เดอะ ทรี หัวหมาก The Tree Hua Mak
“สถานีลำสาลี” จุดเปลี่ยนการเดินทางรูปแบบใหม่ของคนบางกะปิ
การมาของรถไฟฟ้าหลายสาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างความเจริญให้กับพื้นที่นั้นๆ แต่ถ้าทำเลไหนที่มีรถไฟฟ้าหลายสายมาบรรจบกัน และยังใกล้ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล อันนี้ต้องถือว่าเป็น Hub ที่ใหญ่และเชื่อมต่อความเจริญ, การเดินทาง รวมถึงการพักอาศัยได้อย่างครบสมบูรณ์แบบ และในย่าน “รามคำแหง-หัวหมาก” ก็คงต้องพูดถึงสถานี “ลำสาลี” ที่มีรถไฟฟ้าถึง 3 สายมาบรรจบกันหรือเป็นสถานี Interchange จุดเปลี่ยนถ่ายการขนส่งของการเดินทางเข้า-เมืองแบบใหม่ของคนบางกะปิ โดยรถไฟฟ้า 3 สายได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (เปิดให้บริการปี 2566), รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (เปิดให้บริการปี 2564) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (เปิดให้บริการปี 2568)
“เดอะ ทรี หัวหมาก” คอนโดแปลงที่ดินสวย หน้ารถไฟฟ้า 3 สาย หลังเดอะมอลล์ บางกะปิ
หลายคนคงเห็นแปลงที่ดินติดทางเข้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ฝั่งถนนรามคำแหงมาสักพักและอย่างที่เราเคยไปสืบมาให้ ว่าเป็นของ “เดอะ ทรี หัวหมาก” ซึ่งยอมรับว่าแปลงสวย เพราะด้านหลังติดทางเชื่อมไปเดอะมอลล์ บางกะปิ ด้านหน้าติดรถไฟฟ้าซึ่งเดินไป 350 ถึงแยกลำสาลี ซึ่งเป็นสถานี Interchange ที่จะเดินทางไปไหนต่อก็ง่าย (เมื่อรถไฟฟ้าเสร็จ) นอกจากนี้ ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของฝั่งรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น
- ใกล้ เดอะมอลล์บางกะปิ และยังมี Super Market และ Shopping Mall อื่นๆ อาทิเช่น Tesco Lotus, แมคโคร, ตะวันนา และ Mixed-Use Complex (Renovate เดอะมอลล์รามคำแหง)
- ใกล้โรงพยาบาลชื่อดัง เช่น รพ.เวชธานี และ รพ.รามคำแหง
- ใกล้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) , มหาลัยรามคำแหง , มหาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)
- ใกล้ท่าเรือบางกะปิ สามารถเดินทางทางน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงเวลาการจราจรติดขัดบนท้องถนน
- ใกล้ทางด่วนศรีรัช สามารถเดินทางสะดวกเชื่อมต่อเมืองได้แบบง่ายๆ
แนวคิดเพื่อคนกรุงกับภารกิจเพิ่มออกซิเจนให้เต็มปอด ของคอนโด “เดอะทรี หัวหมาก”
ปัจจุบันที่อยู่อาศัยต้องเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยธรรมดา Developer หลายๆ เจ้า จึงพยายามคิดนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่และตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค สำหรับ “เดอะ ทรี หัวหมาก” เขามากับแนวคิดเพื่อคนกรุงกับภารกิจเพิ่มออกซิเจนให้เต็มปอด (Ozone) ด้วยนวัตกรรมเครื่อง Oxygen Generator ระบบที่ผลิตและควบคุมปริมาณออกซิเจนในอากาศ จากปกติค่าออกซิเจนในเมือง คือ 19% ให้เป็น 21% โดยจัดระบบนี้ไว้ที่ส่วนกลางที่ชื่อว่า