั้งแต่ทางเข้าห้อง จะมี Digital Door Lock ที่ใช้งานได้ 3 ระบบ คือ ระบบ Key Card, Scan รหัส และกุญแจ และที่พิเศษผมชอบ คือ การที่มี ชิป ไว้ติดด้านหลังโทรศัพท์ ในกรณีบัตรหายได้ด้วยครับ
ที่นี่จะให้แบบ Fully Fitted นะครับ โดยให้ Wall Paper (สีเทา) ครัวและส่วนที่ Built-in ชั้นวางของ โครงการยังให้ Backslash เป็นกระเบื้องเซรามิคสีรีม ขนาด 60X60 เพื่อป้องกันคราบสกปรก ทำความสะอาดง่าย รวมถึงเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Franke และแถมที่พักจานด้วย ส่วนระบบท่อดูดควันเป็นการทิ้งไปข้างนอก ซึ่งมีข้อดีคือไม่เป็นมลพิษภายในโครงการครับ ส่วนตัวผมชอบห้องน้ำของที่นี่นะครับ เพราะได้ Full Option หลายอย่าง มีช่องใส่ของด้านหลังกระจก Rain shower ใหญ่ ปรับระดับน้ำได้ 5 ระดับ และผนังยังเป็นพาสวูดกันน้ำ 100% ด้วยครับ สุดท้ายโครงการมีแถมตู้เสื้อผ้า Built-in ให้ด้วยนะครับ
1 Bedroom Plus 34.50 ตร.ม.
ห้องนี้ ผมชอบตรงที่ Layout จัดออกมาได้ลงตัวและ ครัวเป็นแบบปิดกั้นด้วยกระจก ครัวเป็นแบบ L-Shape ยิ่งทำให้พื้นที่จัดสรรง่ายต่อการใช้งาน มีพื้นที่วางเรื่องซักผ้าและยังทำเป็นชั้นวางของได้ใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยครับ
ห้องนี้ส่วนตัวผมมองว่าลงตัวนะครับ แล้วพื้นที่ห้องก็ใหญ่ การจัดวางรูปแบบครบทุกฟังก์ชัน และสามารถใช้พื้นที่ได้ทุกตารางนิ้วด้วยครับ ถือว่าโครงการก็ศึกษามาดีที่จะทำรูปแบบห้องให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า
Smart Life เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ
ตั้งแต่ The Privacy จตุจักร (ขอพูดถึงเยอะหน่อย เนื่องจากชอบจริงๆ) เราได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามายกระดับแบรนด์ The Privacy ได้อย่างไม่น่าเชื่อกับความเป็นคอนโดพฤกษา ซึ่งสำหรับที่เตาปูนนี้ เขาก็ยกมาเหมือนกันเลยครับ และจุดนี้แหละที่ผมว่า จะเป็นทางเลือกที่แตกต่าง จากโครงการก่อนหน้า เพราะมาทีหลังนวัตกรรมย่อมล้ำกว่าตามกาลเวลา ไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรให้บ้าง?
◼️ Smart Access : สามารถเปิดประตู Lobby เพื่อขึ้นอาคาร และ ส่วนกลาง ผ่านทาง Pruksa Application
◼️ Smart Home / Home Automation : ระบบควบคุมไฟ / แอร์ / ทีวี / ปลั๊ก ผ่านทาง Pruksa Application
◼️ Smart Locker : ตู้ฝากพัสดุอัตโนมัติ ให้ลูกบ้านสามารถรับพัสดุต่างๆ ได้ตลอด 24 ชม.
◼️ EV Charger : รองรับผู้ใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า
◼️ Facilities Reservation System : ลูกบ้านสามารถจองห้องส่วนกลางต่างๆ ด้วยตนเองผ่านทาง Pruksa Application
◼️ Car Smart Access : ระบบเปิดปิด Gate Barrier อัตโนมัติ ด้วยการ scan ทะเบียนรถ
◼️ Smart Parking : ระบบตรวจสอบที่จอดรถที่ว่างในแต่ละชั้น เพื่อความสะดวกของลูกบ้าน
จะเห็นเลยว่าโครงการนี้นำเทคโนโลยีหลายฟังก์ชันาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าเป็นอย่างมากครับ
คอนโดนี้เหมาะกับใคร?
