The Story of SENA Development
แบรนด์น้องที่น่าจับตามองว่าจะแซงแบรนด์รุ่นพี่
ถ้าพูดถึง“เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ก็คงได้ยินติดหูเป็นอย่างดี เพราะหลายๆ โครงการที่ทาง “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ทำมาก็สร้าง Brand ไว้ให้คนได้รู้จัก ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย อย่างแบรนด์ Niche, The Kith, PITI และ Sena Town หรือห้างที่มีชื่อเสียง อย่าง “Sena Fest” ทำให้ผมอยากสืบประวัติของบริษัทเสนา วันนี้ผมเลยทำ The Story of SENA Development มาให้ดูกันว่าเส้นทางของบริษัทนี้เป็นมาอย่างไร มาดูกันครับ
จากธุรกิจลอดช่องสู่ธุรกิจอสังหา
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นจากการทำธุรกิจขายลอดช่อง แล้วทำไมถึงเข้าสู่วงการอสังหาฯ ได้ เหตุเกิดจากการที่คุณธีรวัฒน์ คุณพ่อของ ผศ.ดร.เกษรา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในปัจจุบัน คิดว่าถ้าหากเขาขายลอดช่อง เมื่อขยายธุรกิจก็แค่เป็นร้านลอดช่องติดแอร์เท่านั้น เลยลองเข้ามาสู่ธุรกิจค้าไม้ อยู่มาหลายปีจึงเป็นเจ้าของโรงงานไม้ และส่งไม้ให้กับ Developer และเห็นว่า Developer รวย จึงคิดอยากจะมาลงทุนทำอสังหาเองบ้าง แต่ด้วยทุนไม่เยอะ จึงไปเซ้งบ้านประมาณ 5-6 หลัง มาขายต่อ จึงเกิดโครงการ “เสนาวิลล่า” ขึ้นมา ซึ่งชื่อนี้มาจากป้ายที่ติดหน้าโครงการของเดิมอยู่แล้วและไม่อยากเปลี่ยน จึงคงไว้ด้วยชื่อนี้ต่อไป จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการอสังหาในปี 2524 นั่นเอง และก่อตั้งบริษัท”กรุงเทพเคหะกรุ๊ป จำกัด” เพื่อรุกตลาดทุกประเภทที่อยู่อาศัยทั้ง บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และคอนโด ในปี 2536 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2552 จนเป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้
30 ปี ความภาคภูมิใจของเสนา
จากจุดเริ่มของธุรกิจขายลอดช่อง จนมาถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่รู้จักถึง 30 ปี เรามาดูกันว่า ความภาคภูมิใจของเสนาจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้าง?
-
- ปี 2524 เริ่มเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์
-
- ปี 2539 เริ่มโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ชื่อ “วิลล่า รามอินทรา” และ “เสนาแกรนด์โฮม”
-
- ปี 2550 เปิดตัวคอนโดใหม่ภายใต้ชื่อ “Niche”
-
- ปี 2551 รุกขยายตลาดธุรกิจใหม่ อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า SENA House
-
- ปี 2552 จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน
-
- ปี 2553 เปิดตัวคอนโดแบรนด์ใหม่ชื่อ “The Kith”
-
- ปี 2556 เปิดตัวห้างใหม่ในย่านเจริญนคร ชื่อว่า “Sena Fest”
-
- ปี 2557 จุดเริ่มต้นการเป็นผู้นำ Go Green ด้วยการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแนวคิด Green Smart Design
-
- ปี 2558 เปิดตัวคอนโดหรู แบรนด์ Nich Pride รุกธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Solar Farm
-
- ปี 2560 ผนึกพันธมิตรกับฮันคิวเพื่อพัฒนาอสังหา
-
- ปี 2561 ร่วมมือกับ “แอคคิวท์ เรียลตี้” ทำธุรกิจซื้อ ขาย ฝาก เช่า เจาะกลุ่มต่างชาติ และพัฒนาแอปพลิเคชัน SENA 360° Service
- ปี 2562 ตั้งแผนธุรกิจด้วย “Succeed in small goals to achieve Big Dreams”
และในปัจจบัน เสนา เป็นผู้ที่พัฒนาโครงการทั้งแนวราบ แนวดิ่ง และธุรกิจในเครือหลายๆ อย่าง เรามาดูกันว่าแต่ละธุรกิจเป็นอย่างไรไกันบ้างครับ
เริ่มต้นธุรกิจอสังหาฯ สู่การตีตลาดธุรกิจแนวราบ