O2 Lounge และ O2 Creative Zone โดยลูกบ้านจะสามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอดด้วยอากาศบริสุทธิ์ถึง 21% ที่บริเวณส่วนกลางดังกล่าว ซึ่งนวัตกรรมตัวนี้ ถือว่าเป็นจุดขายนึงของโครงการที่น่าสนใจและไม่ค่อยเห็นโครงการไหน ปกติจะอยู่ในโรงพยาบาลตามห้องเด็กและห้องผู้สูงอายุครับ เป็นอีกจุดขายที่ดีและน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อยู่อาศัยได้ดี
ส่วนกลางตอบโจทย์กับความครบที่ไม่ต้องออกไปไหน
อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจของโครงการนี้ คือ การทำ Sky Walk Way ที่เชื่อมต่อทั้งส่วนกลาง, ที่พักอาศัย ที่จอดรถและการเดินทางเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ทางเข้าโครงการที่มีร้านค้าและส่วนกลางด้านบน เชื่อมมายังอาคารพักอาศัยอีก 3 อาคาร รวมถึงเชื่อมต่อส่วนกลางชั้นที่ 31 ไปยังอาคารจอดรถ และกระโดดข้ามไปเดอะมอลล์ บางกะปิ ได้อย่างสบายๆ เหมือนเดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นส่วนนึงของโครงการ
เรามาดูส่วนกลางกันบ้าง ซึ่งก็เรียกว่าครบครันแบบที่ไม่ต้องออกไปไหน ตั้งแต่ว่ายน้ำกับวิวเมือง 360 องศาไปเลยกับสระว่ายน้ำยาว 30 เมตร แถมมุมถ่ายรูปสวยอวดโซเชียลบน Sky Deck ไม่ซ้ำใคร และสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่นี่มีทั้งสนามเด็กเล่น และ Sky Kid’s Playground สุดท้ายตอบโจทย์ผู้ที่รักสุขภาพ ด้วย Active Gym ครับ
การออกแบบ ที่ยึดความเป็นส่วนตัว เป็นที่ตั้ง
ในส่วนของการออกแบบตึก ตอนแรกก็แปลกใจว่า ทำไมต้องสร้างถึง 3 อาคารพักอาศัย? จริงๆ สร้างแค่อาคารเดียวก็ได้ แต่ความตั้งใจของโครงการ ต้องการสร้าง Exclusive กับความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 7 ยูนิต/ชั้น/อาคาร ก็ถือว่า ให้ความเป็นส่วนตัวเหมือนอยู่บ้านมากกว่าอยู่คอนโด เพราะโดยปกติคอนโด ชั้นนึงจะมีห้องพักประมาณ 15 ยูนิตขึ้นไป ซึ่งบางครั้งก็ดูแออัด เปิดประตูไปทางไหนก็เจอคนเยอะไปหมด นั่นก็ถือว่า โครงการ “เดอะทรี หัวหมาก” ใส่ใจและวางคอนเซ็ปท์มาเพื่อผู้พักอาศัยจริงๆ รวมถึงการจัดทำ Sky Walk Way ที่ได้กล่าวไปข้างต้นด้วย
มิติใหม่ของรูปแบบห้องที่ตอบโจทย์ลูกค้า
และในส่วนสุดท้ายนี้ โครงการ “เดอะทรี หัวหมาก” มีห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน (26 ตร.ม.) และ 2 ห้องนอน (42 ตร.ม.) ซึ่งการออกแบบแปลนห้องพักอาศัยทั้ง 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ส่วนตัวมองว่าลงตัวและตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 ประเภท
1 ห้องนอน 26 ตร.ม. มิติใหม่ของการพักอาศัย