เอาตรงๆ แอบเชียร์คนซื้ออยู่เองโดยเฉพาะคนในพื้นที่ที่กำลังเล็งคอนโดมานานหรืออยากเปลี่ยนคอนโด ผมมองว่านี่คือทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจเพราะมาในสเปกและราคาที่มองทั้งแพกเกจภาพรวม คุ้มค่ากว่ารายอื่น รวมถึงการอัพเดทนวัตกรรมต่างๆ เป็นการตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงๆได้มากกว่า และสำหรับคนที่จะซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ผมแนะนำห้องเล็กที่น่าจะตอบโจทย์พนักงานบริษัทในย่านนี้ได้ดี เพราะราคาก็ไม่ได้สูงมาก เทียบกับความใหม่ในทุกๆด้าน เรียกว่าเปลี่ยนใจเช่าโครงการอื่นมาเช่าโครงการนี้ได้ไม่น่ายาก
…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
1.ทำเล : เรื่องของทำเลนี้ ผมมองว่าเป็นทำเลทางเลือกในอนาคต เพราะเป็นทำเลที่ไม่ได้หวือหวาแต่ก็ไม่เงียบเหงา เดินทางเข้า-เมืองง่าย อย่างไปอารีย์ก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชม.ครับ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสิ่งเกิดใหม่ที่ทำให้ทำเลนี้พัฒนาไปอีกเยอะ ดังนั้น ตามความเห็นผม ผมว่าทำเลนี้ไม่ได้แย่ และหากว่าได้คอนโดที่ราคาคุ้ม สเปกดี ทำเลนี้ก็ตอบโจทย์ครับ
2.ราคา : เริ่ม 1.89 ล้าน* ราคาเฉลี่ยประมาณ 100,000 บาท* บอกตามตรงครับว่าราคาจูงใจสำหรับทำเลนี้ เพราะส่วนใหญ่ตลาดโซนนี้ตอนนี้วิ่งไป 120,000 บาท/ตร.ม.* กันแล้วครับ ดังนั้น ถามผมว่าราคาดีไหม ราคาดีครับ และคุ้มกับการที่จะซื้อ เพราะเป็นโครงการใหม่ แสดงว่าต้องมีอะไรที่มากกกว่าโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ครับ
3.ส่วนกลางและสเปก : ส่วนตัวผมชอบตั้งแต่คอนเซ็ปท์ Tropical Luxury ที่ทางโครงการนำมาสะท้อนผ่านทางดีไซน์และสเปกภายในส่วนกลาง ซึ่งผมชอบทั้ง Mood & Tone ที่ใช้และการตกแต่ง รวมถึงฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาของส่วนกลางอย่าง Nano Garden, Co-Kitchen และส่วนกลางชั้น 35-36 และ Rooftop ที่ดูมีความ Luxury แต่ก็ไม่ทิ้งความร่มรืนของต้นไม้ครับ
4.รูปแบบห้องและสเปก : รูปแบบห้องท่นี่ดีอย่างครับ ทุกยูนิตห้องเป็นครัวปิด และการกั้นห้องหรือแบ่งฟังก์ชันของที่นี่ค่อนข้างลงตัว พื้นที่ตรงกลางหรือพื้นที่เหลือก็ออกแบบจัดเป็นชั้นวางของ ซึ่งเป็นการบริหารพื้นที่ให้ใช้สอยได้เต็มพื้นที่ โดยไม่มีพื้นที่เสียเปล่า ส่วนสเปกภายในห้อง ถือว่าดีและคุ้มค่า อันนี้ผมขอชมจริงๆ นะ เพราะซื้อไปถือว่าคุ้มครับ
5.การลงทุน :
โครงการนี้เหมาะจะซื้ออยู่เอง เพราะถ้าคนที่มาซื้ออย่างที่ผมบอกคือเป็นคนในพื้นที่ที่มีความเคยชินกับทำเลนี้น่าจะเหมาะมากกว่าครับ ในส่วนของลงทุนปล่อยเช่า ถ้าให้คุ้มก็แนะนำห้องเล็ก เพื่อปล่อยเช่าให้พนักงานบริษัทแถวนั้นก็มีโอกาสอยู่ครับ
📌 30 มี.ค.นี้ เปิดจองรอบ Exclusive Day ที่อาคารเพิร์ล แบงคอก พิเศษ ยูนิตราคาโปรโมชั่น 1.89 ล้าน* ในวันงานนี้ และให้สิทธิ์ลูกค้าที่จองห้องของโครงการเท่านั้น
📌 31 มี.ค. เปิดจองรอบปกติ ที่สำนักงานขายโครงการ
ใครสนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ >> https://bit.ly/2UI4GLN