ต้องบอกว่า บ้านเดี่ยว คือ จุดเริ่มต้นของการลงทุนในวงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ โดยเริ่มแรกจากการไปเซ้งบ้าน เสนาวิลล่า มาขาย 5-6 หลังก่อน ดังนั้น บ้านเดี่ยว จึงเป็นโคงการแรกที่ทางเสนา ได้สร้างแบรนด์และตีตลาดลงมา และถัดมาก็ทำแบรนด์ทาวน์โฮม ปัจจุบันโครงการของแนวราบมีทั้งหมด 9 โครงการ ได้แก่
ซึ่งก็มีทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ ที่มีดีไซน์ทั้งโมเดิร์นและออกแนวธรรมชาติ รวมไปถึงการนำ Solar เข้ามาช่วยเพื่อประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย และระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกลุ้มมากกว่า ในส่วนของราคาจะเริ่มตั้งแต่ 4-12 ล้าน* เรามาดูกันต่อครับว่า แล้วโครงการแนวดิ่งจะมีโครงการไหน แบรนด์ไหนน่าสนใจอีกบ้าง มาดูกันครับ
ต่อยอดความสำเร็จธุรกิจแนวราบ มุ่งหน้าสู่ธุรกิจแนวดิ่ง
หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบแล้ว ทางบริษัทก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง จึงอยากที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งๆ ที่ตอนนั้นในทีมงานของบริษัทไม่มีใครมีประสบการณ์เรื่องของการทำคอนโดมิเนียมมาก่อนเลย ซึ่งผมถือว่าเป็นการที่ผู้บริหารรวมถึงองค์กร ลองเสี่ยงลงทุน เพื่อความก้าวหน้าในอนาคตมากเลยครับ เพราะหากเราไม่มีความชำนาญตรงไหน เราก็มักจะไม่ไปเล่นในสนามตรงนั้นแน่นอน แต่ด้วยปณิธานที่ตั้งมั่นเพื่อความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ไม่ยอมแพ้และก้าวต่อไป จนเกิดการพัฒนาแบรนด์คอนโดแบรนด์แรก ที่ชื่อว่า “Niche” ในปี 2550 และมีแบรนด์อื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีกหลายแบรนด์ ได้แก่ The Kith และ PITI
“Niche” เป็นแบรนด์ที่เจาะกลุ่มตั้งแต่ล่าง-บน โดยมีแตกไลน์มาทั้งหมด 3 แบรนด์ คือ
Niche ID เป็นแบรนด์ล่างสุดของแบรนด์นิช ระดับราคาจะอยู่ที่ ล้านต้น-ล้านกลาง
Niche Mono เป็นแบรนด์ระดับกลาง-บน ราคาประมาณ 2-3 ล้าน*
Niche Pride เป็นแบรนด์ระดับบน ราคาปะมาณ 3-5 ล้าน
และนี่ก็เป็นซีรีย์ของตระกูล นิช ทั้งหมด เรามาดูแบรนด์ The Kith และ Shophouse กันต่อเลยครับ
“The Kith”
เป็นแบรนด์ที่จับกลุ่ม Mass ราคาจะต่ำกว่าล้าน แต่ปัจจุบันจะประมาณล้านต้นๆ
ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ The Kith เปิดการขายมาแล้ว 3 โครงการ และแบรนด์ตัวล่าสุดที่จัดให้เป็น Luxury Brand ของเสนา ก็คือ แบรนด์ PITI
“PiTi”
แบรนด์ใหม่และเป็น Luxury Brand ของเสนาที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เจาะกลุ่มคอนโดราคา 5-10 ล้าน* ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์คอนโดที่ราคาแพงสุดของเสนาตอนนี้
และในปีนี้ทางเสนาจะมีเปิดโครงการใหม่เปิดช่วง Q2 ปีนี้กันครับ ต้องรอลุ้นว่าจะลงที่ทำเลไหนนะครับ เรามาต่อกันที่ธุรกิจอาคารพาณิชย์กันครับว่าจะมีโครงการไหนน่าสนใจบ้างครับ
บุกตลาดอย่างครอบคลุม
ขยายสู่ธุรกิจใหม่ในเครือของเสนา
อาคารพาณิชย์
มาต่อกันที่ธุรกิจอาคารพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันจะมีแค่ 1 แบรนด์หลัก คือ SENA Shophouse
และจะมีเปิดตัวโครงการอาคารพาณิชย์ใหม่ใน Q3 ปีนี้อีก 1 โครงการครับ
ธุรกิจในเครือ
พอผมมาสืบประวัติของเสนาแล้ว ผมก็ต้องรู้สึกตกใจเหมือนกันว่าทำไม เสนา ทำธุรกิจเยอะและธุรกิจในเครือของเสนา ค่อนข้างหลากหลายและครอบคลุม ผมจึงแอบไปสืบจากข่าววงใน ว่าทำไม? จึงต้องแตกไลน์ธุรกิจใหม่หลายธุรกิจ ได้คำตอบมาว่า ผศ.ดร.เกษรา เคยบอกกับทางทีมภายในบริษัทว่าถึงแม้เราจะเป็นบริษัทมหาชน แต่เราจะทำเหมือนธุรกิจครอบครัว ดังนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต้องอยู่ต่อไปได้ ผมได้ยินผมประทับใจเลยครับ มองเห็นเลยว่าเขามองการณ์ไกลมาก เพราะในโลกความเป็นจริงธุรกิจมีขึ้นมีลง ดังนั้น ถ้ามีธุรกิจอื่นๆ ไว้ด้วยก็จะลดความเสี่ยงลงไปเยอะ งั้นเรามาดูต่อเลยครับว่าธุรกิจในเครือของเสนา มีอะไรบ้าง?