ด้วยแปลนห้องหน้ากว้าง 8 เมตร สามารถใช้ทุกฟังก์ชั่นของพื้นที่ห้องได้อย่างลงตัว และชมวิวได้ทุกส่วนของพื้นที่ห้อง หากเดินเข้ามาที่ห้องตัวอย่าง จะเจอโซนห้องนั่งเล่น (Living Area) ก่อน ทางขวามือจะเป็นครัวและห้องน้ำ ซึ่งในห้องตัวอย่าง ครัวเป็นแบบเปิด แต่หากจะเข้าไปอยู่อาศัยจริง สามารถที่จะติดบานเลื่อนกั้นโซนได้อีก (แต่อาจจะแคบไปหน่อย) ส่วนทางด้านซ้ายมือ จะเป็นห้องนอน ตามความเห็นส่วนตัวมองว่าห้องรูปแบบนี้จะให้พื้นที่ของห้องนอนและห้องนั่งเล่น (Living Area) ใหญ่ ทำให้มีพื้นที่พักผ่อนค่อนข้างเยอะและไม่เสียพื้นที่ไปกับส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน อย่างครัวหรือห้องน้ำ
2 ห้องนอน 42 ตร.ม. ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
ด้วยพื้นที่ห้องนอน 2 ห้องนอนและห้องน้ำ 2 ห้องน้ำ และแบ่งฟังก์ชั่นของห้องได้อย่างลงตัว อีกทั้งรูปแบบ 2 ห้องนอนนี้ มีเพียง 2 ยูนิตต่อชั้นและยังเป็นห้องหัวมุมที่ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่อย่างแท้จริง จากห้องตัวอย่าง พื้นที่ 42 ตร.ม. จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ ซ้ายและขวาเป็นห้องนอน 1 (Master Bedroom) และห้องนอน 2 (Bedroom) ส่วนตรงกลางเป็นพื้นที่นั่งเล่น พร้อมโซนทานอาหาร และครัวจะอยู่ทางด้านหน้าทางเข้าซ้ายมือ ส่วนห้องน้ำได้ถึง 2 ห้องน้ำ โดยจะมีห้องน้ำในห้องนอน Master Bedroom 1 ห้อง ส่วนอีก 1 ห้องจะอยู่ใกล้ทางเข้าห้องนอน 2 หากแขกมาบ้านก็สามาถใช้ห้องน้ำจุดนี้ได้ โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งห้องนี้ตอบโจทย์เรื่องของห้องนอนและห้องน้ำ ที่จะใช้ฟังก์ชั่นได้ห้องนอน 2 ที่ใหญ่ขึ้นทำให้สามารถทำเป็นห้องนอนลูก วางเตียงนอนได้ถึง 2 ชั้น แบบไม่อึดอัดจนเกินไป รวมถึงการที่มีห้องน้ำถึง 2 ห้องไว้บริการด้วย ลักษณะแบบนี้จะคล้ายๆ ทาวน์เฮ้าส์ และห้องนี้อาจจะทำครัวไม่เน้นทำครัวหนัก เน้นออกไปทานอาหารนอกบ้านมากกว่า เนื่องจากพื้นที่ครัวอาจจะมีจำกัด
ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา
- ทำเล : ส่วนตัวผมมองว่า ทำเลนี้ค่อนข้างดีเลยครับ เพราะอย่างที่บอกด้านหน้าคือ ติดรถไฟฟ้าถึง 3 สาย และด้านหลังยังเชื่อมต่อทางเข้า-ออกห้างเดอะมอลล์ บางกะปิอีก รวมถึงใกล้โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย, และยังเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง, ขึ้น-ลงทางด่วนก็สะดวกสบาย จะบินไปต่างประเทศก็ใช้เวลาเดินทางไปสุวรรณภูมิแค่แป๊บเดียว คือ มันตอบโจทย์ Life Style คนเมืองและคนที่ต้องการความสะดวกสบายให้กับชีวิตการอยู่อาศัยจริงๆ ครับ แต่หลายๆ คนก็คงมองว่าด้านหลังติดคลองแสนแสบด้วยจะดีจริงๆ หรอ? อันนี้ส่วนตัวผมมองว่าจริงอยู่ครับที่ติดคลองอาจจะมีเรื่องกลิ่นเรื่องเสียง แต่มีข่าวออกมาแล้วนะครับว่า กม.ผังเมืองใหม่ที่จะเริ่มใช้ปีหน้า จะมีการปรับภูมิทัศน์โซนบางกะปิให้ดูดีขึ้นและหนึ่งในการปรับปรุงก็คือคลองแสนแสบที่เรากังวลนั่นเองครับ ดังนั้น ถ้าตัดเรื่องคลองแสนไป ผมมองว่าทำเลนี้ คือ ทำเลที่จะมาเปลี่ยนการเดินทางรูปแบบใหม่ของคนบางกะปิกันเลยครับ