SENA Solar Energy
บริษัทบริการครบวงจรเรื่องของพลังงานแสงอาทิตย์ โดยที่ให้ทั้งคำปรึกษา, การออกแบบและติดตั้ง รวมถึงบริการหลังการขาย เมื่อเกิดปัญหาในการติดตั้ง ผู้ดูแลโดยบริษัทชั้นนำ
SENA Fest
ห้างสรรพสินค้าคอมมิวนิตี้มอลล์ ทำเลเจริญนคร มีทั้งร้านอาหารและร้านค้าที่มีชื่อเสียง
SENA House
อพาร์ทเม้นท์บริการห้องพักรายเดือนและรายวัน ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี อย่างพหลโยธิน 50 ครับ ตกแต่งและให้เฟอร์นิเจอร์แบบครบชุด ผมมองว่าทางเสนา ตีตลาดแบบครบวงจร พยายามเก็บรายละเอียดทุกเม็ดตาม Concept Made From Her จริงๆ ครับ เพราะในอนาคตถ้าตลาดขายไม่ดี ตลาดให้เช่าก็รองรับได้และเริ่มเก็บฐานลูกค้าไว้ก่อน ถือว่าเป็นการทำธุรกิจที่ค่อนข้างฉลาด ลงทุนหนักแต่พยายามลดความเสี่ยงด้วยการแตกไลน์ธุรกิจที่หลากหลาย
Pattaya Country Club
สนามกอล์ฟ และพื้นที่ให้ได้เล่นกีฬาประเภทกอล์ฟและบ้านพัก เพื่อพักผ่อน
SENA Warehouse
โกดังให้เช่าพื้นที่ทั้งระยะสั้น, ระยะยาว และพื้นที่จัดงานอีเว้นท์ ค่าเช่า 30 บาท/ตร.ม. อยู่ตรงสุขุมวิท 50
และจากความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อ “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ทำให้ปี 61 ทางเสนาได้มีรางวัลที่การันตีถึงความสำเร็จ และเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” มาดูกันว่ารางวัลแห่งความสำเร็จและการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมที่จะก้าวกระโดดแซงหน้าพี่พี่ต่อไปมีอะไรบ้างครับ
พัฒนาการที่ไม่หยุดยั้ง ของเสนาดีเวลลอปเม้นท์
เสนาเตรียมวิ่งแซงหน้าพี่ๆ
สำหรับปีที่ผ่านมานับว่าเป็นการเดินทางที่ก้าวกระโดดมากสำหรับเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งผลงานในอสังหาฯ แนวดิ่งค่อนข้างเด่นชัดและประจักษ์แก่สายตาด้วยการเปิดโครงการจำนวนยูนิตมากที่สุดในรอบ 5 ปี ครองแชมป์อันดับ 2 เปิดตัวคอนโดยูนิตมากที่สุดในปี 2561 และมีการทำกลยุทธ์เรื่องของการสร้างพันธมิตรร่วม เพื่อกระจายความเสี่ยงในด้านการลงทุน รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี และการสร้างแบรนด์ของ “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านสื่อต่างๆ เรามาดูกันว่าเสนา ทำอะไรมาบ้าง
จับมือกันร่วมลงทุนของเสนากับบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป” ที่เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2560 มาจนถึง 2561 โดยมีโครงการที่ร่วมลงทุนด้วยกันทั้งสิ้น 6 โครงการ รวมเป็นมูลค่ากว่า 20,846 ล้านบาท
นอกจากนี้เสนายังได้เข้าไปซื้อหุ้นบริษัทต่างๆ เพื่อตอกย้ำความมั่นคงในธุรกิจตามแผนการขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่ม EEC เสนาเองไม่ได้มองการตลาดแต่เพียงแค่ในประเทศเท่านั้น เพราะการที่เสนาร่วมมือกับ “แอคคิวท์ เรียลตี้” ที่เป็นมืออาชีพในด้านการซื้อ ขาย ฝาก เช่า ทำให้เห็นได้ว่าเสนามีการเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะในประเทศจีน
แอปพลิเคชัน SENA 360° Service
พัฒนาอย่างต่อเนื่องและสร้างจุดแข็งให้กับบริษัทได้อย่างยั่งยืน แต่ไม่เพียงเท่านี้ครับ เพราะเสนายังไม่หยุดที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดในปี 2561 ก็ได้เพิ่มความสะดวกเข้าไปในแอปพลิเคชันบริการหลังการขายแบบครบวงจรอย่าง SENA 360° Service ด้วยการต่อยอด New Feature อย่างบริการการเดินทาง Liluna / บริการแจ้งซ่อม Fixzy / เบอร์โทรฉุกเฉินตลอด 24 ชม. SOS เป็นต้น โดยแอปพลิเคชันนี้เปิดตัวรองรับทั้ง Android และ IOS อีกด้วย
เป็นผู้นำตลาด ใช้ “Solar Rooftop” รายแรก
เป็นผู้นำร่องการนำเทคโนโลยี Solar Rooftop มาใช้ในโครงการบ้านจนกลายเป็นผู้นำตลาดไปในที่สุด เพราะปัจจุบันพวกเทคโนโลยีต่างๆ ถูกนำมาใช้กับบ้านเรือนและคอนโดฯ ค่อนข้างมาก แต่ยังไม่มีใครที่จะเป็นผู้นำตลาดได้อย่างแท้จริง จนกระทั่งเสนาได้นำร่องติดตั้ง Solar Rooftop ให้บ้านทุกหลัง และยังมีตัวช่วยที่เรียกว่า Solar Scale-Up ให้ลูกบ้านสามารถเลือกติดตั้ง Solar ตามไลฟ์สไตล์ของบ้านได้ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้แล้ว เสนายังได้มีการติดตั้งเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า EV Charger ภายใต้ชื่อ “EV Ready” ให้กับบ้านในโครงการ เสนา พาร์ควิลล์ และ เสนา พาร์คแกรนด์ อีกทั้งยังติดตั้งภายในส่วนกลางของคอนโดมิเนียมในโครงการของตนอีกด้วย
สร้างภาพลักษณ์ จัดแคมเปญ “MADE FROM HER”
เสนา ได้มีการจัดแคมเปญใหญ่เป็นภาพยนต์โฆษณาที่ยอดวิวพุ่งกระฉูดหลักสิบล้านที่นำเอามุมมองของผู้หญิงมาใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการของตน โดยเชื่อว่าถ้าผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้ โดยตั้งงบการตลาดไว้ที่ 40 ล้านบาท ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ร่วมมือกับเอเจนซี่ Monday ในการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุด “MADE FROM HER” ที่ถ่ายทอดมุมมองความคิดของผู้หญิงเกี่ยวกับความรู้สึกและความกังวลใจต่างๆ ในการซื้อที่อยู่อาศัย ในช่องทาง Youtube มียอดวิวสูงถึง 13,573,937 เพราะเหตุนี้จึงทำให้เสนากลายเป็นแบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากกว่าแบรนด์อื่น
ในขณะเดียวกันคอนเซปต์นี้ก็สะท้อนถึงปรัชญาขององค์กรเกี่ยวกับความไว้วางใจจากลูกค้าอีกด้วย ถือเป็นความภูมิใจของบริษัทที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เป็นการทำงานด้วยหัวคิดและบริการด้วยหัวใจจริงๆ ครับ
และยังคงสืบความต่อเนื่องของการก้าวกระโดดส่งต่อมายังปี 2562 ด้วยการตั้งเป้าหมายที่ว่า Small is Big ครั้งหน้าผมจะมาขยายความตั้งใจเป้าหมายนี้ของเสนา กันอีกครั้งครับ
ใครสนใจโครงการของ “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://bit.ly/2uo0aXQ