- ราคา : ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท น่าสนใจครับ แต่ติดที่ขนาดห้องเริ่มต้น คือประมาณ 23 ตร.ม. ผมมองว่าเล็กไปหน่อยครับ และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 9x,xxx บาท/ตร.ม. ซึ่งถ้าถามผมก็คงแพงกว่าโครงการใกล้เคียงที่มาในราคาถูก แต่ความได้เปรียบของโครงการนี้ คือ ทำเลจริงๆ รวมถึงจำนวนยูนิตทั้งโครงการน้อยและมีความเป็นส่วนตัวสูง ทำให้ผมมองว่า ราคาถึงแม้ว่าจะแพงกว่าคู่แข่ง แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว ผมมองว่าคุ้มครับ ตอบโจทย์สำหรับคนที่จะอยู่อาศัยจริงๆ ครับ
- ส่วนกลางและสเปกภายในห้อง : ส่วนกลางโครงการนี้ผมขอชมเชยนะครับ เพราะเท่าที่ผมได้ไปสัมผัส ผมมองว่าที่นี่คิดเรื่องส่วนกลางมาดี โดยเฉพาะ Sky Walk Way ที่เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิตจริงๆ เพราะเดินทางเชื่อมกันได้ทั้งโครงการจากด้านหน้าไปยันที่จอดรถของโครงการ รวมถึงเดินไปห้างเดอะมอลล์ บางกะปิได้อย่างสบายๆ อีกด้วย และ O2 Lounge และ O2 Creative Zone ส่วนกลางที่เป็นแนวคิดที่ตอบโจทย์สำหรับคนเมืองที่ต้องอยู่กับมลพิษรอบด้าน และมีภาวะความเครียดจากการทำงาน เมื่อกลับมาที่พัก ทุกคนก็คงอยากจะพักผ่อนพร้อมอากาศที่บริสุทธิ์จริงๆ ส่วนกลางนี้ก็จะทำให้ร่างกายที่เหนื่อยล้า อ่อนเพลียจากข้างนอกได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยเครื่อง Oxygen Generator ระบบที่ผลิตและควบคุมปริมาณออกซิเจนในอากาศมีค่าความบรสุทธิ์ถึง 21% ก่อนที่จะได้กลับขึ้นไปพักผ่อนบนห้องพัก ส่วนสเปกของภายในห้องที่โครงการให้ ผมมองว่า พอใช้ครับ เสียดายมากที่โครงการนี้ไม่ได้ Fully Furnished และให้แค่ครัว, สุขภัณฑ์ และแอร์ และที่ผมมองว่าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ คือ ครัวที่มีขนาดเล็กและดูสเปกครัวแล้วก็ไม่ได้ดีมากครับ เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน
- การลงทุน : เรื่องของการลงทุน สำหรับโครงการนี้ผมมองว่าตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยเอง เพราะทั้งทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกรอบข้างที่มากมายและจัดเต็ม รวมถึงส่วนกลางและสเปกของที่โครงการนี้ให้ก็ค่อนข้างดี ทำให้ผมมองว่าคนที่ซื้ออยู่อาศัยจริงๆ จะคุ้มค่ามากครับ ส่วนเรื่องของการลงทุนจริงๆ Yiled ปล่อยเช่าทำเลนี้ถือว่าดี อยู่ที่ประมาณ 5% แต่หากจะได้ Yiled ดีดี ก็คงต้องเลือกโครงการที่ซื้อมาในราคาที่ถูก ซึ่งโซนนี้ก็มีตัวเลือกหลายโครงการสำหรับลูกค้า ผมเลยคิดว่าถ้าจะซื้อลงทุนโครงการนี้ก็อาจจะพอได้แต่กำไรอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่อยากจะได้ครับ
วันที่ 27 ต.ค.นี้ โครงการเดอะทรี หัวหมาก จะเปิดให้จองรอบ VVIP Day ก่อนใคร ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป สิทธิพิเศษภายในวันงาน มีส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ห้องโปรโมชั่นจับฉลาก ราคา 1.99 ล้านบาทและ 2.39 ล้านบาท และถ้าแจ้งมาจากเพจ นักสืบอสังหา จะได้รับ Voucher The Mall เพิ่มอีก 10,000 บาท หากใครสนใจสามารถลงทะเบียน ได้ที่ http://bit.ly/2QHPzjB